ซูเสี่ยวลู่ขยับตัวเข้าไปในอ้อมอกของซูเสี่ยวหลิง นางกอดซูเสี่ยวหลิงแน่น พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้งว่า “แต่ข้าก็ยังอยากให้พี่สามได้เงินเยอะๆ แบบนี้พี่จะได้ไม่ต้องกลัวอะไรอีก”
เงินทอง แม้ในยามใดก็ยังเป็นสิ่งที่มอบความมั่นคงในใจให้แก่ผู้คนได้
โดยเฉพาะซูเสี่ยวหลิงที่เคยผ่านความยากลำบากและความทุกข์มาหลายปี บาดแผลในอดีตยังคงฝังลึกอยู่ในใจ แม้ซูเสี่ยวลู่จะไม่สามารถลบล้างสิ่งที่เคยเกิดขึ้นได้ แต่นางก็หวังจะมอบความสุขให้พี่สาวมากพอที่จะเติมเต็มหัวใจ
เช่นนี้ แม้ต้องพบเจอกับความทุกข์อีกเพียงใด หัวใจก็ยังคงมีความสุขหล่อเลี้ยงอยู่
“เสี่ยวลู่...”
ซูเสี่ยวหลิงฟังคำสัญญาอันแสนบริสุทธิ์ของน้องสาว นางรู้สึกเหมือนหัวใจถูกกระแทกอย่างแรงจนคำพูดจุกอยู่ในลำคอ
“ขอบคุณนะ” นางเอ่ยอย่างสะอื้น ทั้งที่มันควรจะเป็นหน้าที่ของนางในการปกป้องซูเสี่ยวลู่แท้ๆ
ซูเสี่ยวลู่เอียงศีรษะพิงกับไหล่ของซูเสี่ยวหลิง พลางยิ้มและกล่าวว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพราะข้าเป็นน้องสาวของพี่”
เงินที่ได้จากการขายครีมลบรอยแผลเป็น นางตั้งใจจะใช้มันเป็นที่พึ่งพิงให้แก่ซูเสี่ยวหลิง
ซูเสี่ยวหลิงรู้สึกซาบซึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ นางร้องไห้ออกมา
ซูเสี่ยวลู่เริ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย นางคิดว่า นี่คงเป็นเพราะนางอยู่ใกล้ตาเฒ่าอู๋มานานเกินไปจนได้รับอิทธิพลมาบ้างแล้ว
ซูเสี่ยวลู่หาวพลางกล่าวว่า “พี่สาม ข้ารู้สึกง่วงมาก ข้าจะนอนแล้วนะ ราตรีสวัสดิ์”
นางหลับตาลงและไม่ได้พูดอะไรอีก
ไม่นานนัก นางก็เข้าสู่มิติของตนเองเพื่อจัดการกับสมุนไพรที่สะสมไว้
ส่วนซูเสี่ยวหลิง นางร้องไห้อย่างเงียบงันอยู่ในความมืด เสียงสะอื้นผสานกับเสียงหัวเราะแผ่วเบา สลับกันไป จนเวลาผ่านไปนานพอสมควร นางจึงค่อยสงบใจลงได้
นางยื่นมือไปหยิกแก้มซูเสี่ยวลู่อย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงจุมพิตเบาๆ ที่แก้มของนาง และกระซิบเสียงแผ่ว “ฝันดีนะ” ก่อนจะปิดตาลงและเข้าสู่นิทรา
เช้าวันถัดมา
ครอบครัวกินข้าวเช้าร่วมกัน แล้วออกเดินทางไปยังตัวเมือง
ซูเสี่ยวลู่ไม่ต้องการให้ใครช่วยถือสัมภาระอีกต่อไป นางวิ่งนำหน้าทุกคนด้วยความรวดเร็ว
เมื่อมาถึงในตัวเมือง ซูเสี่ยวลู่ไปยังจวนตระกูลซุนพร้อมกับตาเฒ่าอู๋ ส่วนซูซานหลางและจ้าวซื่อนำสินค้าไปเปิดร้าน ซูฉง ซูหวา และโจวเหิงก็พากันไปเรียนที่สำนัก
ซูเสี่ยวลู่กลับมายังลานในจวนตระกูลซุน จัดการเก็บของเล็กน้อย ก่อนจะไปหาซุนเป่าซ่านและซุนเป่าเชี่ยน
ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ซุนเป่าซ่านและซุนเป่าเชี่ยนฟื้นฟูร่างกายได้ดีมาก จนไม่ดูเหมือนคนผอมแห้งอีกต่อไป
พักหลังนี้ ซูเสี่ยวลู่สอนพวกเขาฝึกไทเก๊ก
กิจกรรมที่หนักหน่วงเกินไปนั้นไม่เหมาะกับพวกเขา แต่สำหรับร่างกายที่อ่อนแอ การฝึกไทเก๊กที่เคลื่อนไหวช้าๆ แต่เปี่ยมด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง
ซูเสี่ยวลู่ก็ฝึกไปพร้อมกัน ทุกวันยังคงฝึกยืนม้าเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา