เหลิ่งชิงฮวนได้พักผ่อนแล้ว แต่ก็ได้ยินเสียงคนทุบประตูจากข้างนอกพร้อมกับเสียงตะโกนของรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด “รีบเปิดประตูเร็ว ท่านอ๋องถูกพิษ!”
เหลิ่งชิงฮวนลุกขึ้นทันทีด้วยความประหลาดใจ ไม่สนใจจะสวมรองเท้า เปิดประตูด้วยเท้าเปล่าแล้วรีบออกไปทันที
เมื่อเปิดประตูเรือนไปก็เห็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดพยุงมู่หรงฉีที่สภาพร่อแร่อยู่ด้านนอก พลางตะโกนเรียกเหลิ่งชิงฮวนอย่างตื่นตูม “พระชายา รีบดูท่านอ๋องเร็วเข้า ท่านอ๋องบาดเจ็บทั้งยังถูกพิษ พิษเข้าสู่หัวใจแล้ว”
หัวใจของเหลิ่งชิงฮวนกระตุกวูบ ก่อนจะยกนิ้วขึ้นจับชีพจรของมู่หรงฉีและเอ่ยถามอย่างร้อนรน “ถูกพิษอะไร”
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดรีบเอ่ย “ก็ใบมีดอาบยาพิษที่พระนางมอบให้กระหม่อมไงขอรับ”
เหลิ่งชิงฮวนถึงได้วางใจ “เช่นนั้นก็ไม่เป็นอะไรมาก รีบพยุงเขาเข้ามาในห้องเร็ว”
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดรีบพยุงมู่หรงฉีที่ไร้เรี่ยวแรงเข้าไปที่เก้าอี้ในห้องหลัก แต่มู่หรงฉีหลับไม่หยุดฝีเท้า เดินตรงเข้าไปที่ห้องนอนและล้มตัวลงนอนทันทีพร้อมกับปิดเปลือกตา คิ้วเรียวขมวดแน่น ใบหน้าดูเจ็บปวดรวดร้าว
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดรู้สึกว่าตอนที่ท่านอ๋องเข้ามาด้านในก็ดูมีเรี่ยวมีแรง ทำไมพอล้มตัวลงนอนถึงได้ดูเหลวเหมือนดินโคลนไร้ประโยชน์เช่นนี้
ใบมีดอาบยาพิษของเขาทำบาปอะไรลงไปกันแน่
“ปากแผลอยู่ตรงไหน” เหลิ่งชิงฮวนจุดตะเกียง นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดยกแขนข้างที่บาดเจ็บของมู่หรงฉีขึ้นมา เลิกแขนเสื้อขึ้นให้เห็นบาดแผล
เหลิ่งชิงฮวนมองก่อนจะลุกขึ้นและผ่อนลมหายใจ “โชคดีที่มาเร็ว”
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดตกใจ “พิษนี้ร้ายแรงขนาดนี้เลยหรือ เพียงแค่เวลาไม่นานเอง”
เหลิ่งชิงฮวนถอนใจ “ข้าหมายความว่าโชคดีที่มาเร็ว ไม่เช่นนั้นบาดแผลนี้ก็คงสมานเองไปแล้ว”
เอ่อ…
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเกาหัวยิกๆ เมื่อครู่เขาเข้าใจผิดจนทำให้ท่านอ๋องบาดเจ็บแต่ก็ไม่ได้ดูบาดแผลของเขา เพียงแค่คิดว่าท่านอ๋องของเขาเป็นพวกที่โดนแทงแล้วก็ไม่ร้องสักแอะ เรื่องตื่นตระหนกเช่นนี้คงบาดเจ็บไม่น้อย
แต่ตอนนี้พอลองมองดูบาดแผลนั้นเป็นเพียงแค่ผิวหนังถลอกยาวเพียงหนึ่งนิ้ว แม้จะมีสีเขียวช้ำแต่เลือดหยุดไหลไปเองแล้ว
ดูเหมือนเขาจะ…ตื่นตูมไปเอง
มู่หรงฉีกระแอมอย่างเขินอาย ในน้ำเสียงมีความน้อยอกน้อยใจ “บาดแผลเจ็บและร้อนผ่าว”
เหลิ่งชิงฮวนเหลือบมองเขา หลังจากที่ทำการฆ่าเชื้อบาดแผลและใส่ยาแล้วหยิบด่างทับทิมออกมา ใช้สำลีก้านชุบและทาลงบนแผลของเขา
“นี่มันยาอะไรกัน” รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเอ่ยถามอย่างสงสัย “ทำไมถึงมีสีเช่นนี้ สีม่วงเหลือเกิน”
“ยาถอนพิษประจำตระกูล ฆ่าเชื้อ ลดบวม กลับไปล้างก็หายแล้ว”
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่ามู่หรงฉีไม่ได้มองที่บาดแผล แต่ลดเปลือกตาลงจ้องมองตรงไปที่พื้น เธอจึงมองตามลงไปก่อนจะพบว่าเมื่อครู่เธอรีบร้อนจนลืมใส่รองเท้า
ก็เลยอดโมโหขึ้นมาไม่ได้ “มองอะไรนักหนา!”
ก่อนจะรีบหารองเท้ามาใส่
มู่หรงฉีถึงได้ดึงสายตากลับมาอย่างพึงพอใจ ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย เฝ้ามองดูเธอรักษาบาดแผลให้อย่างเชื่อฟัง
เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเหอะๆ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ท่านอ๋องก็รีบกลับไปเถอะเพคะ หากห้องตำราเกิดหลังคารั่วจนตำราอันล้ำค่าของท่าเปียกคงไม่ดีแน่”
ในขณะที่พูดข้างนอกก็เกิดฟ้าผ่า ทำให้ท้องฟ้าเปิดออกและฝนก็ตกลงมาอย่างกะทันหัน ทั่วทั้งเรือนเต็มไปด้วยเสียงดัง “เปาะแปะ” ทันที
“โอย ฝนนี่นึกจะตกก็ตกมาเสียอย่างนั้น” รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดมองดูท้องฟ้าข้างนอกอย่างหงุดหงิด “ข้าเกรงว่าฝนจะไม่หยุดสักพัก ท่านอ๋องรอที่นี่ก่อนนะขอรับ กระหม่อมจะไปเอาร่มมา”
มู่หรงฉีนอนนิ่งไม่ขยับราวกับโคลน “ลมพัดแรงเช่นนี้จะถือร่มได้หรือ”
น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดสัมผัสได้ถึงความสั่นในเสียงของเขา ก่อนจะหันหน้าไปชำเลืองมองมู่หรงฉีที่ทำท่าหมดแรง จากนั้นก็หันไปมองเหลิ่งชิงฮวน ก่อนจะเข้าใจว่าวันนี้มู่หรงฉีต้องการจะทำอะไร
ขึ้นไปกินลมชมวิว ดูท่าคงจะขึ้นไปรื้อหลังคามากกว่า เมื่อเห็นว่าฝนกำลังจะตก หากเอากระเบื้องออกห้องตำราก็จะเปียกฝน แล้วก้จะมีข้ออ้างให้ไปนอนที่ตำหนักฉาวเทียนกับพระชายา!
ขออภัยที่กระหม่อมคิดว่าท่านนั้นคิดสกปรก แค่สิ่งที่ท่านทำวันนี้ รวมกับใบหน้าสับปลับก็ล้วนสนับสนุนการคาดเดาของกระหม่อม ช่างไม่เข้ากับฐานะของท่านเลยจริงๆ!
แต่รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดไม่ใช่คนโง่ มิฉะนั้นเขาคงไม่สามารถนั่งในตำแหน่งนี้ได้ เขามักจะแข็งนอกอ่อนในทั้งยังเจ้าเล่ห์เพทุบาย
เมื่อคิดเช่นนี้ก็รู้สึกว่าท่านอ๋องคงเสียใจมานานแล้วแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากรั้ง จึงได้วิ่งมาหาตน ดื่มสุราให้เมามายและทำเป็นปากพล่อย วางอุบายให้ตนทำให้ทั้งสองคนคืนดีกัน
เมื่อคิดเช่นนี้ทะเลาะกันที่หัวเตียงพอมาปลายเตียงก็คืนดีกัน แล้วตัวเขาจะอยู่ต่อทำไม รีบกลับไปอาบน้ำดีกว่า
เขายิ้มอย่างมีเลศนัย “กระหม่อมลืมไป ตอนนี้บนตัวท่านอ๋องมีบาดแผลจึงไม่อยากโดนฝน ฝนห่าใหญ่เช่นนี้จะฝ่าออกไปได้อย่างไร เช่นนั้นกระหม่อมจะกลับไปเฝ้าห้องตำราของท่านอ๋องก่อน หากเปียกฝนขึ้นมาก็จะได้ช่วยดูพวกผลงานชิ้นเอกของท่านด้วย”
ไม้อ่อนดัดง่ายจริงๆ มู่หรงฉีพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “มีเจ้าช่วยดูห้องตำราของข้าเช่นนั้นข้าก็วางใจ ไปเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...