เมื่อถึงวันที่สามมู่หรงฉีได้ส่งคนมาบอกกับเธอว่าคนของวัดต้าหลี่ได้ลอบมาถามเขาถึงสถานที่ที่จินซื่อจะต้องถูกเนรเทศไป
ที่แรกคือหลิ่งหนานซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่านางสนมถูกเนรเทศไป ที่นั่นเป็นแหล่งทอผ้าของราชวงศ์ เหล่านางสนมที่ได้กระทำความผิดต่างก็ต้องทำงานตรากตรำอยู่ที่นั่นเพื่อเป็นการรับโทษ
ส่วนอีกทีหนึ่งคือทางทิศพายัพที่อยู่ใกล้พรมแดนของซีเหลียง ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องการทำงานที่นี่ พูดแค่เรื่องสภาพความเป็นอยู่นั้นบอกได้ว่าย่ำแย่มากอีกทั้งมักจะมีทหารม้าขุกข้ามเขตแดนเข้ามา ซึ่งไม่ค่อยสงบสุขนัก
ที่จริงแล้วตัวเลือกนี้ไม่จำเป็นต้องสงสัย หลิ่งหนานนั้นอยู่ใกล้กับเมืองหลวงมีสภาพภูมิอากาศที่ดีไม่มีทางที่จะได้รับความลำบากจากพายุทะเลทราย แต่ว่าอย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องของคนตระกูลเหลิ่ง มู่หรงฉีจึงตัดสินใจได้ยากจึงได้ส่งคนของตนไปสอบถาม
เหลิ่งชิงหลางนั่งอิงตัวอยู่บนเตียง เธอครุ่นคิดเล็กน้อย ดวงตาของเธอมีความเย็นชาแวบขึ้นมาแล้วพูดออกมาอย่างเด็ดขาดว่า “ทางทิศพายัพ”
คนที่ถูกส่งมาถามชะงักไปมือของเขาสั่นเล็กน้อย แม่จ้าวที่อยู่ด้านหลังนั้นกลับรู้สึกผิดคาด “เกรงว่าฮูหยินคงจะไม่ค่อยเข้าใจใช่ไหมเจ้าคะว่าสองที่นี้เป็นอย่างไร พรมแดนทางทิศพายัพนั่นเป็นสถานที่ลำบากของพวก....”
“พูดมาก!” เหลิ่งชิงหลางพูดตัดบทแม่จ้าวอย่างราบเรียบ “เจ้าจะเขาใจอะไร ข้ามีแผนของข้า”
แม่จ้าวก็ยิ่งไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
ข้ารับใช้นำคำไปบอกกับมู่หรงฉี มู่หรงฉีก็แปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็ทำตามที่เธอบอก
เมื่อทุกอย่างถูกตัดสินใจไปแล้ว สองวันหลังจากนั้นจินซื่อก็ถูกเทรเทศไปทางทิศพาพัพ
เหลิ่งชิงหลางฝืนยันตัวเองขึ้นจากเตียงนอนแล้วไปส่งจินซื่อที่จะออกเดินทาง
ในคุกใต้ดินที่มืดมิดนั้น จินซื่ออยู่ในชุดนักโทษ ผมของเธอถูกปล่อยลงมาโดยที่ไม่เหลือท่าทางที่ดูยิ่งใหญ่และดูหยิ่งผยองเหมือนในตอนแรกเลน
เมื่อเธอเห็นเหลิ่งชิงหลางก็กร้องไห้ตัวโยนและบ่นถึงเงินที่มหาเสนาบดีเหลิ่งให้ไว้กับเธอ ส่วนทางครอบครัวของเธอนั้นเย็นชามากและยังนึกถึงเหลิ่งชิงเจียวอยู่
“หลางเอ๋อร์ ท่านอ๋องรักลูกมากใช่ไหม เจ้าไปขอร้องท่านอ๋องให้แม่ที ขอเพียงท่านอ๋องเปิดปากเหลิ่งชิงฮวนจะนับเป็นตัวอะไรกัน ทำไมวัดต้าหลี่ถึงได้ช่วยนางกัน แม่ถึงจะถูกปล่อยตัว”
เหลิ่งชิงหลางร้องไห้ออกมาอย่างไม่ได้สรรพ “ลูกทั้งคุกเข่าและขอร้องแล้ว แต่เหลิ่งชิงฮวนเอาแต่ขวางอยู่ตลอด ทางท่านอ๋องไม่มีความหวังเเล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วแม้แต่สถานที่ที่จะส่งท่านแม่ไป ท่านอ๋องก็ฟังคำพูดของเหลิ่งชิงฮวนแล้วตัดสินใจไป ลูกไปขอร้องก็ไร้ประโยชน์”
“งั้นเจ้าก็ไปขอร้องพ่อของเจ้าสิ อย่างไรเสียพวกเราก็เป็นสามีภรรยากันมากกว่าสิบกว่าปี เขาจะกลเห็นขาไปลำบากอะไรที่ย่ำแย่นั่นได้หรือ สถานที่ที่แรงแค้น และเกรงว่าอาจจะไม่มีทางได้กลับมาอีกแบบนั้น!”
“ครั้งนี้ท่านพอใจแข็งจริงๆเจ้าค่ะ ขอร้องไปก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้เหลิ่งชิงเฮ่อเป็นขุนนางอยู่ในราชสำนัก ถูกเลือกเป็นข้ารับใช้ใกล้ตัวของฮ่องเต้ ไม่ใช่คนที่คนจะจวนมหาเสนาบดีจะเข้าไปคุยส่วนตัวได้อีกแล้ว อีกอย่างถึงแม้ว่าทางทิศพายัพนั้นจะแร้นแค้น แต่ก็อยู่ไกลหูไกลตาฮ่องเต้ ท่านหน้าสามารถออกคำสั่งกับพวกขุนนางที่นั้นได้เพื่อให้ดูแลท่านแม่ เหลิ่งชิงฮวนคงไม่สามารถสอดมือไปยุ่งกับสถานที่ที่อยู่ห่างไกลแบบนั้นได้เจ้าค่ะ”
จินซื่อขบกรามแน่นอย่างโกรธแค้น “จะไม่ให้ข้าได้มีโอกาสกลับมาได้ดีเลยใช่ไหม ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะต้องให้นังแพศยานี่ทรมาณอย่างถึงที่สุด!”
“ขอเพียงแค่ข้าได้มีโอกาสกับท่านอ๋องอีกครั้ง ข้าจะให้เหลิ่งชิงฮวนไม่ตายดี!”
คนจะกูลจินเหลือบตามองแม่จ้าวที่อยู่ด้านหลังของเหลิ่งชิงหลาง “เจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะพูดกับฮูหยินของพวกเจ้า”
ทั้งสองคนถอยออกไปเงียบๆและรออยู่ด้านนอกคุก และฟังคำสั่งของเหลิ่งชิงหลาง
เดิมทีทั้งสองคนนั้นไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่ออยู่ด้วยกันข้างนอกก็ต่างไม่พูดอะไรออกมา เมื่อมองไปยังอุปกรณ์ลงโทษต่างๆก็รู้สึกกลัว
จือชิวดูแลตัวเองด้วยการหาเก้าอี้มานั่ง และหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ห่อเมล็ดแตงออกมาจากแขนเสื้อ และกะเทาะเปลือกออกมาสองสามเมล็ด
“ดังนั้นแล้วข้าอยากจะเตือนเจ้าสักหน่อย พวกนางำร้ายคุณชายใหญ่ ทำร้ายพระชายา ฮูหยินเองก็ลงมือกับแม่แท้ๆของตัวเองได้ลง นางร้ายกาจแบบนี้แล้ว แม่จ้าว เจ้าเป็นแค่บ่าวคนหนึ่งต่อให้เจ้าภักดีกับฮูหยินเหมือนสุนัข แต่ฐานะของเจ้าดีไปกว่าจินอี๋เหนียงหรือ”
เจ้าลองคิดดูเองเถอะ ถือว่าข้ามีเมตตาเตือนเจ้าแล้วกัน และได้ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้ หลังจากนี้หยุดทำตัวเป็นหมาบ้าที่เอาแต่กัดคนอื่นไปทั่วที่พอว่างแล้วก็ต้องหาเรื่องไปทั่วได้แล้ว”
พูดจบเธอก็เดินบิดเอวเข้าไปในคุก
แม่จ้าวยืนค้างอยู่ที่เดิม เธอรู้สึกเพียงมีลมเย็นพัดผ่านกระดูกสันหลังของเธอ เหงินเย็นไหลซึมออกมาจากทุกอนูรูขุมขน
เธอยอมรับว่าตัวเองมองเรื่องต่างๆอย่างละเอียดแล้วและมีฝีมือดีกว่าจือชิว แต่นี่คงเป็นปัญหาที่นิสัยที่เธอนั้นแพ้ให้กับจือชิว ต่อให้เธอนั้นมีประสบการณ์ที่มากมายแต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะมีคนใจแข็งขนาดนี้
สองวันหลังจากนั้นจินอี๋เหนียงก็ถูกส่งออกไปจากเมืองหลวง แม่จ้าวเองก็ไม่รู้ว่าตอนที่จินอี๋เหนียงจะเดินทางนั้นได้สั่งอะไรไว้กับเหลิ่งชิงหลาง รู้แต่เพียงว่าเธอได้นำเงินส่วนตัวมอบให้กับเหลิ่งชิงหลางเพื่อให้เธอได้เอาไปใช้ดูแลคุณชายน้อย
เหลิ่งชิงหลางไปเอาเงินนั่นมาจากห้องเก็บเงินและไม่ได้ไปเยี่ยมน้องชายแท้ๆของตนที่จวนมหาเสนาบดีเลย อีกทั้งกลับไปซื้อยาบำรุงผิวพรรณมาสองกล่องจากฟังผิ่นจือ
ยาบำรุงผิวพรรณนี้แพงมากจริงๆ เหลิ่งชิงหลางนั้นกระเป๋ากลวงมาตั้งแต่แรกแต่ยังกล้าแอบอ้างตำแหน่งของมูหรงฉีเบิกเงินจากจวนอ๋องมาเข้ากระเป๋าถึงสองครั้ง คนดูแลคลังเองก็ไม่กล้าถามาก ตอนนี้ครั้งนี้เธอมีเงินแล้วจึงได้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย
ไม่รู้ว่าเลยว่าจินซื่อนั้นหวงแหนขนาดไหน คุณชายน้อยที่แสนอวดดีตอนนี้อยู่ในจวนมหาเสนาบดีจะมีชีวิตเป็นอย่างไรจะถูกคนรับใช้รังแกไหม
เธอมองในมุมมองของบ่างรับใช้แล้วรู้สึกเป็นห่วง แต่เหลิ่งชิงหลางกลับไม่สนใจเลยสักนิด
สิ่งนี้ทำให้เธออดที่จะเชื่อคำพูดของจือชิวไม่ได้เป็นความรู้สึกเป็นกังวลและโศกเศร้าให้กับพรรคพวกของตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...