ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 307

รถม้าจอดนิ่ง

แต่ชายคนนั้นกลับยกบังเหียน หันหัวม้า จากนั้นก็หายไปจากเงาไม้ตรงทางแยก

เหลิ่งชิงฮวนจับจ้องทิศทางที่คนคนนั้นหายตัวไป พลันกระโดดลงจากรถม้า ควักเงินออกมาจากแขนเสื้อและโยนให้คนขับรถม้า “ส่งตรงนี้เถอะ ข้าจะเดินไปเอง”

จำนวนเงินค่อนข้างมาก ตอนคนขับรถม้ากำลังลำบากใจว่าไม่มีวิธีทอนเงิน เหลิ่งชิงฮวนก็เดินเลี้ยวไปตรงทางแยกอย่างรีบร้อนเสียแล้ว

คนคนนั้นไม่ได้ไปไหนไกล อีกทั้งยังลงมาจากหลังม้า และเดินจูงบังเหียนม้าอย่างช้าๆ เหมือนกับว่ากำลังรอนาง

เหลิ่งชิงฮวนเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว เดินจนเหนื่อยหอบเล็กน้อย และลืมไปเลยว่าอาจจะมีอันตราย

พออีกฝ่ายได้ยินเสียงฝีเท้าของเหลิ่งชิงฮวน ก็หันกลับมาช้าๆ และปล่อยบังเหียนม้าภายในมืออีกด้วย

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้บุ่มบ่ามเอ่ยปาก คนคนนั้นก็ไม่พูดอะไร ทั้งสองคนสังเกตอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ ครู่หนึ่ง

ชายหน้ากากนกอินทรีเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน “มาแล้วหรือ”

น้ำเสียงทุ้มต่ำมาก เหมือนพยายามเปลี่ยนเสียงอย่างสุดความสามารถ จากสองคำง่ายๆ นี้ เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงคำทักทายของเพื่อนเก่าที่ได้พบกัน

เป็นเขาใช่ไหม เขารู้สถานะของตนจริงๆ

นางพยายามทำให้นำเสียงของตนเองเรียบนิ่งเล็กน้อย จะได้ไม่ตื่นเต้นเกินไป “มาแล้ว”

อีกฝ่ายหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เหมือนกำลังไตร่ตรองทุกคำพูดอย่างรอบคอบ

“ได้ยินว่าเจ้ากำลังตามหาข้า”

เหลิ่งชิงฮวนแอบกัดฟัน “ดังนั้น เจ้าจึงยอมปรากฏตัวอย่างนั้นหรือ”

อีกฝ่ายนิ่งเงียบ “ดูเหมือนเจ้ากำลังตำหนิข้า”

“เปล่านะ จะเป็นไปได้ยังไง” เหลิ่งชิงฮวนเอ่ยถามอย่างผิวเผินว่า “แค่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นองครักษ์อินทรี”

อีกฝ่ายยกมือขึ้นมาลูบหน้ากากนกอินทรีบนใบหน้า “ขอโทษ ข้าไม่ได้พูดความจริงกับเจ้า ท่านอ๋องฉีคงจะไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับข้าใช่ไหม”

“ยังไม่รู้ แต่ข้าคิดว่า ยังไงก็ต้องสารภาพกับเขาไม่ช้าก็เร็ว”

“แล้วเจ้าจะบอกเขาอย่างไร”

“แน่นอนว่าต้องพูดความจริง” เหลิ่งชิงฮวนก้าวไปข้างหน้า “มิฉะนั้นล่ะ”

อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง

“เจ้าไม่มีอะไรจะพูดใช่ไหม ไม่อยากอธิบายหรือ” เหลิ่งชิงฮวนซักถามด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ

“อธิบายอะไร” ชายนกอินทรีพูดออกมาอย่างช้าๆ “ข้าไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไร”

“อย่างเช่น เจ้าจากไปโดยไม่ลา ทั้งยังหนีหน้าไม่พบเห็นมานานขนาดนี้”

ชายหนุ่มพูดอ้ำๆ อึ้งๆ “ข้ามีความลำบากใจ”

“ดังนั้น ข้าจะให้โอกาสเจ้า หวังว่าเจ้าจะให้คำตอบข้าได้”

ชายหนุ่มเงียบขรึมอีกครั้ง เหมือนกับสามีซึ่งนอกลู่นอกทางกำลังหาข้ออ้างอย่างบากบั่น

“ข้าเป็นองครักษ์อินทรี ข้ากลัวว่าจะทำให้เจ้าเดือดร้อน”

ทำให้เดือดร้อนอย่างนั้นหรือ เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเยาะในใจ ความรู้สึกซับซ้อน แต่บนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความรักความห่วงใยแสนลึกซึ้งและเข้มข้น “หากข้ากลัวเดือดร้อน คงจะไม่มาพบเจ้าแล้ว ไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ ไม่กอดกันสักหน่อยหรือ”

ชายนกอินทรีถอยหลังอย่างไม่เหลือร่องรอย เหมือนกับตกใจกลัว และทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย “ตอนนี้เจ้าเป็นพระชายาฉี กลางวันแสกๆ แบบนี้ คงไม่ไม่เหมาะสม”

เหลิ่งชิงฮวนเข้าใกล้อีกสองก้าว สะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือ เช็ดหางตาอันชุ่มชื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความสะเทือนใจและความโศกเศร้า “เจ้ากลัวหรือ”

“ข้ากลัวท่านอ๋องฉีจะรู้ถึงการมีอยู่ขององครักษ์อินทรี และทำลายทางรอดของข้า ข้ารู้สึกเหมือนเขารู้อะไรบางเสมอ แถมยังแอบค้นหาพวกเราตลอด

“เจ้ามาหาข้า เพื่อถามเรื่องพวกนี้หรือ คนของเจ้าคงจะไม่ได้สืบข่าวเกี่ยวกับข้อมูลของมู่หรงฉีและคิดจะหาช่องโหว่จากข้าใช่ไหม”

ชายนกอินทรีส่ายหัว “ข้าแค่อยากเจอเจ้า”

ไม่ใช่การหยอกเล่น

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเยาะ “ชายชั่ว ยังคู่ควรแก่การคุยเรื่องมิตรภาพกับข้าอีกหรือ”

ชายหนุ่มหวาดกลัวเล็กน้อย “ ทำไมเจ้าถึงเกลียดข้าขนาดนี้”

“ทำไมเหรอ”

วันนี้เหลิ่งชิงฮวนโกรธมากเป็นทุนเดิม และไม่มีที่ระบาย นึกไม่ถึงว่าชายคนนี้ยังไม่สำนึกผิดและแก้ไข และยังมาพูดแบบมีเหตุผลมากพออยู่แบบนี้

เจ้าดึงกางเกงขึ้นแล้วหนี การไม่รับผิดชอบไม่ใช่ความผิด แต่ความผิดของเจ้าก็คือ เจ้าเป็นคนขององครักษ์อินทรี!

ไฟภายในใจของนางพุ่งออกมาอย่างร้อนแรง ไม่พูดไร้สาระกับเขา พลันกัดฟันและทำเสียงไม่พอใจ “ไปหาพญายมก่อนแล้วค่อยถามเถอะ!”

แม้ว่าจะมีบางเรื่องที่นางอยากถามให้ชัดเจน และไม่อยากให้มันสิ้นสุดอย่างไม่เข้าใจแบบนี้ แต่ทว่า คนที่ชอบพูดจาอืดอาดและไร้สาระในละครทีวี สุดท้ายล้วนโดนคู่ปรับฆ่าตาย หากคุยเล่นกับเขามากๆ บางทีฤทธิ์ยานี้อาจจะสลายไป ดังนั้นต้องพูดไร้สาระให้น้อยลง

นางกำลังยกมีดขึ้น เพื่อลงมือจัดการอย่างรุนแรง

ชายหนุ่มหวาดกลัวจนเสียงกรีดร้องเปลี่ยนไป “พี่สะใภ้ไว้ชีวิตด้วย!”

ใบมีดหยุดชะงัก

เหลิ่งชิงฮวนยกหน้ากากบนใบหน้าของอีกฝ่ายออก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “จิ่งอวิ๋น เจ้าทำอะไรน่ะ”

ฉีจิ่งอวิ๋นกลัวเหลิ่งชิงฮวนจนน้ำตาและน้ำมูกจะใกล้จะออกมาแล้ว ร่างกายของเขาสั่นเทา “ข้าแค่เห็นพี่สะใภ้ไม่มีความสุข เหมือนมีเรื่องในใจ เลยหาทางทำให้พี่สะใภ้มีความสุข นึกไม่ถึงว่าเกือบจะโดนมืออำมหิตของพี่สะใภ้ฆ่าตายเสียแล้ว”

เหลิ่งชิงฮวนเก็บใบมีด “จะเล่นอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ ใครใช้ให้เจ้าปลอมตัวเป็นองครักษ์อินทรีกันเล่า หากข้ามือไวอีกนิด เกรงว่าต้องเย็บหลอดลมให้เจ้าเสียแล้ว”

ฉีจิ่งอวิ๋นชำเลืองมองนางอย่างเศร้าใจ “ข้าเห็นพี่สะใภ้สนใจหน้ากากอันนี้ จึงสั่งให้คนประดิษฐ์ขึ้นมาตามรูปแบบนี้ วันนี้ว่าจะมาถามพี่สะใภ้ว่าเหมือนหรือไม่ ใครจะรู้ว่าต้องระมัดระวัง แต่ยังโดนพี่สะใภ้ลอบกัดเสียได้ ทักษะลงมือฆ่าของพี่สะใภ้ไม่มีช่องโหว่จริงๆ”

เหลิ่งชิงฮวนถลึงตาใส่เขาอย่างหงุดหงิด “การที่เจ้าทำตัวแปลกๆ เมื่อครู่ ไม่ได้อยากให้คนเข้าใจผิดหลอกหรือ”

ฉีจิ่งอวิ๋นหัวเราะปกปิดเจนตาร้าย “ข้าตกใจหมดเลย ถ้าพี่ไม่ได้ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ข้าคงคิดว่าพี่สะใภ้สวมเขาให้พี่ชายของข้าเสียแล้ว ความหมายของสิ่งที่พี่สะใภ้พูดเมื่อครู่อย่าง จากไปโดยไม่ลา หลบหน้าไม่พบเห็น ทำไมข้าฟังแล้วเหมือนกับคนรักเก่ากลับมาพบกันอีกครั้งเลย หรือว่าตอนนั้นพี่ชายข้าแย่งคนรักของคนอื่นมาอย่างไม่เหมาะสม”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา