ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 403

จิ่นอวี๋ยอมแพ้แล้ว

“ความรักความผูกพันธ์สิบปีระหว่างท่านกับหม่อมฉันล่ะ ท่านพี่ ที่แท้ท่านก็ใจดำขนาดนี้”

มู่หรงฉีเงียบขรึม ไม่เอ่ยปาก

เหลิ่งชิงฮวนกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “มิฉะนั้นล่ะ รอตาเจ้าหายเป็นปกติแล้ว จะเอามาจัดการพวกเราใช่หรือไม่”

จิ่นอวี๋เงยมองเหลิ่งชิงฮวนด้วยความเหลือเชื่อทันที “ท่าน ท่านรู้ทุกอย่างงั้นหรือ”

“แค่คาดเดา” เหลิ่งชิงฮวนกล่าวอย่างมือเหตุผล “ยายหลิงถ่ายทอดการคุมจิตแก่ท่าน และหยิบยืมสิ่งนี้มาเสาะหาการคุ้มครองจากเจ้า เพราะมีเพียงการอยู่ในวังหลวงเท่านั้น นางถึงจะหลบหลีกการตามล่าของนักบุญหญิงได้อย่างไร้กังวล”

แต่ว่าตอนแรกยังบำเพ็ญตนไม่บรรลุตามหลัก ดวงตาของท่านเจอแสงไม่ได้ ดังนั้นท่านจึงคิดกลยุทธ์นี้ออกมา ทิ้งเหลิ่งชิงหลางไว้ในวังหลวง จงใจยั่วให้นางโกรธ เพื่อให้นางผลักท่านลงมาจากที่สูง ท่านก็ได้จังหวะหยิบยืมโอกาสนี้มาแกล้งเป็นตาบอด เข้าไปอาศัยในจวนฉีอ๋อง และให้ยายหลิงใส่ผีบังตาลงในตาท่าน จะได้มองไม่เห็นชั่วคราว”

“อย่างแรก ท่านสามารถฝึกฝนคาถาคุมจิตของท่านอยู่ที่จวนฉีอ๋อง และจวนฉีอ๋องยังสามารถรักษาความปลอดภัยให้ยายหลิงได้ อย่างที่สอง ท่านได้จังหวะหยิบยืมโอกาสนี้เข้าใกล้มู่หรงฉีและล่อลวงเขา รอฝึกฝนวิชาอาคมสำเร็จ ก็สามารถทำให้เขาหลงใหล น้ำมาคลองเกิด ใช่แบบนี้หรือไม่”

ใบหน้าทาด้วยชาดแดงของจินอวี่กลับซีดเซียวลง “ท่านรู้มาตลอดงั้นหรือ”

“มึนงงครึ่งหนึ่งคาดเดาครึ่งหน้า” เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเล็กน้อย “ถึงแม้ไม่รู้จริงหรือเท็จ แต่ว่าข้าไม่มีทางมอบโอกาสทำร้ายข้าให้เจ้า เชื่อสิ หากข้าไม่ทำลายผีบังตาของเจ้าเสียก่อน ทำให้ตาของเจ้าได้รับความเสียหาย เจ้าพูดอะไรคงทุ่มเทอย่างสุดชีวิต และไม่ยอมจากฉางอันไปไกลถึงมั่วเป่าหรอกใช่หรือไม่”

“ไม่รู้ว่าท่านเสี่ยงชีวิตวิ่งไปลานล่าสัตว์ราชสำนัก เอาน้ำตาของเสือ มาบำรุงอำพัน มันมีประโยชน์ต่อดวงตาท่านใช่หรือไม่ ข้าต้องเตือนสติองค์ชายอันต๋าว่าต้องระวังเจ้าหรือไม่”

จิ่นอวี๋ตกใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าเหลิ่งชิงฮวนจะรู้ทุกอย่าง ความลับของตนไม่มีช่องทางปกปิดการกระทำต่อหน้านางได้เลย แต่ดูเหมือนนางไม่ได้ทำอะไร เหตุใดถึงเข้าใจทุกอย่างชัดเจนเล่า สตรีแบบนี้น่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ

นางหัวเราะเยาะ ในเสียงหัวเราะมีความเสียดสีแฝงอยู่ “ท่านพี่ ท่านเห็นแล้วใช่ไหม นี่ก็คือสตรีที่ท่านปกป้อง นางกำลังใช้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายบางอย่างมิใช่หรือ ท่านก็เห็นว่านางแผนสูงแค่ไหน วางแผนฉลาดเพียงใด ข้ากับเหลิ่งชิงหลางล้วนไม่ใช่คู่แข่งนาง!”

มู่หรงฉีพยักหน้า “พระชายาของมู่หรงฉีอย่างข้าก็ควรจะเป็นเช่นนี้ สามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับข้า วางแผนในกระโจม ใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาชนะศัตรู และไม่ใช่คนโง่ที่ทำเป็นแต่ร้องขอร้องให้ข้าปกป้อง”

นี่เรียกว่าในสายตาของคนรักแลเห็นนางไซซี คนอื่นคือการคิดร้าย ส่วนเหลิ่งชิงฮวนคือเฉลียวฉลาด

ปฏิบัติสองมาตรฐาน

จิ่นอวี๋กำหมัดแน่น ความเกลียดชังบนใบหน้าพลุ่งพล่าน กระทั่งดูดุร้ายเล็กน้อย

“เอาเถอะ เอาเถอะ เอาเถอะ วันนี้ถือว่าข้าก่อให้เกิดความอับอายขายหน้า วันนี้จิ่นอวี๋ขอสาบานว่า ต่อแต่นี้ไปจะไม่มีทางยอมวางเด็ดขาด เหลิ่งชิงหลาง วันหนึ่งข้าจะให้ท่าชดใช้ด้วยเลือด”

สีหน้าของมู่หรงฉีเย็นเยือก นำเสียงแฝงความดุร้าย “ เจ้ากำลังบังคับข้าให้สังหารเรียบอย่างนั้นหรือ”

จิ่นอวี๋มองเขาด้วยความเกลียดชังอย่างเย็นชาเช่นเดียวกัน “ขณะนี้ ข้าไม่ใช่องค์หญิงแห่งฉางอันอีกต่อไป แต่เป็นพระชายาแห่งมั่วเป่ย ท่านฉีอ๋อง ท่านกล้าลงมือหรือไม่”

ดวงตาของมู่หรงฉีเต็มไปด้วยความรุนแรงกับความก้าวร้าว “เช่นนั้นข้าขอแสดงจุดยืนตั้งแต่แรก หากเจ้ากล้าแตะต้องชิงฮวน ไม่ต้องพูดถึงพระชายาแห่งมั่วเป่ยหรอก เจ้าหนีได้เก้าวัน มู่หรงฉีอย่างข้าจะสับศพเจ้าเป็นหมื่นท่อน วันนี้เจ้าจากเมืองหลวงไป วันหน้าก็อย่าย่ำเท้าเข้ามาในฉางอันอีก”

พูดจบก็โบกมืออย่างเย็นชา “กลับเมือง!”

“ท่าทางน่ากลัวของเจ้าข้าพบเห็นมาเยอะแล้ว คิดถึงตอนนั้น อีกนิดเดียวเกือบจะทำข้าพิการแล้ว วันนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็ก”

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะ ‘พรืด’ ออกมาเบาๆ เรื่องที่สามารถลงมือแก้ไขได้พวกเราพยายามไม่ชักช้าให้ผู้อื่นลำบาก หากไม่ใช่เพราะองค์ชายอันต๋าคนนี้ทุบตีไม่ได้ ข้ายอมทุบตีเขาจนหนีบหางหนีกลับมั่วเป่ย ดีกว่ามีชื่อเสียงโด่งดังจากยุทธการ และทำลายชื่อเสียงวีรบุรุษของข้า ขณะนี้ คนรับใช้ภายในจวนเห็นข้าล้วนเดินอ้อม ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว นึกไม่ถึง ข้าอยู่ที่จวนฉีอ๋องสร้างบารมี และวิธีการที่ไม่อาจทนดูได้”

มู่หรงฉีหัวเราะ ‘เหอะเหอะ’ ออกมาจากลำคอเบาๆ อย่างมีความสุข “เจ้าเดาได้อย่างไรว่าสับเปลี่ยนภาชนะอาหารเป็นองค์ชายอันต๋า”

“เพราะว่าตอนนั้นองค์ชายอันต๋าถูกพิษ หม่อมฉันบอกกับพวกเขาอย่างชัดเจนว่าใกล้ตัวอาจมีหนอนบ่อนไส้ แต่เวลาต่อมา องค์ชายอันต๋ากับใต้เท้าหลู่ไม่ใส่ใจเรื่องนี้ และสืบสวนต่อไป นี่ไม่ปกติมาแต่เดิม ใครจะเอาความปลอดภัยของชีวิตตนเองมาล้อเล่นล่ะ”

“ดังนั้น หม่อมฉันสงสัยเล็กน้อยว่าคนวางยาพิษคนนี้เป็นคนของพวกเขาเองหรือไม่ เป้าหมายอย่างแรกคือ เพื่อหยิบยืมโอกาสทำให้พวกเราฉางอันลำบากใจ และใช้สิ่งนี้มาปรึกษาหารือเรื่องการค้าระหว่างกัน อย่างที่สองคือ อยากเห็นว่าข้ารักษาและช่วยชีวิตคนอย่างไรด้วยตาตนเอง”

“เมื่อมีความสงสัยนี้ เรื่องราวมากมายด้านหลังก็เป็นไปตามเหตุผลอย่างราบรื่น รวมถึงเขาหาข้ออ้างคุณภาพต่ำเข้าพักตำหนักฉาวเทียน และกำจัดความสงสัยที่ท่านมีต่อเขาตามลำดับ จากนั้นก็สามารถแสวงหาโอกาสลักขื่อเปลี่ยนเสา”

“ดังนั้น หม่อมฉันจึงตั้งใจทำให้เรื่องภาชนะอาหารถูกขโมยแพร่ออกไป เพื่อดูการตอบสนองของเขา ต่อมาเขารีบออกไปจากฉางอันจนแทบรอไม่ไหว หลังจากแผ่นชั่วสำเร็จเกรงว่ากิ่งก้านสาขาจะงอกตรงที่ที่ไม่สมควร”

มู่หรงฉีถอนหายใจเบาๆ “ข้าก็เคยคิดเช่นกันว่าองค์ชายอันต๋าผู้นี้คงไม่ใช่คนธรรม คาดเดาเหตุผลที่เขาจงใจเข้าใกล้ข้ามากมาย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะสนใจกล่องยาของเจ้า”

“ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น หม่อมฉันเคยซักถามนักบวชอวิ๋นชิงเป็นพิเศษ ตอนองค์ชายอันต๋าได้รับพิษวันนั้น อันที่จริงเป็นพิษกู่หนานจ้าว หรือเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนหนานจ้าว”

“คนหนานจ้าวโหดร้ายมาโดยตลอด ปฏิเสธไม่ได้เลย แต่เมื่อครู่เจ้ายังคาดเดาได้ บอกว่าองค์ชายอันต๋าไม่ได้สอบถามต้นสายปลายเหตุเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังคงเป็นคนรู้รายละเอียดของเหตุการณ์ นอกจาก…”

เขาจับแขนของเหลิ่งชิงฮวนแน่น “นอกจากหนานจ้าวกับมั่วเป่ยสมรู้ร่วมคิดกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา