ในฟาร์มนอกชนบท
เหลิ่งชิงหลางแพ้ท้องหนักมาก โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมท่ีแย่แบบนี้ เธอมองเห็นอะไรเป็นรู้สึกสะอิดสะเอียน
แม้แต่ออกไปเดินหลังช่วงหลังฝนตก ดินโคลนที่อยู่บนพื้นนั้น กับขี้วัวที่โผล่ออกมาให้เห็นเป็นครั้งคราว ก็ทำให้เธอนั้นรู้สึกคันคอขึ้นมา
หลายวันมานี้ฟังผิ่นจือไม่ได้มาเยี่ยมเธอหลายวันแล้ว ประการแรกเป็นเพราะกำลังตั้งครรภ์ เหลิ่งชิงหลางอยู่ที่นี่ ไม่สามารถแก้ความอยากอาหาร ไร้รสชาติ กลัวว่าจะไปมีคนรักใหม่
ประการสองเรื่องต่างๆก็สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว รอเวลาเหมาะสมที่จะเปิดเผยมันออกมา เธอก็จะสามารถย้ายกลับไปเป็นพระสนมที่จวนฉีอ๋องได้อย่างสง่ามั่นคง แม้แต่จิ้นอวี๋ก็ไม่อาจทำอะไรเธอได้
ในช่วงเวลาสําคัญเช่นนี้ จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเว้นแต่จะมีเรื่องสําคัญพยายามอย่าไปมาหาสู่ เพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่สงสัย แผนการล้มเหลว
บวกกับเพราะตั้งครรภ์ จนสุดท้ายฟังผิ่นจือก็ยอมบอกความจริงกับเธอ ต่อไปไม่ให้เธอกินยาเม็ดหนิงเซียงอีก เพราะไม่ดีต่อเด็กในครรภ์
จู่ๆหยุดยากระทันหัน ทําให้เธอรู้สึกไม่สบาย รู้สึกอึดอัดและหงุดหงิดมาก เกลียดที่ทุกวันนั้นไม่สามารถระเบิดอารมณ์โกรธได้ อารมณ์เสียใส่พวกกรรมกรเกษตรกรพวกนั้น ก็ยิ่งมองตาปริบๆ หักนิ้วมืออย่างทรมาน
ตอนนี้เงาร่างสูงรูปงามปรากฎอยู่ที่ประตู แสงไฟมืดภายในห้องทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน
เหลิ่งชิงหลางเงยหน้ามอง หรี่ตามองอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะจำได้ว่าเป็นเขา ในใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังขึ้นมา เธอลุกขึ้นยืน ตะโกนเรียกอย่างดีใจ “ท่านอ๋อง!”
มู่หรงฉีกวาดสายตามองเธอ หลายวันนี้นางผอมลงอย่างเห็นได้ชัด สีผิวก็ดูไม่สดใสเปล่งปลั่งเหมือนแต่ก่อน
ดูเหมือน นางใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไม่ราบรื่นเสียเลย
“ท่านอ๋อง ท่านมารับชิงหลางใช่ไหมเพคะ?”
เหลิ่งชิงหลางมองเขาด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความหวัง เพราะในใจหวาดกลัว เว้นระยะห่างจากเขาสามก้าว ไม่กล้าที่จะกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของเขาเหมือนแต่ก่อน
มู่หรงฉีถามกลับไป “ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วงั้นหรือ?”
ความน้อยเนื้อต่ำใจที่อยู่ในใจเหลิ่งชิงหลางเพิ่มขึ้นทันที ร้องไห้โฮออกมา “ชิงหลางอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว ที่นี่ใช่ที่ของคนอาศัยอยู่งั้นเหรอเพคะ? ทั้งแมลงวัน ยุง หนู แล้วยังมีหมัดอีก อยากที่จะนอนอย่างสงบสุขก็ยังทำไม่ได้ หม่อมฉันไม่เคยต้องทุกข์ทนลำบากเพียงนี้มาก่อนเลย”
พลางกล่าวต่อว่า เมื่อเห็นสีหน้าของมู่หรงฉีไร้ซึ่งความเมตตาสงสาร กลับรู้สึกเย็นยะเยือกเล็กน้อย ก็หยุดปากอย่างรู้สึกผิด
น้ำเสียงมู่หรงฉียิ่งเย็นชาลง “หากอยู่ที่นี่แล้วไม่ชิน งั้นก็กลับไปที่จวนเสนาบดีเถอะ”
เหลิ่งชิงหลางรู้สึกว่าตัวเองได้ยินไม่ชัด “ท่านพูดว่าอะไรนะเพคะ?”
มู่หรงฉีพูดทีละคำ “งั้นก็กลับไปอยู่ที่จวนเสนาบดีเถอะ”
เหลิ่งชิงหลางตัวแข็งท่ือ “ท่านอ๋อง ท่านหมายความว่าอย่างไรเพคะ?”
มู่หรงฉีหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งจากแขนเสื้อ แล้วยื่นให้มือนาง “ให้คุณหนูใหญ่เช่นเจ้าอาศัยอยู่ที่นี่ก็น่าน้อยใจจริงๆ ดังนั้น นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าเป็นอิสระแล้ว ชายแต่งเข้าหญิงออกเรือน ต่างฝ่ายต่างไม่เกี่ยวข้องอันใดกันอีก”
เหลิ่งชิงหลางมองเขาด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ มือสั่นเปิดหนังสือหย่าที่อยู่ในมือ มองเพียงแวบเดียว ก็ฉีกขยำทิ้งลงพื้นอย่างโมโห
ความโกรธของมู่หรงฉีประทุขึ้นมา ถูกคำพูดร้องไห้ของเหลิ่งชิงหลางทำให้กลับไปอยู่ในจุดเดิม เหลิ่งชิงหลางเก่งในการจับจุดที่เจ็บปวดของเขา อีกทั้งยังทำให้มันขยายใหญ่ขึ้นอีก
สิ่งที่เข้าเสียเปรียบมากที่สุด ก็คือรากที่ฝังลงลึกในจิตใจของเขาทั้งคืน ตนเองต้องการนาง เดิมทีแค่อยากชดเชย ไม่ได้อยากทําลายชีวิตของเธออีก
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสามารถอดทนต่อความผิดพลาดและความน้อยใจของเหลิ่งชิงหลางครั้งแล้วครั้งเล่า
ท้ายที่สุดแล้ว ตนเองก็ต้องรับผิดชอบนาง
น้ําเสียงของเขาอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว “เป็นข้าเองที่ผิดต่อเจ้า เจ้าต้องการอะไร? เงินทองหรือบ้านเรือน ข้าจะพยายามทำให้เจ้าพอใจ”
เหลิ่งชิงหลางยิ้มอย่างขมขื่น “ชื่อเสียงของหม่อมฉัน อนาคตของหม่อมฉัน จบสิ้นไปตลอดชีวิต ท่านคิดว่า เงินเล็กน้อยจะสามารถชดเชยความผิดที่ท่านมีต่อหม่อมฉันได้อย่างนั้นหรือเพคะ? หม่อมฉันเป็นลูกสาวของเสนาบดี หม่อมฉันยังต้องอาศัยทานกุศลจากท่านอยู่งั้นเหรอเพคะ?”
มู่หรงฉีกำหมัด ไม่รู้จะพูดยังไง เขาเห็นว่า ตัวเองไม่เข้าใจเรื่องอะไรเลย นอกจากเรื่องนำทัพออกศึก ผู้หญิงคนหนึ่งก็สามารถทำให้ตัวเองนั้นมือไม้อ่อนไปหมด
นึกถึงท่าทีดันทุรังครั้งแรกที่เผชิญหน้าของจิ้นอวี๋ ฝ่ามือที่คล่องแคล่วของเหลิ่งชิงฮวน ทำให้ตนเองนั้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก ดีใจแค่ไหน หากวันนี้เธออยู่ด้วย เชื่อว่าจะสามารถตัดความยุ่งเหยิงและเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
เขาใจร้าย “ที่จวนฉีอ๋อง ไม่สามารถให้เจ้ากลับไปได้อีก นับตั้งแต่คืนเทศกาลไหว้พระจันทร์นั้น ก็ถือว่าได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับข้าแล้ว หากเจ้าไม่ยอมจากไป ก็ยังถือว่าตำแหน่งพระสนมที่จวนฉีอ๋องยังคงเป็นของเจ้าดังเดิม หมู่บ้านชนบทแห่งนี้ก็เป็นของเจ้า เจ้าสามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป นอกจากเรื่อความเป็นความตาย ข้าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก”
ความเพ้อฝันสุดท้ายของเหลิ่งชิงหลางพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าตัวเองจะใช้ความคิดทั้งหมดแล้วนั้น ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้เป็นของตนเองอีกต่อไป
แม้กระทั่ง เธอกําลังคิดว่า แม้จะพึ่งพาเด็กในท้องกลับไปที่จวนฉีอ๋อง ตัวเองจะมีชีวิตดีขึ้นมาน้อยแค่ไหนกันนะ? ก็แค่เปลี่ยนกรงให้ดูงามขึ้นหน่อยไม่ใช่หรือไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...