ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 321

จู่ๆ เหลิ่งชิงฮวนก็นึกถึงตาขาวของยายหลิง ดวงตาที่ไร้ซึ่งสีสัน เธอรู้สึกสับสนงุนงงกับความสัมพันธ์ระหว่างสองนายบ่าว

ทั้งสองสมรู้ร่วมคิดกันหรือไม่? หรือยายหลิงกำลังวางแผนต่อต้านจิ่นอวี๋? ตุ๊กตาลงอาคมที่ถูกแทงที่ตาตัวนั้นไม่ใช่ว่าจิ่นอวี๋ต้องการใช้เป็นตัวแทนเธอหรอกหรือ?

“ได้ข่าวว่าเมื่อก่อนดวงตาของยายหลิงงดงามมาก”

น่าจาอี๋นั่วพยักหน้า “ข้าได้ยินจากท่านเจ้าสำนักว่าตอนนั้นนางเป็นศิษย์ที่มีจิตวิญญาณมากที่สุด นางเกิดมาพร้อมกับดวงตาสีฟ้าซึ่งเหมาะกับการฝึกฝนคาถาคุมจิตเพราะสามารถดึงดูดวิญญาณได้”

เหลิ่งชิงฮวนชำเลืองมองนัยน์ตาสีน้ำเงินดำที่เปล่งประกายของอี๋นั่ว “แต่ตอนนี้ ดวงตาของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มันเป็นสีเทาและหมองคล้ำ”

น่าจาอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง “เป็นไปได้อย่างไร? หรือว่าคาถาคุมจิตของนางใช้การไม่ได้แล้ว?”

เหลิ่งชิงฮวนส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้”

อี๋นั่วเกาหัว “ข้ายังความรู้น้อยดังนั้นจึงไม่ค่อยเข้าใจ รอข้าเขียนหนังสือถึงอาจารย์ให้นางช่วยตอบคำถามของข้าแล้วกัน”

“งั้นเจ้าสามารถรักษาอาการผีบังตานี้ได้หรือไม่”

“ไม่ใช่เรื่องยากเลย ใช้น้ำตาวัวสามหยดและน้ำใบหลิวหนึ่งหยด ทาบนเปลือกตาของนางแล้วนางก็จะเห็นแสงสว่างทันที แต่ว่าข้ามักจะรู้สึกว่าดวงตาของนางนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านอย่าทำอะไรโดยพลการจะดีกว่า ดีที่สุดคือรออาจารย์ของข้ากลับมาก็ยังไม่สาย”

เหลิ่งชิงฮวนไม่รีบร้อนจริงๆ เธอยังคิดไม่ตกว่าเรื่องนี้เธอต้องเข้าไปยุ่งด้วยหรือไม่

“ขอแค่ไม่มีความคิดที่จะใช้อาคมทำร้ายใครข้าก็ไม่รีบร้อน ไม่อย่างนั้นการเก็บอันตรายไว้ใกล้ตัวจะทำให้รู้สึกไม่สงบเอา”

"ที่จริงอี๋นั่วมีวิธี แค่ร่ายคาถาใส่พระชายาก็สามารถป้องกันตัวจากแผนการของยายหลิงได้ หากนางคิดจะทำอะไรท่านก็จะเกิดอาคมย้อนกลับ ข้าเองก็สามารถตามเบาะแสเพื่อสืบหาตัวนางได้"

ร่ายคาถาใส่ตัวเธอ? ฟังดูน่าสนใจ แต่เธอก็ยังไม่กล้าฝากชีวิตตัวเองไว้กับเหล่าสตรีที่เล่นไสยศาสตร์พวกนี้ แม้ว่าอี๋นั่วจะเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูไม่ค่อยรู้จักโลกมานัก แต่สำนักลัทธินักบุญหญิงจะยอมปล่อยนางออกมาเพียงลำพังหรือ?

เหลิ่งชิงฮวนปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด “ไม่จำเป็นหรอก ข้ามีเครื่องรางจากผู้สูงศักดิ์อยู่ ยายหลิงทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”

เธออยากจะถามเรื่องยายหลิงต่อแต่โตวโตวกลับพรวดพราดเข้ามา

“คุณหนู หาตัวเจอสักที แย่แล้วเจ้าค่ะ!”

“เกิดอะไรขึ้น? ชิงเหยาล่ะ?”

โตวโตวหายใจแทบไม่ทัน “คุณหนูสามทะเลาะกับคุณหนูรองเจ้าค่ะ!”

ทะเลาะ?

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกปวดหัว เหลิ่งชิงเหยาอารมณ์รุนแรง จะไปหาเรื่องเหลิ่งชิงหลางทำไม?

เหลิ่งชิงหลางกำลังอยู่ในช่วงหวงเนื้อหวงตัว ปากคอเราะราย หากไปยั่วโมโหนางจะมีจุดจบดีๆ หรือ?

อี๋นั่วกล่าวลาก่อนจะออกไป

เหลิ่งชิงฮวนสั่งให้คนไปส่งนาง ก่อนจะรีบไปที่เรือนจื่อเถิงทันที

ยังไม่ทันจะถึงก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงดังออกมาจากเรือนจื่อเถิง

เหลิ่งชิงหลาง “คำเยินยอของเจ้ากับเซวียอี๋เหนียงช่างน่าทึ่งจริงๆ ท่านพี่ดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ เมื่อก่อนไม่เคยเห็นเจ้าทำตัวเป็นขี้ข้าเช่นนี้เลย น่าเสียดายที่เจ้าประจบผิดคน ใครเล่าจะรู้ว่าคนที่ได้เข้ามาในจวนอ๋องฉีคือใคร”

เหลิ่งชิงเหยา “ถุย ชายารองอย่างเจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับหางกระต่าย ท่านอ๋องฉีไม่ยอมพบหน้าเจ้า เจ้าคิดว่าแค่ตั้งครรภ์ก็ไม่มีใครเทียบได้งั้นหรือ? หนำซ้ำยังไม่เห็นแก่ท่านพี่ ลอบกัดไปทั่วเหมือนหมาบ้า”

“เด็กคนนี้ใกล้ใครใครก็รัก แม้ว่าท่านอ๋องจะไม่พูดอะไรแต่ก็คงจะรู้อยู่ในใจ แค่คิดก็รู้แล้วว่าหากพระชายาอยู่ในจวนต่อไปคงจะลำบากใจ”

“จริงๆ แล้ว เจ้าไม่ต้องรีบโกรธไปหรอก เป็นเรื่องปกติที่บุรุษจะมีภรรยาสามสนมสี่ แล้วทำไมเจ้าถึงต้องการครอบครองท่านอ๋องไว้คนเดียวเล่า? เห็นหรือไม่ว่ามีคนกี่คนที่เกลียดเจ้า? ช้าเร็วท่านอ๋องก็ต้องเบื่อความสดใหม่นี้และทอดทิ้งเจ้า เจ้ารีบกลับไปหาทางถอยดีกว่า จะได้ไม่รู้สึกเหมือนโดนตบหน้า”

คำพูดนี้ราวกับเข็มทิ่มแทงจิตใจของเหลิ่งชิงฮวน เธอเข้าใจว่าที่เหลิ่งชิงหลางพูดคือความจริง

ความรักและความอดทนที่มู่หรงฉีมีให้เธอมันจะนานเท่าไหร่กันเชียว?

มู่หรงฉีมีลูกที่เกิดจากสายเลือดของเขาเอง แล้วเขาจะมาชอบเด็กในทองของเธอได้อย่างไรกัน?

เหลิ่งชิงเหยาที่ฟังอยู่ข้างๆ ก็โมโห “ท่านพี่ ท่านเองก็เป็นพระชายา ท่านจะปล่อยให้นางพูดจาเหลวไหลต่อหน้าท่านอย่างนี้หรือ? หากเป็นข้า ข้าตบปากนางไปนานแล้ว”

“เด็กอย่างเจ้าจะไปรู้อะไร” เหลิ่งชิงหลางยิ้มอย่างมีชัย เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเหลิ่งชิงฮวนย่ำแย่มากขึ้นเรื่อยๆ นางจึงขยับเข้าไปใกล้และพูดด้วยเสียงต่ำ “ดูท้องของท่านพี่ที่ใหญ่นั่นสิ ร่างกายคงจะหนักมาก ปรนนิบัติท่านอ๋องไม่สะดวก ไม่แปลกใจเลยที่วันนั้นในรถม้าท่านอ๋องจะดุเดือดราวกับไม่เคยเจอสตรีมาก่อน”

เหลิ่งชิงฮวนมองนางอย่างเย็นชาและยิ้มเบาๆ “ปลอมตัวเป็นข้าเพื่อหลอกเอาความรักมาน่าภูมิใจงั้นหรือ? ก็แค่ตัวแทนเท่านั้น”

รอยยิ้มบนหน้าของเหลิ่งชิงหลางแข็งค้าง

“ฮ่าๆ ท่านอ๋องสามารถหาข้ออ้างอะไรก็ได้เพื่อพาตัวเจ้ากลับจวน แล้วเจ้าก็เชื่อเขางั้นหรือ?”

เหลิ่งชิงฮวนจ้องมองนางด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่มีความอบอุ่นในดวงตาของเธอ

“หากไม่เชื่อคำพูดของสามี หรือจะให้ข้าเชื่อเจ้าหรือ?”

เพียงประโยคเดียวก็ทำให้เหลิ่งชิงหลางสำลัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา