มู่หรงฉีกอดรัดเอวเธอแน่นขึ้นราวกับจะฝังเข้ามาในร่าง ราวกับต้องการซึมซับความรู้สึกปลอบโยนอย่างบ้าคลั่ง
แขนของเหลิ่งชิงฮวนเองก็รัดแน่นขึ้น ทั้งร่างของเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา อยู่บนร่างเขาราวกับปลาเกยตื้นพยายามอ้าปากเพื่อกอบโกยอากาศ แต่ก็ยังคงรู้สึกหายใจไม่ออก ในหัวก็ขาวโพลน
จนกระทั่งปลาทั้งสองหายใจไม่ออก จึงได้ยอมปล่อยอีกฝ่ายไป
ในห้องใต้ดินที่เงียบสงัด หัวใจเต้นรัวเหมือนกลอง เสียงหอบหายใจหนัก ดวงตาของเหลิ่งชิงฮวนพร่ามัว ใบหน้าแดงราวกับแสงอาทิตย์อัสดงที่ทำให้ผู้คนมึนเมา
“มู่หรงฉี ท่านตกหลุมรักหม่อมฉันแล้วใช่ไหมเพคะ”
แขนของมู่หรงฉีรัดแน่นกว่าเดิม มือหนาประคองศีรษะของเธอและจ้องมอง “เหลิ่งชิงฮวน เจ้ารู้จักผิดชอบชั่วดีหรือไม่? หากข้าไม่รักเจ้า แล้วทำไมหาต้องสรรหาข้ออ้างมากมายเพื่อให้เจ้าอยู่ข้างกายข้า? ทำไมทุกครั้งข้าต้องคอยจัดการเจ้า? ทำไมข้าถึงยอมรับว่าเจ้าคือสตรีของข้า?”
“เจ้าเคยพูดว่าวันหน้าหากมีคนบอกรักเจ้า นั่นแสดงว่าเขายอมรับเด็กในท้องเจ้า ข้ายอมรับแล้ว ข้าจะให้ใต้หล้ารับรู้ว่าเขาคือเลือดเนื้อเชื้อไขของมู่หรงฉี แล้วเจ้ายังจะมาแกล้งทำต่อหน้าข้าอีกหรือ? เจ้าโง่หรือ?”
“หากข้าไม่ชอบเจ้า ข้าจะเอาแต่หาเรื่องเจ้าไปทำไม? บุรุษผู้นี้คือใคร มีความสัมพันธ์กับข้าหรือไม่ ข้าต้องสู้กับเขาหรือ?”
เหลิ่งชิงฮวนเม้มริมฝีปากที่บวมนิดหน่อย “แค่คำพูดจะไปเชื่อถือได้อย่างไร? จะอยู่ได้นานหรือเพคะ?”
มู่หรงฉีมองเธอ ดวงใจไหววูบ ก่อนจะก้มลงไปจูบเธออีกครั้ง
เพดานหินบนศีรษะถูกเปิดออก รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดยื่นหน้าเข้ามาเอ่ยถามด้วยความร้อนรน “ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง เป็นอะไรไหมขอรับ”
“ปัง”
เพดานหินกลับไปปิดสนิทเหมือนเดิม
รอจนเหลิ่งชิงฮวนปิดหน้าปิดหน้าขึ้นมาได้ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็ส่งยิ้มให้เธออย่างล้อเลียน
มู่หรงฉีส่งฝีเท้าออกไป “รายงานสถานการณ์!”
แม้บนเสื้อผ้าของรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดจะมีรอยเท้าวงใหญ่แต่นั่นก็ไม่ได้ขัดความอารมณ์ดีของเขา
“ทูลท่านอ๋อง จับเป็นโจรได้ทั้งหมดยี่สิบคน สอบปากคำแล้วพบว่าพวกมันทั้งหมดเป็นหัวขโมยจากหอซ่อนดาบที่เราตามล่าเมื่อนานมาแล้ว แต่หัวหน้าของพวกมันหนีไปได้หลังจากได้ยินข่าว ส่วนพวกที่ไม่เป็นโล้เป็นพายพวกนี้ก็สอบสวนไม่ได้ความมากนัก”
“อีกทั้งทางออกสองทางและทางลับล้วนมุ่งตรงไปยังภูเขาด้านหลัง เมื่อไล่ตามพวกมันออกไป คนเหล่านั้นก็หนีไปอย่างไร้ร่องรอย จะต้องมีใครสักคนมารับพวกมันแน่ๆ ขอรับ”
มู่หรงฉีรู้สึกรำคาญเล็กน้อย เขารีบร้อนมาช่วยเหลิ่งชิงฮวนจึงไม่ได้เตรียมการอย่างรอบคอบ เขาไม่คุ้นเคยกับพื้นที่บริเวณนี้จึงไม่แปลกใจที่พวกโจรจะหนีไปได้
ส่วนเรื่องเบาะแส เขาเชื่อว่าเหลิ่งชิงฮวนจะรู้เรื่องมากกว่านี้
จึงได้แต่โบกมือยอมแพ้
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดค่อยๆ ยกของล้ำค่าขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “แต่ว่า กระหม่อมได้ของล้ำค่าอย่างอื่นมาแทน”
เหลิ่งชิงฮวนเข้าไปมองใกล้ๆ มันไม่ใช่อะไร แต่เป็นระเบิดฟ้าคำรณที่เธอโยนออกไปช่วงวิกฤต
มู่หรงฉีเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจยื่นมือไปหยิบขึ้นมา “นี่คือระเบิดฟ้าคำรณที่ทำให้เจ้าบาดเจ็บครั้งก่อนหรือ?”
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดพยักหน้าอย่างตื่นเต้น ก่อนจะหันกลับนำมันไปซ่อนไว้ “นี่ยังไม่ได้ตรวจสอบ ท่านอ๋องได้แค่ดูเท่านั้นห้ามครอบครองนะขอรับ”
เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเบาๆ “ของพรรคนี้มีอะไรให้เสียดายถึงได้ทะนุถนอมเช่นนี้”
“สตรีอย่างท่านไม่เข้าใจหรอกขอรับ” รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด “ของพรรคนี้อานุภาพร้ายแรง ครั้งหน้าหากเจอศัตรูแค่โยนมันเข้าไปอีกฝ่ายจะไม่ยอมแพ้หรือ? กระหม่อมจับตาดูหอซ่อนดาบไว้แล้ว จะต้องปราบเขาให้ได้ แล้วกระหม่อมจะถามเขาว่าเจ้าสิ่งนี้มันสร้างขึ้นมาได้อย่างไร?”
เหลิ่งชิงฮวนอยากจะพูดว่าของสิ่งนี้ทำยากงั้นหรือ? แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป
ทุกคนนั่งโดยไม่ขยับ เป็นฉีจิ่งอวิ๋นที่ลุกขึ้นและกล่าวทักทาย “ไม่มีอะไรอันตราย ขอให้มีมงคล พระชายารองเองก็มานั่งดื่มสุราระงับความตกใจด้วยกันไหม”
เหลิ่งชิงหลางไม่อยากอีกทั้งยังไม่กล้าพูดอะไรมากมาย จึงยกยิ้มอย่างเขินอาย “เห็นท่านพี่ปลอดภัยก็ดีแล้วเพคะ เชิญพวกท่านดื่มกันเถอะ หม่อมฉันไม่รบกวนแล้ว”
อันที่จริงไม่ใช่แค่นางเท่านั้น ทุกคนในงานเลี้ยงก็รู้สึกกระอักกระอ่วน หลังจากที่นางจากไปพวกเขาก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง
แววตาของเสิ่นหลินเฟิงเป็นประกาย “ดูเหมือนคนที่รู้ว่าองค์หญิงหรูอี้กับพี่สะใภ้มีเรื่องบาดหมางกันนั้นมีไม่มาก”
มู่หรงฉีเข้าใจทันที “ข้าเคยสงสัยแต่ว่านางไม่เคยออกไปไหน ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องกับชิงฮวนนางก็อยู่แต่ในวัง คงไม่น่าจะรู้จักพวกมือสังหารหรอกใช่หรือไม่?”
คำพูดนี้เป็นการขอความเห็นจากเหลิ่งชิงเฮ่อ
เหลิ่งชิงเฮ่อพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “จินซื่อสั่งสอนเหลิ่งชิงหลางอย่างเข้มงวดจึงติดต่อกับบุรุษภายนอกน้อยมาก นับประสาอะไรกับพวกเหลวไหลในยุทธภพ ข้าเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ต้องถูกคนผู้นั้นกำกับเพื่อตอบแทนบุญคุณ ให้น้องเล็กรู้สึกซาบซึ้งใจ”
“ใช่” ฉีจิ่งอวิ๋นพยักหน้าเห็นด้วย “โจรนั่นดูเหมือนบุรุษในร่างสตรี มันแสร้งทำตัวเป็นสตรีได้อย่างแนบเนียน สตรีในวังคนนั้นก็คงจะเป็นมันที่แต่งหญิง”
เสิ่นหลินเฟิงเต็มไปด้วยความสงสัย “แต่ในเมื่อเขาเป็นสมาชิกของหอซ่อนดาบแล้วทำไมถึงต้องใช้เงินจ้างฆ่าคนด้วยล่ะ”
“แน่นอนว่าต้องเพื่อใส่ร้ายองค์หญิงหรูอี้” ฉีจิ่งอวิ๋นเอ่ยอย่างมั่นใจ
“มีแรงจูงใจสองอย่างในการลงมือกับพี่สะใภ้ หนึ่งคือความเกลียดชังส่วนตัว สองคือพี่สะใภ้เข้าไปขวางทางคนอื่น คนผู้นั้นวางแผนจัดฉากยิ่งใหญ่เช่นนี้สาเหตุนี้ก็คงไม่เกินจริง หากคนที่อยู่เบื้องหลังยังไม่ถูกจัดการ พี่สะใภ้ก็ยังไม่อาจคลายความกังวลใจได้”
เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า แม้ว่าจะเกลียดชังโฉวซือเส่าเล็กน้อย แต่เขาเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา เรื่องนี้ดูเหมือนไม่ใช่ฝีมือของเขา
เหลิ่งชิงฮวนไม่รู้แน่ชัดว่าใครกันแน่ที่คิดจะฆ่าเธอ
เหลิ่งชิงหลางน่าสงสัยที่สุด แต่แผนการนี้ไม่เหลือร่องรอยอะไรทิ้งไว้และไม่มีใครหาหลักฐานพบ แต่เธอจะไม่ปล่อยไว้แน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...