ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 253

ดวงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า เหล่าบรรพชนหญิงก็ช่วยกันยกของทานเล่นขึ้นมา แล้วนั่งคุยกันอย่างออกรส

นี่เป็นโอกาสอันหาได้ยากที่จะให้เหล่าบรรพชนหญิงได้มานั่งพูดคุยกัน หัวข้อสนทนาก็ย่อมไม่พ้นการยกยอลูกหลานของตนให้เหนือคนอื่น

เหล่าคนที่ได้รับการเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงนี่ล้วนเป็นบรรดาลูกสาวอันเป็นที่รักของจวน ทั้งหมดพากันแต่งองค์ทรงเครื่อง นั่งอยู่ข้างกายพ่อแม่ตนท่าทางสง่างาม และในตอนที่ไม่มีสังเกตสายตาลึกซึ้งก็ถูกส่งไปยังที่นั่งฝั่งบุรุษ

ที่นั่งฝั่งบุรุษที่ได้รับความขื่นชมจากฝั่งสตรีคือที่นั่งบริเวณมู่หรงฉีและองค์ชายอื่นๆ

องค์ชายหลายคนได้รับการขัดเขลาจากราชวงศ์มาหลายชั่วอายุคน แต่ละคนต่างมีท่าทางสง่าผ่าเผยโดยเฉพาะมู่หรงเฮ่าและมู่หรงฉี คนหนึ่งเก่งด้านบู๊อีกคนเก่งด้านบุ๋น คนหนึ่งมีความสามารถ สง่าราวกระเรียนขาว อีกคนชื่อเสียงเลื่องลือ สง่าผ่าเผย จนทำให้เหล่าสตรีน้อยๆ พากันเขินอายหน้าแดง

คุณหนูตระกูลไหนจะไม่ชอบ อีกอย่างพวกเขาเป็นถึงมังกรในฝูงหงส์ เป็นโอรสสวรรค์

การแต่งกับบุรุษผู้มากความสามารถนั้นเป็นเรื่องน่ากังวลใจ ไหนจะต้องคอยป้องกันไม่ให้ใครมาไต่มาตอม

เหลิ่งชิงฮวนแอบถอนหายใจในใจ เธอรู้สึกเบื่อหน่ายจึงเบนสายตาไปมองกระต่ายบนทุ่งหญ้า

กระต่ายเหล่านั้นดูน่ารัก อ้วนๆ กลมๆ ขาวราวกับหิมะ ดวงตาราวกับทับทิม หางสั้น ดูไร้เดียงสาแต่ก็แฝงกลิ่นอายขี้เล่น

เหลิ่งชิงฮวนมองแล้วชอบใจจึงเดินเข้าไปแกล้งมัน กระต่ายพวกนี้ไม่กลัวคน หนำซ้ำยังกระโดดเข้ามาใกล้ เหลิ่งชิงฮวนจับหูมันขึ้นมาก่อนจะอุ้มไว้ในอกและลูบเบาๆ

จู่ๆ ก็มีเงาสีขาวตกลงมาจากบนฟ้าพุ่งเข้ามาในอ้อมแขนเธอ

ไม่ทันมีใครได้ตั้งตัว เหลิ่งชิงฮวนสังเกตเห็นเงาบนศีรษะก็ตกใจจนถอยหลัง ปล่อยกระต่ายลงแล้วยกมือขึ้นมาบัง

เมื่อมองดูที่แท้ก็เป็นนกเหยี่ยวสีเขียวที่ดุร้าย ดวงตาเหมือนคบไฟ สง่างาม ก่อนจะโฉบลงมาอย่างดุดัน หากโดนกรงเล็บของมันฉกเข้าจะต้องถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แน่นอน

ดีที่ปฏิกิริยาตอบสนองของเหลิ่งชิงฮวนค่อนข้างเร็วจึงหลบได้ทัน เหยี่ยวตัวนั้นจึงไม่ได้ทำอันตรายเธอ อีกทั้งเธอยังเคยฝึกวิทยายุทธ ช่วงล่างจึงมั่นคง ไม่อย่างนั้นตอนที่ตกใจถอยหลังเธอคงล้มลงไปกับพื้น

คนรอบตัวก็พากันตกใจพากันหลบ

คงเพราะการหลบหลีกของเหลิ่งชิงฮวนกระตุ้นให้เหยี่ยวตัวนั้นดุร้ายขึ้น แทนที่จะจับกระต่ายมันกลับกระพือปีกขึ้นไปในอากาศแล้วโฉบลงมาอีกครั้งโดยพุ่งไปทางเหลิ่งชิงฮวนด้วยสายตาดุร้าย พร้อมทั้งจิกกรงเล็บเข้าไปที่ท้องของเหลิ่งชิงฮวน

เหลิ่งชิงฮวนใจหายวูบก่อนจะหลบ เธอสะบัดมือหยิบมีดผ่าตัดออกมา รอจังหวะแล้วปามีดออกไป เหยี่ยวตัวนั้นกรีดร้อง ขนร่วงลงมา เลือดสีแดงกระเซ็นอยู่ในอากาศ

ใครบางคนที่อยู่ในงานลุกขึ้นยืนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะดึงปิ่นทองออกมาและปาไปที่เหยี่ยวตัวนั้น

เหลิ่งชิงฮวนตกใจ “หยุดนะ”

แต่ก็สายไปแล้ว สตรีนางนั้นฝีมือเก่งกาจ ปิ่นทองปักเข้าที่ดวงตาของเหยี่ยวอย่างจัง

เหยี่ยวตัวนั้นได้รับบาดเจ็บซ้ำจึงบินได้ช้าลง หลังจากถูกปิ่นแทงมันก็ค่อยๆ ร่วงลงสู้พื้น

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจ

ฝูงชนเข้ามารุมล้อมเธอ สอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้างและเอ่ยว่า “โชคดี”

นางคงจะเป็นสตรีที่ลงมือเมื่อครู่ แต่ทำไมถึงต้องตั้งแง่เป็นศัตรูกับเธอเช่นนี้? หรือเพราะคำพูดที่เธอรีบร้อนพูดออกไปหรือ

คนรอบข้างเมื่อเห็นเหลิ่งชิงฮวนเข้ามาก็กระตุกแขนเสื้อของนางพลางกระซิบเสียงเบา “ระวังนางได้ยินเข้าล่ะ”

“ได้ยินแล้วทำไม ต่อให้อยู่ต่อหน้านางข้าก็กล้าพูดแบบนี้ ข้าฉู่รั่วซีเคยกลัวผู้ใดรึ?”

ฉู่รั่วซี? ทำไมถึงได้คุ้นหูเช่นนี้? เหลิ่งชิงฮวนครุ่นคิดก่อนจะนึกได้ว่านางเป็นบุตรีแห่งจวนแม่ทัพจินอู๋ที่ฉีจิ่งอวิ๋นพูดถึง เพียงแต่ความสามารถของนางไม่ธรรมดา นางควรจะเป็นสตรีที่จมปลักอยู่กับความทุกข์ อารมณ์อ่อนไหว แต่ใครเล่าจะคิดว่านางจะเกิดมาพร้อมกับดวงตาที่สดใสและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณเช่นนี้

อีกทั้งท่าทางเย่อหยิ่งของนางก็เห็นได้ชัดว่าถูกยกยอปอปั้นจนเคยตัว

เหลิ่งชิงฮวนเม้มริมฝีปากไม่อยากจะมีเรื่องที่นี่ อีกทั้งเมื่อครู่อีกฝ่ายก็ออกตัวช่วย เห็นได้ชัดว่าเป็นแม่นางที่มีจิตใจดี

เธอไม่ได้เอ่ยอะไร แต่ฉู่รั่วซีก็ไม่ยอมลดละ นางเชิดคางขึ้นอย่างยั่วยุ

“ดูท่าพระชายาอ๋องฉีจะไม่พอใจคำพูดของข้า”

เสียงของฉู่รั่วซีดัง นอกเหนือจากพวกบรรดาศักดิ์สูงที่รายล้อมนาง เหล่าบรรพชนหญิงเองก็หันมามอง

สตรีผู้สูงศักดิ์ที่น่าจะเป็นมารดาของฉู่รั่วซีก้าวมาตำหนินางด้วยเสียงต่ำ บอกนางว่าห้ามทำตัวหยาบคาย จากนั้นหันกลับมาและขอโทษเหลิ่งชิงฮวน

“บุตรีปากไวขอพระชายาโปรดอภัยเพคะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา