ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 398

ฉีจิ่งอวิ๋นก็พยักหน้าสำทับ “พี่สะใภ้เห็นพวกเราเป็นคนนอก หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นข้ากับหลินเฟิงจะรับรองให้ท่าน พวกเรามีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน”

น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายและพูดออกมาอย่างมีไหวพริบ แต่ในใจของเหลิ่งชิงฮวนกลับรู้สึกหนักอึ้ง

ภายในห้องหมอหลวงกำลังฝังเข็มเพื่อประคองครรภ์ของเหลิ่งชิงหลางเอาไว้ แม่จ้าวรีบหยิบเทียบยาวิ่งออกไปอย่างร้อนรน

มหาเสนาบดีเหลิ่งยืมกุมมือและดูเหมือนว่าบนร่างของเขามีความโกรธ ดังนั้นเหลิ่งชิงฮวนจึงไม่ได้เข้าไป

จู่ๆหมอหลวงก็หยุดมือลง จากนั้นก็คีบบางอย่างออกมาจากแขนเสื้อของเหลิ่งชิงหลางขึ้นมา เขายดมันขึ้นมาดม จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “เซ่อเซียง?”

เหลิ่งชิงฮวนที่อยู่นอกห้องได้ยินชัดเจนก็ชะงักไป

มหาเสนาบดีเหลิ่งถามอย่างร้อนใจว่า “เซ่อเซียงคืออะไร”

หมอหลวงมองไปที่มหาเสนาบดีเหลิ่งก่อนจะตอบตามความจริงว่า “บนเสื้อผ้าของพระชายามีผงเซ่อเซียงติดอยู่มากขนาดนี้ได้อย่างไร ควรต้องรู้ว่าคนท้องไม่สามารถใช้กลิ่นเซ่อเซียงได้ เซ่อเซียงมีฤทธิ์ในการขับเลือด จะทำให้ผู้ตั้งครรภ์แท้งได้ง่าย”

สีหน้าของเสนาบดีเหลิ่งกับเหลิ่งชิงหลางเปลี่ยนไป “เป็นไปได้อย่างไร”

“ข้าเฝ้าระวังเรื่องอาหารการกินของพระชายารองมาโดยตลอด ไม่มีทางที่จะมีของนี่แน่ขอรับ พระชายาน่าจะเพิ่งไปเปื้อนโดนมันเข้า”

“เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่ามีคนจงใจทำร้ายชิงหลาง?”

หมอหลวงพยักหน้า “ข้าได้รับคำสั่งจากพระสนมฮุ่ยเฟยว่าให้ดูแลลูกในท้องของพระชายารองให้ดี หากเกิดอะไรขึ้นให้รีบรายงานพระชายาฮุ่ยเฟยให้ทราบ เพื่อให้พระนางเรียกร้องความเป็นธรรมให้”

มหาเสนาบดีเหลิ่งรั้งเขาเอาไว้อย่างเสียมารยาท “เรื่องนี้ให้ข้าเป็นคนสืบสวนให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยเอาความกัน ไม่ควรให้ลำบากถึงพระสนมฮุ่ยเฟย”

เหลิ่งชิงหลางกัดฟันแน่น “ข้ารู้ว่าท่านพ่ออยากปกป้องท่านพี่ แต่ว่าตอนนี้มีคนบังอาจลงมือทำร้ายทายาทของท่านอ๋อง ท่านพ่อยังไม่กล้าตัดสินใจหรือเจ้าคะ เรื่องนี้ต้องเชิญพระสนมฮุ่ยเฟยกับท่านอ๋องมาทวงความเป็นธรรมให้กับข้า”

เหลิ่งชิงฮวนเองก็รู้สึกสงสัยอยู่ที่ด้านนอก ฟ้าดินเป็นใจ ตัวของเธอเองไม่ได้โง่ขนาดนั้นที่จะใช้ผงเซ่อเซียงทำร้ายครรภ์ของเหลิ่งชิงหลาง ประโยคนั้นของนางเหมือนพิษร้ายและเล่นลูกไม้ออกมาซึ่งๆหน้า แค่ผงเซ่อเซียงเปื้อนชุดนิดเดียวจะทำให้เธอแท้งได้งั้นหรือ นี่เธออ่านนิยายเรื่องชิงรักหักสวาทในวังมาถึงจะได้เชื่อเรื่องนี้

เรื่องนี้เห็นอยู่ชัดๆว่าน่าจะเป็นเหลิ่งชิงหลางปัดความผิดให้กับคนอื่น ตัวของเธอคงไม่ได้แอบลงมือทำร้ายตัวเองหรอกนะ

อีกทั้งยังฟ้อง จะฟ้องก็ฟ้องไป ใครจะกลัวกันล่ะ

เดิมทีเรื่องที่เกิดขึ้นภายในจวนไม่สามารถปิดบังคนในวังได้ ไม่อย่างนั้นที่พระสนมฮุ่ยเฟยส่งแม่นมมาหลายคนคงได้ส่งมาเสียเที่ยวแล้วล่ะมั้ง

เมื่อถึงเวลามื้อเที่ยง พระสนมฮุ่ยเฟยกับมู่หรงฉีก็ตามกันมาที่จวนอ๋อง

พระสนมฮุ่ยเฟยอาศัยบารมีของจิ่นอวี๋ร้องไห้ต่อหน้าฮ่องเต้ ฮ่องเต้ช่างมีเมตตาเสียจริงจึงได้คืนตำแหน่งเฟยให้กับนาง

เมื่อเหลิ่งชิงหลางเห็นพระสนมฮุ่ยเฟยก็รีบร้องไห้ออกมาไม่ได้ศัพท์ คนชั่วก็ออกไปฟ้องก่อน

“วันนี้ท่านอ๋องออกไปล่าสัตว์นอกเมือง ท่านพี่สั่งให้คนไปตามหม่อมฉันมาที่ห้องรับแขก นางกับรัชทายาทเสิ่นทำเหมือนสอบสวนนักโทษอย่างไรอย่างนั้น และพยายามจะให้หม่อมฉันสารภาพให้ได้ บอกว่าหม่อมฉันเกี่ยวข้องกับการฆาตรกรรมที่เกิดขึ้นภายในเมือง หม่อมฉันจึงตกใจและใจร้อนจนทำให้ครรภ์ได้รับการกระทบกระเทือน

พระสนมฮุ่ยเฟยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าอย่าใจร้อนไป เรื่องนี้ข้าย่อมต้องทวงความเป็นธรรมและคืนความบริสุทธิ์ให้เจ้าแน่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายข้าจะเข้าข้างใครไม่ได้จะเป็นการขัดขวางการสืบคดีของหลินเฟิง เอาแบบนี้ในเมื่อหลินเฟิงรู้สึกสงสัยงั้นก็ไปที่จวนรองมหาเสนาบดีสักครั้งและถามกับท่านรองเสนาบดีและคุณชายรองดู ถ้าหากว่ายังมีคนอื่นอีกงั้นเจ้าก็ใส่ร้ายชิงหลาง เรื่องวันนี้เจ้าต้องชดใช้ให้กับนาง”

ที่พระสนมฮุ่ยเฟยพูดนั้นเป็นเหตุเป็นผลดีมาก เสิ่นหลินเฟิงรีบออกไปจากจวนอ๋องและขี่ม้าเร็วไปที่จวนมหาเสนาบดีเพื่อสอบถามกับรองเสนาบดี

รองเสนาบดีได้ฟังก็ยิ้มออกมาทันที “ท่านพูดถึงแม่หนูเสี่ยวจือนี่เอง นางไม่ใช่บ่าวในจวนรองเสนาบดีหรอก นางเป็นเด็กหญิงบ้านนอกที่เลี้ยงเอาไว้ข้างนอก ว่าแต่นางไปทำอะไรผิดงั้นหรือ ข้ามองดูนางก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง”

เสิ่นหลินเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง “งั้นตอนนี้นางอยู่ที่ไหนกันขอรับ”

“ถูกฮูหยินของข้าไล่ออกไปแล้ว ลูกชายของข้าหลงใหลในตัวนางมากจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง ผู้หญิงที่เขาเลี้ยงดูไว้ที่บ้านก็เอแต่วิ่งมาร้องไห้กับข้า ฮูหยินข้าก็โมโหเลยให้คนไล่นางออกไปไกลๆ”

รองเสาบดีพูดอย่างระมัดระวังจนเสิ่นหลินเฟิงไม่สามารถโต้แย้งได้

หรือว่าเรื่องนี้จะเป็นการเข้าใจผิดจริง? พี่สะใภ้คิดผิด?

หรือว่าเรื่องนี้รองเสนาบดีเองก็เกี่ยวข้องด้วย? งั้นคดีนี้คงสืบได้ยากแล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้าจิ้งจอกเฒ่าอย่างรองเสนาบดีแล้วเขาควรจะจัดการอย่างไรดี

เสิ่นหลินเฟิงคอตกกลับไปยังจวนอ๋องแล้วเล่าถึงผลลัพธ์ของการสอบถาม

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มในใจอย่างขมขื่น หรือว่าเหลิ่งชิงหลางมีที่พึ่งพิงแล้วจึงไม่กลัวกัน ฟังผิ่นจือตายไปอย่างไร้หลักฐานบวกกับจวนเสนาบดีก็ถือหางเธอ เธอไม่กลัวเรื่องนี้จะหลุดออกมาและเชิดหน้าชูตาต่อไปได้ อีกทั้งพระสนมฮุ่ยเฟยกับมหาเสนาบดีเหลิ่งคอยให้ท้าย คดีนี้เสิ่นหลินเฟิงไม่สามารถสืบได้อีกต่อไปแล้ว จึงทำได้จบเพียงเท่านี้

ในอนาคตต่อให้ตนนั้นจะพบหลักฐานอะไรแต่พูดไปแล้วก็ไม่มีใครเชื่อ คงมีแต่คนคิดว่าตนนั้นใส่ร้ายเธอก็เท่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา