ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 210

เหลิ่งชิงเหยาอยู่พูดคุยกับเหลิ่งชิงฮวนครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลับไปยังหลังเรือน

ภายในเรือนหลัก มีการประดับตกแต่งโคมไฟและผ้าสีสันหลากหลายสีเอาไว้มากมาย บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความรื่นเริง

สาวใช้ส่วนใหญ่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานเลี้ยงด้านหน้า เรือนด้านหลังจึงเงียบสงบ ไม่มีคนให้ได้เห็น

เหลิ่งชิงเหยาเข้าไปยังห้องหอของหรูอี้ หรูอี้สวมชุดมงคลทั้งตัว ศีรษะถูกคลุมด้วยผ้าที่ปักลวดลายลายมังกรและหงส์ กำลังนั่งรออยู่บนเตียงมงคล บนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้ามีขนมหลากหลายจานวางเรียงไว้อยู่ เช่นพุทราแดง กุ้ยหยวนและผลไม้แห้งต่างๆ ยังมีเหล้าวางไว้หนึ่งเหยือก

เหลิ่งชิงเหยาจำสิ่งที่เซวียอี๋เหนียงกำชับเอาไว้ได้ จึงถามออกไปอย่างระมัดระวัง “กราบทูลองค์หญิง พระองค์ทรงหิวอะไรหรือไม่เพคะ? หม่อมฉันจะได้ไปหาขนมอะไรมาให้ทานรองท้องก่อน?”

หรูอี้ส่ายหน้าปฏิเสธ ใบหน้าถูกซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมจึงมองเห็นสีหน้าไม่ได้ชัดเจนมากนัก “ไม่ต้องหรอก ข้ากินไม่ลง เป็นเจ้านั่นแหละที่เหนื่อยมาครึ่งวันแล้ว ยังไม่ได้กินอาหารมงคลในงานเลย อาศัยตอนนี้ที่ไม่มีคน เจ้าชอบกินอะไรเจ้าก็หยิบไปได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”

เหลิ่งชิงเหยายิ้มแป้น “องค์หญิงทรงเป็นคนที่เข้าถึงง่ายไม่วางท่าถือตัวเลยสักนิดนะเพคะ”

“ปกติข้าเป็นคนอารมณ์ร้ายไม่ดีเท่าไร แต่เป็นเพราะรู้สึกถูกชะตากับเจ้าก็เท่านั้น” นางลุกขึ้นยืน เดินคลำทางตรงมาที่โต๊ะ เหลิ่งชิงเหยารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อพยุงตัวนาง หรูอี้จับมือของเหลิ่งชิงเหยาตอบ แล้วทั้งสองคนก็มานั่งลงที่โต๊ะ

“รู้สึกกระหายขึ้นมานิดหน่อย เจ้าดื่มเป็นเพื่อนข้าสักสองจอกเถอะ?” หรูอี้เสนอแนะ และเอามือคลำหาเหล้า

เหลิ่งชิงเหยาเห็นว่าบนโต๊ะมีแก้วเหล้าสองแก้ววางไว้อยู่ เกิดลังเลขึ้นมาเล็กน้อย “เหมือนได้ยินแม่สื่อบอกเอาไว้ว่า นี่คือเหล้าที่พระองค์และราชบุตรเขยเอาไว้แลกเหล้ามงคลกัน หม่อมฉันดื่มจะเป็นการไม่เหมาะสม ถ้าอย่างไรหม่อมฉันออกไปรินน้ำชามาให้ท่านดื่มให้ชุ่มคอดีกว่า ”

หรูอี้เทเหล้าด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว “ไม่ขอปิดบังเจ้า การแต่งงานในครั้งนี้ข้าไม่พอใจนัก และไม่อยากจะแต่งด้วย ในใจรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอยากดื่มเหล้าสักแก้วสองแก้ว เจ้าดื่มเป็นเพื่อนข้าเถอะ เหล้ามงคลอะไรนั้น อีกสักพักค่อยสั่งให้คนไปเอามาเพิ่มอีกเหยือกก็ได้แล้ว”

เหลิ่งชิงเหยาไม่อาจผลักไสได้อีก ทำได้เพียงต้องดื่มเหล้าในจอกเป็นเพื่อนหรูอี้จนหมดจอก แต่จากนั้นก็เทลงมาอีก

ทั้งสองคนดื่มเหล้าด้วยกันหมดไปหลายจอกแล้ว

เหลิ่งชิงเหยาเอามือประคองศีรษะเอาไว้ “หม่อมฉันรู้สึกเวียนหัวขึ้นมานิดหน่อย มึนๆงงๆ เกรงว่าจะเมาเสียแล้ว ไม่สามารถดื่มต่อได้อีกเพคะ”

หรูอี้จึงไม่เอ่ยชวนดื่มต่ออีก “ให้นางกำนัลของข้าพาเจ้าไปพักผ่อนที่ห้องข้างๆสักครู่ เพื่อให้สร่างเมา”

เหลิ่งชิงเหยาลุกขึ้นยืน ร่างกายโงนเงนไปมา หรูอี้กวักมือเรียก ทันใดนั้นก็มีนางกำนัลก้าวขึ้นมาข้างหน้า มาช่วยพยุงนางพาไปที่ห้องข้างๆเพื่อรอให้สร่างเมา

หรูอี้เลิกผ้าคลุมศีรษะออกมาทันที เผยให้เห็นใบหน้าที่เปลี่ยนไปเพราะความเคียดแค้น

นางกำนัลที่อยู่ด้านข้างรีบเอ่ยห้ามปราม “องค์หญิงทำแบบนี้ไม่ได้นะเพคะ ทำแบบนี้จะไม่เป็นมงคลนะเพคะ”

หรูอี้สะบัดมือนางออก “แต่งงานให้กับคนไร้ประโยชน์ ยังจะมีอะไรไม่เป็นมงคลได้อีกเชียว? เจ้าไปหาราชบุตรเขยเงียบๆบอกให้เขามาที่นี่ บอกไปว่าข้ามีธุระจะพูดด้วย”

นางกำนัลไม่กล้าเอ่ยถามให้มากความ ได้แต่เชื่อฟังเดินถอยออกไป

เวลานี้ราชบุตรเขยเริ่มเมาได้ที่แล้ว ถูกกรอกเหล้าเสียจนจับทิศจับทางไม่ถูกแล้ว เมื่อได้ยินองค์หญิงทรงเรียกหา ใครล่ะจะกล้าชักช้าได้? จัดระเบียบเสื้อคลุมสีแดงที่สวมใส่ และรีบวิ่งไปที่เรือนด้านหลังอย่างเร่งรีบ เท้าของเขาสะดุดและโซเซจะล้ม โชคยังดีที่ได้อ๋องเฮ่าที่มือไม้รวดเร็วช่วยพยุงไว้ได้ทัน ไม่ได้ล้มลงไปอย่างเวทนา

ผู้คนมากมายพากันหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ล้อเลียนราชบุตรเขยว่าอยากรีบไปเจาะไข่ดาวกินเร็วๆ

อ๋องเฮ่าลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “เกรงว่าเจ้าจะดื่มเหล้ามากเกินไป ข้าจะพยุงเจ้าไปที่เรือนด้านหลังเอง”

คนข้างกายพากันโห่ร้องขึ้นอีกครั้ง “ใช่แล้ว ต้องมีคนตามไป มิเช่นนั้นไปแล้วไม่กลับมาจะทำอย่างไร? วันนี้ยังดื่มเหล้ายังไม่จุกใจเลย ยังไม่ถึงเวลาไปสนุกในห้องหอเลย”

ราชบุตรเขยคนใหม่ขาเกี่ยวกันจนสะดุด แต่ยังสามารถโบกมือได้อยู่ อ๋องเฮ่าอดไม่ได้ที่จะเข้ามาช่วยประคองเขาไปที่เรือนด้านหลัง แต่ตัวเองก็ไม่สะดวกที่จะเข้าไปยังเรือนด้านใน จึงจะรออยู่ลานด้านนอกเรือน ราชบุตรเขยคนใหม่ก็เดินโซเซผลักประตูเข้าไปยังห้องหอด้วยตัวเอง

หรูอี้นั่งสง่าอยู่บนเตียง พูดขึ้นมาอย่างวางอำนาจ “วันนี้หญิงสาวที่มารับเจ้าสาวดื่มเหล้ามากเกินไป ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเป็นแม่นางจากตระกูลไหน จึงสั่งให้คนพานางไปพักที่ห้องด้านข้างๆก่อน เจ้าลองไปดูหน่อยสิ จากนั้นก็สั่งคนให้ส่งนางกลับจวนไปเถอะ”

ราชบุตรเขยคนใหม่ยังคงมีสติอยู่เล็กน้อย “ให้ข้าไปดูเกรงว่าจะไม่เหมาะสมเสียเท่าไร? ถ้ายังไงข้าจะให้คนไปเชิญท่านแม่มาดีกว่า?”

ราชบุตรเขยใช้มือจับขอบประตูเอาไว้ ชำเลืองมองเข้าไปด้านใน ทันใดก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆดัง ซี๊ด อาการเมาเหล้าได้สร่างขึ้นมามากแล้ว “เจ้า พวกเจ้า...”

จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนทำท่าจะวิ่งเข้าหากำแพง แต่ถูกมู่หรงเฮ่าที่มือไม้ไว คว้าไว้ได้ทันก่อน “แม่นางโปรดอย่าหุนหันพลันแล่นไป ทุกอย่างสามารถหารือกันได้”

เหลิ่งชิงเหยาตัวอ่อนปวกเปียกเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา “หม่อมฉันยังจะมีหน้าไปพบคนอื่นได้อย่างไร?”

หากไม่เอะอะโวยวายจะเป็นการดีเสียกว่า พอโวยวาย ออกมาเช่นนี้ยิ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนมากยิ่งขึ้น

หรูอี้ที่ที่ซ่อนตัวอยู่ที่ประตู เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่ด้านนอก ก็ยิ้มอย่างเยาะเย้ยขึ้นมา คิดว่าเรื่องที่ทำได้สำเร็จลุล่วงแล้ว จึงเดินออกมาจากห้อง และเลิกผ้าคลุมเจ้าสาวขึ้น กำลังจะทำการประณามออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ แต่พอมองเพียงแวบเดียวก็เห็นว่าเหลิ่งชิงเหยากลับไปอยู่ในอ้อมกอดของอ๋องเฮ่าอย่างแนบชิดเสียได้ อยู่ ๆก็เกิดตกตะลึงเป็นใบ้ไปชั่วขณะ

“เสด็จพี่รอง? ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่ได้เล่า?”

มู่หรงเฮ่ากัดฟันกรอด “ข้ามาส่งน้องเขยกลับมา และก็รออยู่ที่ลานนอกเรือน ได้ยินเสียงคนในห้องร้องอุทานอย่างตกใจ รู้สึกสงสัยจึงถือวิสาสะมาดูเล็กน้อย และเห็นตัวต่อตัวหนึ่งบินวนอยู่รอบตัวแม่นาง ทำให้นางตกใจกลัวทำอะไรไม่ถูก เลยรวบรวมความกล้าก้าวไปช่วยไล่ อาจเป็นเพราะแม่นางคนนี้อาจจะกลัวก็เลย...เฮ้อ!”

ประโยคที่จะพูดต่อช่างยากที่จะพูดยิ่งนัก

หรูอี้เหลือบมองเขาเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปยังเหลิ่งชิงเหยาอีกครั้ง ก็เข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้เป็นมู่หรงเฮ่าที่ฝีเท้าเร็วกว่าชิงตัดหน้าไปเสียก่อน

ทันใดนั้นหรูอี้ก็รู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กระชากผ้าคลุมเจ้าสาวออก “เยี่ยมจริงๆเหลิ่งชิงเหยา เจ้ามันนางจิ้งจอกไร้ยางอาย กล้ายั่วยวนเสด็จพี่รองของข้างั้นหรือ ดูสิว่าวันนี้ข้าจะฉีกหน้าเจ้าออกมาอย่างไร!”

ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรก็พุ่งตัวเข้าใส่เหลิ่งชิงเหยา

เหลิ่งชิงเหยาไหนเลยจะกล้าตอบโต้กลับได้ ทำได้เพียงเอาหน้าซุกเข้าไปในอ้อมแขนของมู่หรงเฮ่า ปล่อยให้นางทุบตีข้างหลัง

“พอได้แล้วหรูอี้” มู่หรงเฮ่าทำอะไรไม่ได้นอกจากเอ่ยพูดเกลี้ยกล่อม “มีเรื่องอะไรค่อยๆพูดกันดีๆ เรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะมีอะไรเข้าใจผิดกันก็เป็นได้?”

“ท่านยังปกป้องนางอีกหรือ!” หรูอี้โกรธจัดจนกระทืบเท้าไปมา “ดึกดื่นขนาดนี้ จะมีต่อที่ไหนกันเล่า? จะต้องเป็นเพราะนางเห็นเสด็จพี่รองเข้า จึงคิดหาวิธีเพื่อล่อลวงท่านพี่เข้าไปข้างใน จากนั้นก็ถือโอกาสนี้จับท่านพี่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา