“ข้าไม่เชื่อ!” มู่หรงฉีโต้กลับอย่างหนักแน่น “ตอนที่ชิงฮวนยังอยู่ในวังนางยังไม่รู้วิชาแพทย์ นางจะวางยานั่นได้อย่างไร”
“ท่านพี่มีอิทธิพลต่อคนอื่นมา ยาที่ใช้สำหรับรักษาโรคนางเองก็เหมือนว่าจะหาวิธีเอามาได้ตลอด ก็เหมือนกับเล่นละครอีกฉาก ยานั่นสำหรับนางแล้วจะเป็นเรื่องยากหรือเพคะ”
“ชิงฮวนเป็นคนมีคุณธรรม นางไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้แน่ นอกเสียจากว่านางจะเป็นคนยอมรับด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นข้าไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด ข้าจะไปถามนางเดี๋ยวนี้”
“ไม่ได้เด็ดขาดเพคะ”
“เพราะอะไร” มู่หรงฉีจ้องเขม็งไปที่เธออย่างสงสัย
“ท่านพี่ไม่รู้เรื่องระหว่างข้ากับท่านอ๋อง เป็นเพราะคืนนั้นสองคนนั้นทำงานไม่สำเร็จ นางจึงทำเหมือนว่าข้าพ้นเคราะห์ครั้งนั้นไปได้ ถ้าหากว่านางรู้เรื่องระหว่างหม่อมฉันกับท่านอ๋องก่อนหน้านี้และแพร่มันออกไป ชิงหลางเองก็คงต้องขอตายไม่สู้เอาหัวไปโขกเสาเสีย เพื่อกันไม่ให้คนอื่นลอบวิจารณ์กันและพูดกันว่าหม่อมฉันเข้าไปยั่วยวนสามีของพี่สาวตัวเอง หม่อมฉันไปกระโดดแม่น้ำก็ไม่สามารถล้างให้บริสุทธิ์ไม่ได้ ขอร้องล่ะเพคะ เรื่องนี้อย่าได้เอ่ยกับท่านพี่แม้แต่คำเดียว”
“ถ้าหากว่าไม่ถามให้ชัดเจนแล้วข้าจะเชื่อคำพูดเจ้าได้อย่างไร และจะทวงคืนความยุติธรรมให้เจ้าได้อย่างไรกัน”
“สิ่งที่ชิงหลางสนใจมีเพียงแค่ท่าทีและมุมมองที่ท่านอ๋องมีต่อชิงหลางเท่านั้นเพคะ เรื่องอื่นนั้นไม่สำคัญ อีกอย่างต่อให้ท่านอ๋องไปถามเอากับท่านพี่ ท่าพี่จะยอมรับหรือเพคะ”
“ข้าย่อมตรวจสอบเป็นอย่างดี”
“ตรวจสอบอย่างไรเพคะ จะให้พวกท่านรองแม่ทัพไปตรวจสอบหรือเพคะ จะเอาเรื่องน่าอับอายของหม่อมฉันไปบอกกับคนอื่นจนทุกคนรู้กันทั่วหรือเพคะ เวลานี้หม่อมฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ท่านอ๋องเพคะ อย่าได้กีดกันหม่อมฉันออกจากศักดิ์ศรีอันน่าสมเพชนี่เลยเพคะ”
มู่หรงฉีเงียบไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกลังเลใจ
ไม่ใช่เพราะเหตุผลที่เหลิ่งชิงหลางพูด แต่เป็นเพราะอีกสาเหตุหนึ่ง
เรื่องที่เขาได้ไปสำนักชีหนานซานในคืนนั้นเป็นความลับและเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากเรื่องที่ได้พบกับเหลิ่งชิงหลางแล้ว ก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้อีก
โดยเฉพาะเหลิ่งชิงฮวน ยิ่งจะให้นางรู้ไม่ได้ มันเป็นความผิดพลาดเล็กน้อย หากเรื่องนี้หลุดออกไปจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
ดังนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเหลิ่งชิงฮวนแล้วเขขาเองก็ได้ทดสอบเธอไปแล้ว มู่หรงฉีจะไม่พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ทางกายระหว่างเขากับเหลิ่งชิงหลางแม้แต่คำเดียว
แต่ถ้าหากไม่ถาม มันก็จะกลายเป็นเสี้ยนที่ตำอยู่ในหัวใจแล้วไม่เอาสามารถเอาออกไปได้ตลอดชีวิต
เขาไม่เชื่อว่าเหลิ่งชิงฮวนจะลงมือโหดร้ายเช่นนี้ เมื่อเธอได้พบกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักบนถนน เธอก็ไม่สนใจตัวเองเลยสักนิดแล้วลากตัวเองที่เป็นแผลหนักเข้าไปช่วยรักษา อีกทั้งเป็นเพราะในใจของเธอนั้นรู้สึกไร้ความสามารถอีกทั้งยังแค้นเคือง งดูเหมือนเอาน้ำมันไปราดบนกองไฟ
เธอไม่เคยใช้วิชาแพทย์ไปทำร้ายคนอื่น
จากคำพูดของเธอ จะอาศัยวิชาแพทย์ไปใช้ทำร้ายเหลิ่งชิงหลางจนเกือบตายเพื่อรักษาความลับไว้นั้นก็เป็นเรื่องที่ง่าย ทำไมต้องทำให้วุ่นวายด้วย
แต่ถึงแม้ว่าเข้าจะรู้สึกไม่เชื่อ แต่คืนนั้น “เหลิ่งชิงหลาง” ถูกคนวางอุบายเป็นเรื่องจริง เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเหลิ่งชิงฮวน
ในเวลานี้เขาทั้งลังเลและลำบากใจ
เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ “ข้ารับปากเจ้า ช่วงนี้ข้าจะไม่เอาความกับเรื่องนี้ไปสักพัก แต่ถ้าครั้งหน้าข้ารู้อีกว่าเจ้าพูดว่าร้ายเหลิ่งชิงฮซวนแบบนั้น ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”
คิดไม่ถึงว่าเธอออกแรงพูดไปตั้งมาก มู่หรงฉีกลับไม่เชื่อคำพูดของเธอ
เหลิ่งชิงหลางขบกราม “การพูดให้ร้ายที่ท่านอ๋องพูดถึง หมายถึงหลิวซานอีที่เป็นคนสวนใช่ไหมเพคะ ชิงหลางขอถามสักคำ ผู้ชายที่อยู่ในชุดแดงคนนั้นฝีมือดีมากเพคะ ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ ช่วงแรกที่เข้าออกจวนมหาเสนาบดีก็ดูราวกับคนไม่มีที่ไป เวลานี้เอากำแหงใหญ่แล้วถึงกับตามมาถึงจวนอ๋องฉี เพื่อรักษาชื่อเสียงของจวนอ๋องแล้ว หม่อมฉันจึงได้เตือนให้ท่านอ๋องให้ทราบ แต่ท่านอ๋องกำลังโทษหม่อมฉัน?”
“เจ้ารู้จักคนคนนี้?”
“ถ้าหากว่าไม่รู้จัก หม่อมฉันจะกล้าพูดเรื่องที่ท่านพี่มีราคีก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับท่านได้อย่างไรเพคะ ทำไมท่านพี่ถึงได้วางแผนที่ทำร้ายหม่อมฉัน แล้วหม่อมฉันรู้มาจากใคร”
มู่หรงฉีหายใจอย่างเชื่องช้า “เขาไปที่จวนมหาเสนาบดีบ่อย?”
เหลิ่งชิงหลางมองไปที่ใบหน้าของเขาด้วยความอยากได้ ขอเพียงแค่เธอสามารถทำให้มู่หรงฉีโกระและสงสัยเหลิ่งชิงฮวนได้ เธอก็พึงพอใจแล้ว
มู่หรงฉีนืนอยู่นานก่อนที่เริ่มลนลานขึ้นมา เขาออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึม “เข้ามา!”
เหล่าองครักษ์เชื่อฟังคำสั่งและเข้ามาทันที
“ฟังคำสั่งข้า ไปสืบเรื่องคนคนหนึ่งมาที”
“ใครหรือขอรับ”
“เมื่อไม่กี่วันก่อนที่หอฝูเซิงได้มีชายเสเพลชุดแดงคนนึ่งมา เริ่มจากตรงนี้ ข้าอยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเขา”
หัวหน้าองครักษ์รับคำสั่ง
“อีกอย่าง...” มู่หรงฉีเรียกองครักษ์ที่กำลังหันหลังไป เขาลังเลอยู่น่านจึงส่งสัญญาณมือให้พวกเขาออกไปได้
เขายังอยากให้องครักษ์ไปสืบเรื่องเกี่ยวกับเหลิ่งชิงฮวน แต่เมื่อคิดดูอีกครั้งครั้งก่อนที่เธอยืนกรานเรื่องที่จะหย่า เป็นสามีภรรยาที่ผูกผมกันแล้วต้องรักและไม่สงสัยในตัวกันและกัน เขาแอบสืบเรื่องของนางลับหลังนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควร สุดท้ายจึงได้ปล่อยไป
คืนนี้เขานอนครุ่นคิดอยู่บนเตียงและยากที่ข่มตาหลับ
คำพูดที่เหลิ่งชิงหลางพูดทั้งหมดนั้นกลายเป็นว่าได้ส่งผลกระทบอย่าหนักต่อเขา แม้จะบอกว่ารู้แล้ว แต่คำพูดของเธอก็ไม่น่าเชื่อถือ แต่ความบังเอิญทั้งหมดนนั้นเมื่อเอามารวมกันก็ทำให้เขาอดที่จะเชื่อไม่ได้
คนที่ถูกความรักครอบงำล้วนอ่อนไหวและทั้งยังขี้สงสัย
ถ้าเหลิ่งชิงฮวนเป็นผู้หญิงแบบนี้จริงๆ ตัวเขาควรจะรับมืออย่างไรดี
ผ่านไปครู่หนึ่งในใจของเขานั้นก็ตัดสินใจได้อย่างยากลำบาก เขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามที่เหลิ่งชิงฮวนปล่อยให้เขาไปครุ่นคดนั้นอย่างไรดี
เขาคิดว่าตัวเองนั้นยังต้องการเวลาอีกสักพัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...