พระชายาเซวียนรีบเข้าไปเตือนสติ “นางไม่สบายอกสบายใจ พูดระบายออกมาไม่กี่คำ ที่พระองค์ได้ยินก็พูดไปเพราะอารมณ์ หรูอี้หยิ่งผยองเช่นนั้น ทั้งยังกฎเกณฑ์ ยังสามารถทำเรื่องเสื่อมเสียต่อผิดศีลธรรมได้หรือเพคะ?”
“ข้าเคยชินกับบรรพบุรุษนี้แล้วน่ะ!”
ฮองเฮาเครียดแค้นชิงชัง “ทําไมถึงได้เอาแต่ใจแบบนี้นะ? นางไม่คิดเลยหรือไง ทุกยุคทุกสมัย มีองค์หญิงที่ไหนกล้าเอ่ยถึงเรื่องหย่าร้าง ไม่ใช่ผีสิงแล้วคืออะไรกัน?”
ฮองเฮาที่เพิ่งเห็นเหลิ่งชิงฮวนและพระสนมฮุ่ยเฟยสนุกคึกครื้น เพีียงพริบตาก็มีเรื่องขัดแย้งกันเองภายใน ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน ก็เรียกข้าหลวงในวังที่อยู่ด้านข้างมา กระซิบสั่งกำชับไป
พระชายาเซวียนรู้ว่า ทั้งสองคนนั้นเป็นแม่ลูกกัน ไม่ได้แค้นกันข้ามคืน ผ่านไปก็ดีแล้ว ดังนั้นตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องพูดมาก ก็แค่ปลอบประโลมไปนิดหน่อย อย่างเช่น “อารมณ์ของเด็ก” “กำลังโกรธอยู่” เป็นต้น
ฮองเฮาพยายามระงับความโกรธ “ที่ข้าทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อเซวียนเอ๋อร์ เจ้าสามารถเข้าใจความพยายามอย่างหนักนี้ก็ดีแล้ว ตั้งแต่หลังจากที่ฉีอ๋องแต่งงานกับเหลิ่งชิงฮวน ตอนนี้ยิ่งนับวันยิ่งได้รับคำชมจากเสด็จพ่อของเจ้ากับไทเฮา ข้าจัดการอย่างระมัดระวังรอบคอบทุกจังหวะก้าว ไม่กล้าประมาทเลินเล่อเลยสักนิดเดียว”
เมื่อพูดถึงเหลิ่งชิงฮวน นัยน์ตาพระชายาเซวียนก็จมดิ่งลง
“เสด็จแม่เพคะ แม่มดคนนั้นบอกว่าเหลิ่งชิงฮวนเป็นผีผู้หญิง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีมูลนะเพคะ ตอนนี้ในวังก็มีคนซุบซิบนินทา ในใจของหม่อมฉันนั้นรู้สึกกังขาเพคะ”
“สงสัยอะไร? มีเรื่องไร้สาระแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ? คนโง่เขลาอย่างพระสนมฮุ่ยเฟย ถึงจะฟังคำยุแยงของจิ่นอวี๋ แล้วจิ่นอวี๋นั่นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ หรือว่านางเองก็ไม่รู้เลยหรือ?”
“แต่ด้วยความสามารถของเหลิ่งชิงฮวนนั้น พระองค์ว่ามาจากไหนล่ะเพคะ?”
“นางน่ะไม่เปิดเผยความสามารถของตนเอง ตอนแรกที่จวนเสนาบดี อยู่ภายใต้จินซื่อ หากเผยไต๋ความสามารถออกมาหมด จิ่นซื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย จะยอมรับนางหรือไง? เมื่อมาที่จวนฉีอ๋อง เมื่อมีที่อาศัยแล้ว ก็แสดงฝีมือทันที แบบนี้เรียกว่าฉลาดเฉียบแหลม การวางแผนที่ฉลาดเช่นนี้ มองการณ์ไกล แม้พวกเจ้าจะรวมกันเป็นหนึ่ง ก็ไม่อาจเทียบได้”
พระชายาเซวียนฟังแล้ว ก็ไม่สบายใจ
ฮองเฮามองดู ก็พูดอย่างเอื่อยเฉื่อย “คำพูดนี้ข้ารู้ดีว่าเจ้าฟังแล้วจะไม่สบายใจ เพื่อที่เจ้าจะได้ไม่ไปหาเรื่องเหลิ่งชิงฮวน เจ้าดูสิหรูอี้แข่งกับนางมาหลายครั้งแล้ว เคยเอาเปรียบได้ซะที่ไหน? หรูอี้อาจพูดได้ว่าอายุยังน้อย ไม่รู้ความ หากเปลี่ยนเป็นเจ้า มันจะแตกต่างกันมากเลยล่ะ”
“เสียดายโอกาสดีๆอย่างนี้” พระชายาเซวียนถอนหายใจเบาๆ อย่างมีความในใจ
ฮองเฮายิ้ม อย่างมีความหมายลึกซึ้ง
“อ่ะ!”
ฮองเฮาเข้มงวดกับเรื่องวินัยของพวกบ่าวรับใช้มาก ดังนั้นข้าหลวงในวังต้องประพฤติตัวเรียบร้อยเป็นอย่างมาก เวลาปรนนิบัตอยู่ด้านหน้า ต้องไม่มีเสียงหอบหายใจเสียงดัง เสียงกรีดร้องที่น่ากลัวนี้ แหลมคมเหมือนเล็บเกากระจก ทำให้คนขนหัวลุก
ฮองเฮาสีหน้าไม่พอใจ “เกิดอะไรขึ้น?”
ข้าหลวงรีบเข้ามา “กราบทูลฮองเฮา เป็นองค์หญิงหรูอี้ที่ตกใจเพคะ”
หรูอี้งั้นเหรอ?
ฮองเฮาลุกขึ้นทันที รีบออกไปดู
กลุ่มคนกำลังรุมล้อมอยู่บริเวณสวนดอกไม้หน้าประตูตำหนัก สีหน้าต่างรับไม่ได้ ส่วนหรูอี้ยังคงปิดหน้า ตัวสั่นไปทั้งตัว แลดูหวาดกลัวมาก
ฮองเฮาก้าวไปข้างหน้า โอบกอดนางไว้ “เป็นอะไร? ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว นี่มันอะไรกัน?”
หรูอี้ยกมืออย่างสั่นเทา ชี้ไปที่สวนดอกไม้ ฮองเฮามองตามที่นางชี้ไป ก็ตกใจกลัวจนแทบจะกระโดด สีหน้าซีดลงทันที
ในสวนดอกไม้ ท่ามกลางซุ้มไม้ดอกไม้ประดับ มีซากสัตว์ท่ีถูกถลกหนัง เลือดสาดกระเซ็นอยู่ ถอดหางยาวๆ ลูกตาถูกควักออกโบ๋ทั้งสองข้าง ดูเหมือนจะยังมีลมหายใจอยู่ พยายามดิ้นรน ภาพนั้นช่างน่าหวาดกลัวมากเสียจริง
“นี่ นี่มันมาจากที่ไหนกัน?”
ฮองเฮาเสียงสั่นเครือ ตกใจจนอกสั่นขวัญหาย
“หม่อมฉันอยากจะหาที่พักสงบๆ ใครจะรู้ ใครจะรู้ว่าด้านหลังมันมีเสียงเคลื่อนไหว พอหันหน้าไปก็เจอเจ้าสิ่งนี้”
หรูอี้ตกใจกลัวจนพูดไม่ปะติดปะต่อ
ตกกลางคืน หลังจากที่เหลิ่งชิงฮวนล้างหน้าล้างตาเสร็จ นอนอยู่บนเตียง ก็นอนไม่หลับเสียที
แมวจรจัดที่อยู่ด้านนอกร้องอย่างคึกคัก เสียงยาวและเสียงสั้นเหมือนเด็กกําลังร้องไห้ ทำไมในตำหนักเจียนเจียมีแมวจรจัดเยอะอย่างนี้นะ ตั้งแต่ที่ตัวเองเข้ามาอยู่ ไม่สามารถนอนหลับอย่างสบายได้เลย
ประตูห้องด้านข้างเปิดออก หลิงติงที่ทำหน้าที่ตอนกลางดึกเดินไปพึมพำไป “นี่มันฤดูไหนกันแล้ว ทำไมแมวพวกนี้ถึงร้องไม่หยุดอีก ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน”
จากนั้น เธอก็เดินไปที่ประตู เคาะประตูตำหนักที่ปิดสนิท “ทหารอารักขา รบกวนพวกท่านไล่แมวพวกนี้หน่อยสิ มันเสียงดังจนพระสนมนอนไม่ได้เลย”
ทหารอารักขาด้านนอกตอบรับ ถือดาบไล่แมวออกไปให้ไกลๆ
เหลิ่งชิงฮวนได้ยินเสียงหน้าต่างด้านนอกดัง “ตึง” ก็ลุกขึ้นนั่งทันที คิดว่าเป็นลิงจ๋อตัวนั้นกลับมาแล้ว ก็รีบไปเปิดหน้าต่างทันที เพื่อไม่ให้หลิงติงจับได้ จึงมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นการเคลื่อนไหว สงสัยตัวเองจะหูฝาด
หลิงติงเดินถือโคมไฟกลับมา เดินผ่านหน้าต่างพอดี “พระชายายังไม่บรรทมอีกเหรอเพคะ?”
เหลิ่งชิงฮวนส่ายหน้า “เสียงดังจนตื่นน่ะ กำลังจะนอนแล้วล่ะ”
หลิงติงตอบรับอย่างไม่สนใจ เขย่าโคมไฟที่อยู่ในมือ “ที่ข้างหน้าต่างของท่านคืออะไรน่ะเพคะ?”
พลางพูดพลางเดินมาด้านหน้า มือสั่น โคมไฟหล่นลงที่พื้น ตกใจอกสั่นขวัญหาย กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
เหลิ่งชิงฮวนมือวางที่หน้าต่าง มีจุดบอดมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ใต้หน้าต่าง เมื่อเห็นปฎิกิริยาหลิงติงที่รุนแรงแบบนี้ ก็ผละออกจากหน้าต่าง เปิดประตูออกไปข้างนอก
เสียงร้องตกใจของหลิงติงก็มีสาวรับใช้ที่ทำหน้าที่ตอนกลางดึกเดินมา มองดูเหตุการณ์คึกครื้น ทั้งสองมุงล้อม มองดูจากแสงไฟอ่อนๆจากโคมไฟ ก็ตกใจหน้าถอดสีทันที
สิ่งที่ดิ้นอยู่บนพื้น ก็คือแมวดาวที่ถูกถลกหนังแล้ว
เหลิ่งชิงฮวนท้องไส้ปั่นป่วน หันหน้าอาเจียนออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...