ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 339

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะ “เหอะเหอะ” “วิธีก็มีอยู่หรอก ทว่าเจ้าอาจจะเปลืองแรงเหนื่อยเปล่าๆ”

เสี่ยวหลิงติงยังคงจงรักภักดีต่อฮุ่ยผิน “ขอเพียงแค่นายหญิงของข้าปลอดภัยก็พอแล้วเพคะ”

เหลิ่งชิงฮวนพูดเสียงเบากำชับอีก หลิงติงยิ้มมุมปาก “พระชายาทำไมวิธีการของท่านถึงได้ร้ายเช่นนี้เพคะ?”

เหลิ่งชิงฮวนสัมผัสที่ปาก รู้สึกว่าตัวเองนั้นมีจิตใจดี เด็กน้อยคนนี้ต้องเข้าใจตัวเองผิดอย่างแน่นอน

เธอไม่เชื่อว่า แม่สามีใจร้ายคนนี้จะสามารถดื้อรั้นกับตัวเองจนถึงที่สุด ถ้ามีความสามารถก็อย่ามาขอร้องตัวเอง

พระสนมฮุ่ยเฟยย้ายไปอยู่ห้องของจิ่นอวี๋ ใช้น้ำอุ่นเช็ดตัว มองแต้มแดงที่อยู่บนหน้าตัวเอง โกรธจนแทบจะร้องไห้

ยังดีๆอยู่ แล้วที่เห็บหมัดที่อยู่บนเตียงมันมาจากไหนกัน? เสือออกจากป่าไปอยู่ตามพื้นบ้านก็ถูกหมารังแก ตัวเองตกอับจนถึงขั้นนี้แล้วเหรอ? แม้แต่แมลงดูดเลือดพวกนี้ก็ยังออกนอกหน้า?

มีแต่พวกนางสนมที่ถูกละเลยอยู่ในตำหนักเย็นเท่านั้นที่ไม่มีไรทำนั่งหาหมัด กัดกินกรอบแกรบ

ต้องเป็นพวกนางกำนัลที่ขี้เกียจอย่างแน่นอน ทำความสะอาดไม่เรียบร้อย หรือใครเป็นคนเอามันเข้ามา

นางเรียกนางกำนัลทั้งสี่คนที่ปรนนิบัตมาหา ยังไม่ทันที่จะได้ตำหนิ ก็เห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมนอกจากหลิงติง ทุกคนต่างใช้ผ้าปิดหน้ากันหมด?

พวกนางกำนัลรับใช้ต่างมองหน้ากันไปมา ถอดผ้าคลุมหน้าออก อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา พระสนมฮุ่ยเฟยมองดูทีละคน ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยตุ่มแดงๆเม็ดเล็ก เม็ดใหญ่ เห็นแล้วรู้สึกคันไปทั้งตัว

“เป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย? ทำไมที่หน้าถึงได้มีตุ่มขึ้นมากมายขนาดนี้?”

“กราบทูลพระสนม พวกข้าน้อยไปถามพระชายาแล้ว ท่านบอกว่าหลังเกิดเหตุไฟไหม้ อากาศในตำหนักใหญ่นั้นชื้นเกินไป บวกกับสารพิษที่ตกค้างอยู่ ดังนั้นพวกข้าก็เลยเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังเพคะ ทั้งคันทั้งแสบ ถ้าหากไม่ระวัง ก็จะเหลือรอยแผลเป็นไว้ ไม่มีหน้าที่จะไปเจอใครได้เพคะ”

พอพูดแล้วก็จั๊กจี้ พระสนมฮุ่ยเฟยก็อดไม่ได้ที่จะเกาตามร่างกาย

หลิงติงรีบเข้าไปห้าม “ท่านอย่าเกาสิเพคะ ที่บนตัวท่าน กลัวว่าจะเป็นเหมือนพวกหม่อมฉันนะเพคะ? พระชายาฉีอ๋องบอกไว้ ว่ายิ่งเกาก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะท่านที่อุดอู้อยู่แต่ในตำหนัก ต้องรุนแรงกว่าพวกหม่อมฉันแน่นอน หากกำเริบขึ้นมา ขึ้นที่หน้าก็คงจะไม่ใช่่เรื่องง่าย เกรงว่าจะขึ้นทั่วทั้งตัวด้วยเพคะ”

มือของพระสนมฮุ่ยเฟยหยุดชะงักทันที

เธอมีชีวิตที่หรูหรามาตั้งแต่เด็ก พวกเห็บหมัดเหล่านั้น น้อยครั้งที่จะพบเจอ บนตัวเธอนั้นแท้จริงแล้วถูกเห็บกัด หรือว่าเป็นขึ้นมาเอง เธอเองก็ตอบไม่ได้

จะทำยังไงดี? ยังต้องพึ่งพาหน้าตาของตัวเองอยู่ หากหน้าพัง ทุกอย่างก็จบเห่

พระสนมฮุ่ยเฟยร้อนใจทันที “หมอหลวง รีบไปตามหมอหลวงมาให้ข้า!”

พวกข้าหลวงทำหน้าลำบากใจ “ท่านลืมไปแล้วหรือเพคะ?พวกหมอหลวงไม่มีใครมากล้าเลยเพคะ”

“นั้นจะทำเยี่ยงไรดี? ไม่สิ” พระสนมฮุ่ยเฟยหันหน้าแล้วชี้ไปที่หลิงติง “แล้วทำไมหน้าของเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย?”

หลิงติงมองนางอย่างระมัดระวัง “โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย เนื้อหนังของบ่าวนั้นบอบบางที่สุด เป็นคนแรกที่เป็นผื่นแดง จึงรีบไปหาพระชายา เอายามาทาน ดังนั้นยังไม่ทันที่จะขึ้นก็หายก่อนแล้วเพคะ พวกนางสามคน รักษาช้าเกินไป ต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองวันกว่าจะได้ผลเพคะ”

พระสนมฮุ่ยเฟยสัมผัสที่ใบหน้าของตัวเอง ด้านหนึ่งก็เป็นกังวลมาก อีกด้านหนึ่งก็กัดฟัน ไม่อยากไปขอความช่วยเหลือเหลิ่งชิงฮวน บวกกับถูกควันไฟจนปวดหัว ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง รำคาญใจ

“ใครใช้ให้พวกเจ้าไปขอร้องนาง? ยาแค่นิดหน่อยพวกเจ้าก็กว้านซื้อมาหมดแล้วใช่ไหม? เป็นกบฎที่ขายผลประโยชน์เจ้านายเพื่อแลกกับความร่ำรวยของตัวเองจริงๆ”

พระสนมฮุ่ยเฟยโกรธมาก ชี้หน้าหลายคน ด่าเสียงแหบเสียงแห้ง ไม่นึกเลยว่าจะเป็นลมล้มพับไปแล้ว

ไอ้หยา เรื่องใหญ่แล้ว พระสนมเป็นลมไปแล้ว

พวกข้าหลวงต่างตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก รีบไปตามเหลิ่งชิงฮวน

เหลิ่งชิงฮวนใจเต้นตึกตัก เหมือนถูกลาเตะอย่างแรง ซวยแล้ว การเล่นพิเรนของตัวเองนั้นแรงเกินไปหรือเปล่านะ ถึงทําให้แม่สามีโกรธจนเป็นลม?

เธอลดตัวลงมาขอร้องตัวเองไม่ได้ ก็เลยแกล้งเป็นลม บังคับให้ตัวเองเป็นฝ่ายลงมือก่อน

“ในโลกนี้ก็ไม่มีแม่สามีอย่างท่านเหมือนกัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ําก็หวังว่าลูกชายตัวเองจะไม่ลงรอยกับลูกสะใภ้ เมียน้อยเข้ามาแทรก ทั้งยังใจร้ายคิดจะทำร้ายหลานของตัวเอง ตอนนี้กรรมตามสนอง ยังจะโทษใครได้อีก?”

“ใครเขาคิดจะทำร้ายเจ้ากัน ข้าหลงกลแผนชั่วของคนอื่นไม่ใช่หรือไง? อีกอย่างข้าก็ไม่ได้อยากจะได้ชีวิตเจ้าตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เจ้าจับจุดอ่อนได้ก็ไม่ยอมเชื่อฟัง อีกทั้งยังไม่ให้เกียรติอย่างนี้ ตรงกันข้ามเลย!”

“ท่านทำตัวไม่เหมาะสม จะให้เคารพอะไร? ถ้าหม่อมฉันไม่ได้แต่งงานกับลูกชายของท่าน ท่านก็ไม่ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ํา จะสมควรได้รับความเคารพจากหม่อมฉันได้อย่างไร?”

“ข้าทำเรื่องชั่วอะไร ถึงได้ลูกสะใภ้อย่างเจ้ามา?”

“ท่านก่อความชั่วช้าไม่น้อยจริง ๆ แต่ว่ามีข้าเป็นลูกสะใภ้แล้ว ถือว่าท่านสร้างสมบุญบารมี”

ทั้งสองตาต่อตาฟันต่อฟัน เธอโต้มาฉันโต้กลับ ต่างฝ่ายต่างหาว่าอีกฝั่งไม่มีอะไรดี

ไฟโกรธของพระสนมฮุ่ยเฟยเริ่มแรงขึ้น เหลิ่งชิงฮวนยิ้ม ไม่หงุดหงิดรีบร้อนอะไร

นางกำนัลทั้งสี่ถือหม้อต้มยามาอยู่ด้านนอกตำหนัก ไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามศึก เหง่ื่อท่วมหน้าฝาก ตุ่มสิวเล็กๆนั้นก็หายไปอย่างสะอาดหมดจด

สุดท้าย

เหลิ่งชิงฮวนทะเลาะกันจนเหนื่อย เบ้ปาก ลุกขึ้นยืน “ดูจากแรงทะเลาะของท่านแล้ว น่าจะไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ งั้นเข็มก็คงไม่ต้องฉีดแล้ว หยิ่งในศักดิ์ศรี งั้นยาที่หม่อมฉันสั่งให้ท่านก็อย่าดื่มละกัน ก็ปล่อยให้ตายไปอย่างนี้แหละ ดูสิว่าท่านจะมีชีวิตได้เห็นหน้าลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายไหม”

หันหลังแล้วเดินสะบัดก้นออกไป

พระสนมฮุ่ยเฟยเมื่อเห็นว่านางยอมเป็นฝ่ายถอยทัพก่อน รู้สึกตัวเองเป็นผู้ชนะ ยิ้มอย่างพอใจ “เจ้าเองต่างหากที่เป็นคนรีบมาตรวจข้า ทำไมข้าต้องไม่ดื่ม? ตายแล้วจะทำให้เจ้าพอใจหรือไง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา