ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 502

มู่หรงฉีโอบเหลิ่งชิงฮวนไว้แนบอก เขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและจิตวิญญาณ ดาบในมือกวัดแกว่ง ประกายดาบพาดผ่าน เลือดก็สาดกระเซ็น ศัตรูร่วงหล่นจากหลังม้า

เหลิ่งชิงฮวนถือแส้ยาวไว้ในมือ เธอเพียงยิ้มมุมปาก โน้มตัวเข้าไปในแขนของมู่หรงฉีอย่างอ่อนช้อยและอ่อนแอ มองดูเขาใช้ดาบยาวฟาดฟันเพื่อเธอ

หน้าอกของเขากว้างและมั่นคง เต็มไปด้วยความเป็นชาย ห้าปีที่ตรากตรำเพื่อเหลิ่งชิงฮวนให้เธอพอใจ แม้จะอยู่ในสนามรบที่เป็นอันตราย ต้องเผชิญกับบนทดสอบแห่งชีวิตและความตาย เธอก็รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของและความปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เธอเชื่อว่านับจากวันนี้ไป ผู้ชายคนนี้จะใช้มือของเขาวาดแผ่นฟ้าให้เธอ กำบังเธอจากลมโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ

ทั้งร่างของมู่หรงฉีเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งราวกับมังกรที่ออกทะเลอยู่ยงคงกระพัน ชาวหนานจ้าวกลัวและไม่แม้แต่จะกล้าเข้ามา ราวกับสิ่งที่อยู่ในมือของมู่หรงฉีคือเคียวของเทพเจ้าแห่งความตายที่เก็บเกี่ยวชีวิตอย่างบ้าคลั่ง

เมืองแตกแล้ว

น่าจาอี๋นั่วและน่าเยี่ยไป๋หลบหนีด้วยความตื่นตระหนกภายใต้การกำบังขององครักษ์เงา

เสิ่นหลินเฟิงรีบวิ่งไปหาเหลิ่งชิงฮวนอย่างเร็ว เขายิ้มอย่างตื่นเต้น “พี่สะใภ้! เป็นท่านจริงๆ ดีจริงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่”

เห็นได้ชัดว่ามีคำพูดเป็นพันคำ แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้ากลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไร มีเพียงคำทักทายง่ายๆ ที่ดูโง่เขลานิดๆ

เหลิ่งชิงฮวนต้องการลงจากหลังม้า แต่ถูกมู่หรงฉีกอดแน่นยิ่งขึ้น ไม่ยอมปล่อยเธอไปไหน

เธอทำได้เพียงยิ้มอย่างขอโทษให้เสิ่นหลินเฟิง “ข้ากังวลแทบแย่ ลำบากเจ้าแล้ว”

เสิ่นหลินเฟิงชำเลืองมองไอ้บื้อฉีที่ยิ้มเหมือนคนโง่อยู่บนหลังม้า “คนที่ควรได้รับการปลอบโยนน่าจะเป็นท่านพี่มากกว่า”

เหลิ่งชิงฮวนหันหน้าหนี เคราของมู่หรงฉีทิ่มจนเธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย

ตอขนสีขาวและไรหนวดเขียวครึ้มล้วนแสดงถึงความผันผวนของห้าปีและความปรารถนาที่ยากจะลืมเลือน

เธอส่งเสียงตอบรับในลำคอเบาๆ

โฉวซือเส่าที่สวมชุดสวมชุดสีแดงกระโดดไปรอบๆ ท่ามกลางกองทหารศัตรูดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง

เขาหันหน้ามามองเหลิ่งชิงฮวนในอ้อมกอดของมู่หรงฉีบนหลังม้า ดวงตาหมองลงเล็กน้อย

เคียงข้างกันมาห้าปีถึงคราวสิ้นสุดแล้วหรือ? เขากลัวมาตลอดว่าจะถึงวันนั้น และวันนั้นก็มาถึงจริงๆ

เพราะมีเหลิ่งชิงฮวน เจียงหนานจึงเป็นบ้านของโฉวซือเส่า มีทั้งความสนุกสนาน ความอบอุ่น มีเสียงหัวเราะและกลิ่นควันไฟ

หากเหลิ่งชิงฮวนจากไป บ้านนี้ก็คงไม่เหลือแล้ว โฉวซือเส่าก็กลับไปเป็นชายโสดเหมือนเดิม ลมพัดฝนเทก็ไม่มีใครกางร่มให้เขา ไม่มีใครคอยยกชาอุ่นๆ มาให้เขาอีกแล้ว

เหลิ่งชิงฮวนเป็นคนมอบความสุขในชีวิตให้เขา หากนางจากไปแล้ว ชีวิตของโฉวซือเส่าก็คงจะกลายเป็นสีเทา

เขาไม่กล้ามอง ได้แต่ออกแรงตวัดดาบในมือเสียบเข้าไปกลางอกของศัตรูเพื่อระบายอารมณ์

ทหารม้าเหล็กกว่าห้าหมื่นคนรวดเร็วและรุนแรงราวกับกระแสน้ำ บุกทะลวงเมืองปี้สุ่ยได้อย่างง่ายดาย

โฉวซือเส่ายกดาบในมือขึ้นมาเช็ดคราบเลือดบนศพที่พื้น เก็บดาบกลับเข้าฝัก จากนั้นค่อยๆ ปรับเสื้อผ้าสีแดง หวีผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย แล้วหันหน้าไปทางเหลิ่งชิงฮวนและเบ้ปาก

เมื่อมู่หรงฉีได้พบกับโฉวซือเส่า ความแค้นทั้งเก่าและใหม่ก็พรั่งพรูอยู่ในใจของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเขา “ช่วยทรราชทำชั่ว” ในตอนนั้นและวางอุบายแยกเขากับเหลิ่งชิงฮวน ก็คงจะแก้ไขความเข้าใจผิดไปได้ตั้งนานแล้ว

ดังนั้นชายคนนี้คือผู้ร้าย มู่หรงฉีมองดูใบหน้าบึ้งตึงของเขาก็รู้สึกไม่พอใจ ดังนั้นเมื่อโฉวซือเส่ามองเขาจากปลายหางตา เขาก็ขมกรามแน่นและเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา

เหลิ่งชิงฮวนบีบมือของเขาอย่างเงียบๆ เขานั่งตัวตรงทันที ใบหน้าของเขาผ่อนคลายเล็กน้อย

“ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชิงฮวนได้ผู้นำตระกูลโฉวคอยดูแลมากมาย ข้ารู้สึกขอบเจ้าอย่างสุดซึ้ง”

โฉวซือเส่าปากเสียมาตั้งแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมู่หรงฉีแสดงความรักต่อเหลิ่งชิงฮวนอย่างเปิดเผยต่อหน้าเขา ราวกับต้องการทรมานหมาโดดเดี่ยวอย่างเขา จนไฟในใจเดือดปุดๆ

เจ้าจะไม่ให้ข้าสบายใจ ล้อเล่นหรือไง ข้าจะเหยียบย่ำหัวใจเจ้าให้เหมือนกับพื้นรองเท้า

เรียกได้ว่าเป็นศัตรูหัวใจพบหน้า ดวงตาแดงก่ำ

เขาหรี่ตาเล็กน้อยและยิ้มอย่างอบอุ่น “ข้ากับชิงฮวนเป็นครอบครัวเดียวกัน ท่านอ๋องฉีไม่เห็นต้องเกรงใจเช่นนี้เลย ดูแลนางสองแม่ลูกเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว ใครใช้ให้อวิ๋นเช่อเรียกข้าว่าท่านพ่อล่ะ”

อ๋องฉีกัดฟันแน่น “อวิ๋นเช่อดูคล้ายข้ามาก ว่ากันว่าผูกพันทางสายเลือด ดูท่าจะเป็นเรื่องจริง เมื่อข้าเห็นเขา ข้าก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคือบุตรของข้า”

โฉวซือเส่าไม่แยแส “แต่ผู้คนในเจียงหนานบอกว่าเขาดูเหมือนข้า หล่อเหลาและสง่างามเช่นเดียวกับข้า ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าใครเลี้ยงก็ย่อมเป็นลูกของคนผู้นั้น คำพูดของคนเก่าคนแก่ย่อมไม่มีทางโกหก”

“ตอนนี้อวิ๋นเช่อกราบไหว้บรรพบุรุษแล้ว หากประมุขตระกูลโฉวคิดถึงเขาก็สามารถมาหาเขาที่เมืองหลวงได้”

โฉวซือเส่าหัวเราะ “เป็นความคิดที่ดี ข้ากำลังคิดว่าจะสร้างจวนสักหลังในเมืองหลวง และเปลี่ยนไปทำธุรกิจที่เมืองหลวง เช่นนี้ข้าก็จะมีเวลาอยู่กับอวิ๋นเช่อและชิงฮวนมากขึ้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา