ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 168

เหลิ่งชิงฮวนพลิกข้อมือขึ้นมา ในมือมีเข็มเงินซ่อนอยู่อีกสิบกว่าเล่ม

“ไม่ใช่ว่าท่านเก่งกาจหรอกหรือ? ถ้าเช่นนั้นข้าจะวางยาท่านให้แรงเป็นสิบเท่า ดูสิว่าท่านจะต่อต้านไหวอยู่อีกหรือไม่”

มู่หรงฉีกลัวจนมีเหงื่อเย็นๆไหลออกมาทั่วทั้งตัวทันที เสน่ห์ที่มีเต็มเปี่ยมในตัวหายวับไปในทันที เข็มเงินของผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจมากขนาดไหน ทำไมเขาจะไม่รู้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ประมือกันก็ได้รู้ซึ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากให้นางทำสำเร็จ ร่างกายก็จะขยับไม่ได้ทั้งตัว นี่ไม่เท่ากับว่าเป็นหมูขึ้นเขียงรอให้นางเชือดอย่างนั้นหรือ?

นอกจากนี้เขายังสงสัยมาตลอดว่า เข็มเงินของเหลิ่งชิงฮวนซ่อนเอาไว้ที่ไหนกันแน่ ไม่กลัวว่าเข็มจะแทงตัวเองบ้างหรือไง?

“พี่ใหญ่ช่วยข้าด้วย!” มู่หรงฉีมีเพียงต้องทำตัวเป็นคนอ่อนแอ่ร้องขอความช่วยเหลือเท่านั้น

แม้ว่าเหลิ่งชิงเฮ่อจะอยู่ข้างนอกห้อง แต่ก็ใจจดใจจ่อกับการเคลื่อนไหวข้างในห้องเสมอ ตราบใดที่ทั้งสองคนสามารถกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ตัวเองก็จะทำภารกิจที่เสิ่นหลินเฟิงมอบหมายให้สำเร็จ และก็สามารถถอนตัวออกมาได้ แต่ไม่เชื่อเลยว่าอยู่ ๆ จะได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของน้องเขยตัวเองดังขึ้น

ทั้ง ๆที่เป็นถึงเทพแห่งสงคราม ทำไมถึงตกอยู่ในมือของน้องสาวที่อ่อนแอและบอกบางของตัวเองได้ น่าสังเวชเช่นนี้เลยหรือ?

“ท่านอ๋องเกิดอะไรขึ้นหรือ?”

มือของเหลิ่งชิงฮวนที่กำลังจะทิ่มลงไปหยุดลงทันที จากนั้นก็เอ่ยพูดโดยกดเสียงให้ต่ำลง “ท่านยังนับว่าเป็นผู้ชายอยู่หรือไม่?”

มู่หรงฉีชำเลืองมองเข็มเงินในมืออย่างหวาดกลัว “ถ้าเจ้ากล้าแทงลงมา ข้าก็จะตะโกนฟ้องพี่ใหญ่ของเจ้าว่าเต้าหู้เหม็นของพระชายานั้นเป็นที่นิยมได้อย่างไร?”

“ทำไมท่านถึงได้ไร้ยางอายเช่นนี้!” เหลิ่งชิงฮวนกัดฟันกรอด

“เดิมทีพวกเราเป็นสามีภรรยากัน ความสนุกสนานในห้องส่วนตัวแบบนี้ไม่ควรจะเอ่ยพูดกับคนอื่น”

“น้องเล็ก เจ้ากำลังทำอะไรอยู่หรือ?” เหลิ่งชิงเฮ่อเห็นว่าข้างในห้องไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่ตัวเองก็ไม่กล้าหุนหันพลันแล่นบุกเข้าไปข้างใน จึงจี้ถามขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค

“ชิงฮวนกำลังวางยาพิษใส่ข้า บีบบังคับให้ข้าเขียนหนังสือหย่าให้ จากนั้นก็จะหนีไปสุดขอบฟ้า”

“นี่มันไร้สาระชัดๆ” เหลิ่งชิงเฮ่อแหวกผ้าม่านเดินเข้าไปข้างใน จึงจับเหลิ่งชิงฮวนที่กำลังทำท่าโจมตีได้อยู่หมัด จึงเอ่ยตำหนิด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ท่านอ๋องไม่ถือโทษโกรธอะไรกับเจ้าเพราะเอ็นดูเจ้า ทำไมเจ้าถึงทระนงตนเพราะเห็นว่าเป็นที่โปรดปรานแบบนี้ได้เล่า? ออกจากจวนอ๋องไป เจ้าจะไปหาสุภาพบุรุษที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้อย่างท่านอ๋องได้จากที่ไหนอีก?”

ข้า...

เหลิ่งชิงฮวนกัดฟันแน่นพร้อมเอ่ย “เขาทำลายหนังสือหย่าของข้านี่หรือที่เรียกว่าโปรดปรานข้า ก็แค่อยากเล่นข้าให้ตายเท่านั้น! จวนอ๋องแห่งนี้ข้าไม่สามารถอยู่ต่อได้อีกแม้แต่วันเดียว”

หากยังอยู่ต่อไป ลูกก็คงจะต้องคลอดออกมาแล้ว

ดูเหมือนว่ามู่หรงฉีจะได้กองหนุนเพิ่มเติมขึ้นมาในชั่วพริบตา “แม้ว่าชิงฮวนไม่อาจปรับตัวให้เข้ากับฐานะของพระชายาอ๋องฉีที่ตนเองเป็นอยู่ได้ แต่พี่ใหญ่โปรดวางใจเถอะ ข้ามีความอดทนเพียงพอที่จะรอ”

เหลิ่งชิงเฮ่อพูดชี้แนะด้วยท่าทีจริงจัง “ระหว่างสามีภรรยา มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง อย่าเป็นเพราะว่าพูดจาไม่ลงรอยต้องเป็นเหตุให้หย่ากันเลย เจ้าดูนิสัยของเจ้าสิ ก่อเรื่องวุ่นวายจนลือกันไปทั่วทั้งเมือง ถึงขนาดที่ท่านพี่อย่างข้าไปทำงานก็ไปไม่ได้ ต้องรีบมารับเจ้ากลับจวนมหาเสนาบดี

ในภายภาคหน้าจะเอาแต่ใจเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ถึงแม้ท่านอ๋องจะมีความอดทนแค่ไหน ก็คงจะทนกับอารมณ์ของเจ้าไม่ไหวหรอก หากไม่มีเรื่องอะไรแล้วพี่ขอตัวกลับจวนรีบไปรายงานให้ท่านพ่อรับทราบ จะได้ไม่ทำให้ท่านต้องกังวลใจ”

“ท่านพี่เป็นพี่ของใครกันแน่!” เหลิ่งชิงฮวนว่ากล่าวอย่างน้อยใจ “เรื่องทั้งหมดมันไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย”

เหลิ่งชิงเฮ่อหันหน้ากลับมามองไปที่เตียงของเหลิ่งชิงฮวน และกล่าวว่าอย่างมีเหตุและผลกับมู่หรงฉี “ผู้น้อยมอบน้องสาวให้แต่งงานกับท่านอ๋อง ขอให้ท่านอ๋องรักและทะนุถนอมให้ดี หากยังหลงใหลอนุจนละเลยภรรยาเอก ละเลยน้องสาวของข้า ให้นางต้องนอนเฝ้าห้องอย่างโดดเดี่ยวผู้เดียว ต่อให้น้องสาวข้ายอม แต่จวนมหาเสนาบดีของพวกเราไม่มีทางยอมเป็นแน่”

มู่หรงฉีเอ่ยขอโทษขึ้น “สร้างปัญหาให้กับพี่ใหญ่ต้องลำบากใจเสียแล้ว เป็นความจริงที่ข้ายุ่งกับเรื่องการทหารมากไป จนละเลยเหลิ่งชิงฮวนไป วันนี้ข้าจะรีบย้ายกลับมาอยู่ที่เรือนฉาวเทียนทันที และอยู่กับชิงฮวนให้มากๆยิ่งขึ้น”

แต่ละคำที่พูดออกมาล้วนแต่ชิงฮวนอย่างโน้นชิงฮวนอย่างนี้ เรียกได้คล่องปากเชียวนะ

เหลิ่งชิงเฮ่อพยักหน้าอย่างพอใจ และสะบัดมือเดินกลับออกไปไม่สนใจอีก

เหลือทิ้งไว้เพียงคนสองคนที่จ้องตากันไปมา และหลังจากนั้นไม่นาน เหลิ่งชิงฮวนก็ระเบิดอารมณ์ส่งเสียงคำรามออกมา “มู่หรงฉี ท่านทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”

ประสาทสัมผัสของมู่หรงฉีกลับมาเป็นปกติตั้งนานแล้ว เขาปัดแขนเสื้อของเขาไปมาเบา ๆ “พี่ใหญ่ของเจ้าพูดถูก พวกเราไม่ควรเป็นเพราะมีปากมีเสียงกันเอะอะก็จะหย่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าที่เป็นบุรุษ ยิ่งไม่ควรถือโทษมากเกินไป และเอาแต่คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้า”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่าตัวเองถูกทำให้โกรธจนมือเท้าชาไปหมดแล้ว พยายามทำให้ตัวเองมีจิตใจและอารมณ์ที่สงบ

“พวกเราไม่ได้ทะเลาะกัน หม่อมเองก็ไม่ได้ทำประชดประชันไปเพราะงอนแต่อย่างใด มู่หรงฉีเรื่องนี้คนอื่นไม่รู้ แต่ท่านรู้ดีเป็นที่สุดว่าในท้องของหม่อมฉันกำลังท้องลูกของผู้ชายคนอื่นอยู่ ผู้ชายอย่างท่านไม่มีทางรับได้”

“เมื่อสักครู่เจ้ายังบอกอยู่เลยว่าข้าไม่ผู้ชาย”

“สมองของข้ามีเจ้าเข้าไปไง”

“หากหม่อมฉันไม่อยากเป็นเล่า?”

“อยากเป็นหรือไม่อยากเป็น ตอนนี้เจ้าก็เป็นพระชายาของข้าแล้ว”

“พระชายาของท่าน? แต่หม่อมฉันทั้งโหดเหี้ยม ชั่วร้าย ชอบอิจฉาริษยา และยิ่งไปกว่านั้นอดทนไม่ไหวกับนางจิ้งจอกที่ท่านเลี้ยงไว้ในเรือนจื่อเถิงตัวนั้น ท่านอยากให้หม่อมฉันเป็นพระชายาของท่าน ถ้าเช่นนั้นก็ย่อมได้ แต่ก่อนอื่นท่านต้องไล่เหลิ่งชิงหลางออกจากจวนอ๋องฉีไป ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเป็นพระชายาอ๋องฉีอะไรนั้นเลย ให้หม่อมฉันคอยยกน้ำชา คอยปรนนิบัติรับใช้ท่านก็ยังได้”

สีหน้าของมู่หรงฉีอึมครึมลง นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “เงื่อนไขอื่นได้หรือไม่?”

“ไม่รับปากหรือ?” เหลิ่งชิงฮวนยิ้มอย่างเย้ยหยัน “พูดอย่างเปิดอกตรงไปตรงมาเลยนะ หม่อมฉันไม่ใช่คนที่จะแสดงบทบาทพี่น้องที่มีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งอะไรนั้นได้ พวกเราสองคนเป็นเหมือนดั่งน้ำกับไฟ มีข้าไม่มีนาง มีนางไม่มีข้า อย่าได้คาดหวังว่าพวกเราสองคนจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและใช้สามีร่วมกันได้”

มู่หรงฉีไม่แม้แต่จะคิดสักนิดก็ส่ายหัวปฏิเสธช้าๆ “ข้าไม่อาจทำผิดต่อนางได้”

ในใจของเหลิ่งชิงฮวนรู้สึกขมฝาดๆขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ว่าจะพูดไปพันหมื่นล้านคำ ตัวเองก็ยังเทียบเท่าเหลิ่งชิงหลางไม่ได้อยู่ดี มู่หรงฉีสามารถทำเพื่อเหลิ่งชิงหลางยอมที่จะหย่ากับตัวเองได้ แต่กลับไม่ยอมที่จะขับไล่เหลิ่งชิงหลางออกไปเพื่อตัวเอง หัวใจของชายหนุ่มกว้างใหญ่ได้ขนาดนี้เลยหรือ? สามารถทนรับการมีตัวตนของผู้หญิงถึงสองคนได้ในเวลาเดียวกัน

แม้แต่ตัวเองยังรู้สึกอิจฉาเลย

นางยักไหล่ขึ้น “ถ้าเช่นนั้นคงไม่มีอะไรจะต้องเจรจากันอีก? มู่หรงฉี ท่านอยากจับปลาสองมือ ท่านฝันมากไปแล้ว! ชั่วชีวิตนี้อย่าได้คิดว่าจะมีหวัง!”

“ข้าสามารถทำให้นางเลิกมาหาเรื่องเจ้าอีกได้”

“เหอะๆ บุญคุณความแค้นระหว่างพวกเรา ท่านคิดว่าแค่นางยอมรามือแล้วจะจบเรื่องได้งั้นหรือ? ท่านไม่ให้หม่อมฉันไป ถ้าเช่นนั้นก็รอดูต่อไปได้เลย ว่านางจะตายด้วยน้ำมือของหม่อมฉันได้อย่างไร”

“จำเป็นต้องทำถึงขั้นฆ่าแกงกันเลยหรือ? ก็แค่มีปากมีเสียงกันนิดหน่อยเท่านั้น และพวกเจ้ายังเป็นพี่น้องกันอีกด้วย”

มีปากมีเสียง? ร่างเดิมถึงแก่ชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นเพราะนางเป็นคนทำ หากไม่ใช่เพราะโชคชะตาอันประจวบเหมาะของตัวเอง ท่านพี่ก็คงตายในน้ำมือนางกับจินซื่อแล้ว ตัวเองก็คงต้องทิ้งความสุขไปตลอดชีวิตและตายไปทั้งยังงั้น นี่เป็นแค่การมีปากมีเสียงกันไม่กี่คำของผู้หญิงงั้นหรือ?

“หากมีวันหนึ่ง พวกเราทั้งสองคนจำเป็นต้องมีใครคนหนึ่งตายไปข้างหนึ่ง เมื่อถึงเวลานั้นท่านจะช่วยใคร?” เหลิ่งชิงฮวนถามขึ้นมาด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา