คนขับรถม้าประหลาดใจ รีบหันรถม้ากลับไปที่วังหลวง
เสี่ยวอวิ๋นเช่อไม่เข้าใจเรื่องราวทางโลก ยิ่งรู้สึกว่า ไม่รู้ว่าของเล่นที่ตัวเองฉวยโอกาสหยิบติดมือมากนั้น มันรุนแรงมากแค่ไหน ทำไมทั้งพ่อและแม่ถึงได้ทำเหมือนพบกับศัตรูตัวฉกาจอย่างนั้น?
ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ยังไม่ถึงเวลาที่ประตูวังจะลงกลอน แต่ว่า เมื่อทั้งสามคนมาถึงด้านหน้า ประตูวังหลวงก็ปิดลงแล้ว
มู่หรงฉียกชายเสื้อขึ้นและลงจากรถม้า สอบถามราชองค์รักษ์ที่เฝ้าประตูวังหลวงอยู่
ราชองค์รักษ์ทำความเคารพมู่หรงฉีอย่างนอบน้อม “กราบทูลท่านฉีอ๋อง ฮ่องเต้มีรับสั่ง วันนี้พระองค์อารมณ์ไม่ดี นอกจากพระราชนัดดาแล้ว ก็ไม่อยากพบใครทั้งสิ้น”
มู่หรงฉีตะลึงงัน เป็นจริงอย่างที่ชิงฮวนเดาไว้ด้วย ฮ่องเต้คิดไว้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะต้องกลับมา
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เสี่ยวอวิ๋นเช่อขโมยพระราชลัญจกร พระองค์จงใจอ่อนข้อให้ และปล่อยให้เรื่องเกิดขึ้นไปเช่นนั้น
ชิงฮวนนั่งอยู่ในรถม้าก็ย่อมได้ยินคำพูดที่ราชองค์รักษ์บอก ก็เข้าใจแล้ว เขาต้องการให้ตัวเองส่งเสี่ยวอวิ๋นเช่อกลับเข้าวังไปอย่างเชื่อฟัง
เดิมที เธอนึกว่าเมื่อพบเขาแล้ว สองสามีภรรยายอมจำนน ยอมรับผิด เอาพระราชลัญจกรส่งคืนกลับไปอย่างเชื่อฟัง ตามที่อ้างไม่รู้ก็คือไม่ผิด เรื่องนี้ก็สามารถพลิกเปลี่ยนได้แล้ว
ใครจะไปรู้ว่าที่เขาอยากจะได้คือเสี่ยวอวิ๋นเช่อ ตัวเองไม่เพียงแต่จะต้องยอมรับผิดแล้วยอมจำนน แต่ยังต้องให้ลูกอยู่ในวังต่อไป
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เขานั้นรักเสี่ยวอวิ๋นเช่อมากจริง ๆ จนอาจกล่าวได้ว่าตามใจ เธอไม่คัดค้าน และยอมที่จะส่งลูกตัวเองเข้าไปในวังหลวง ให้อยู่เป็นเพื่อนชายชราขี้เหงาให้มากขึ้น
แต่ว่าให้เสี่ยวอวิ๋นเช่ออยู่แต่ในวังหลวงตลอดเวลา นั่นก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
เด็กคนนี้นิสัยดื้อรั้น นิสัยจะเสียเอาได้ง่ายๆ เธอจะไม่ปล่อยให้เสี่ยวอวิ๋นเช่ออยู่ห่างตัวเธอเป็นเวลานานเด็ดขาด เขาเพิ่งจะอายุห้าขวบเองนะ
เธอยกม่านกั้นรถขึ้น แล้วพูดกับมู่หรงฉีด้วยสีหน้าลำบากใจ “กลับจวนเพคะ!”
พระราชลัญจกรนี้ไม่คืนแล้ว ดูสิว่าใครจะร้อนใจที่จะใช้กว่ากัน! รับไม่ได้ที่ไม่ยอมตามใจเขา
มู่หรงฉีไม่ได้ขยับฝีเท้า เขาเข้าใจอารมณ์ของพ่อตัวเองดี หากหันหน้าเดินจากไป กลัวว่าคงจะโมโหแน่ๆ ต่อมาไม่รู้ว่าจะงัดกลอุบายอะไรออกมาใช้อีก
เขาเดินไปที่หน้ารถม้า พูดเสียงเบา “ไม่งั้นส่งลูกเข้าไปด้านในก่อน แล้ววันพรุ่งพวกเราค่อยมารับโทษกัน?”
เหลิ่งชิงฮวนมองเสี่ยวอวิ๋นเช่อที่จ้องมองตัวเองอยู่อย่างน่าสงสาร ตัดใจไม่ลง
ทั้งสามคนเพิ่งจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน สองพ่อลูกยังไม่ทันได้มีเวลาสนิทสนมกันเลย
นี่ถ้าไม่ใช่เขาขุดหลุมเอาไว้ ข้าก็ยอมรับแล้ว ใครใช้ให้เจ้าเด็กดื้อนี่วอนโดนลงโทษกันล่ะ?
แต่วันนี้ตัวเองได้ยอมอ่อนข้อให้แล้ว จะให้เหมือนมาชแมลโล่ปล่อยให้เขาบีบแบนไม่ได้ ต่อให้เขาเป็นฮ่องเต้ ก็ต้องมีน้ำใจมนุษย์ต่อกันหน่อยไม่ใช่หรือ?
เธอทำเสียงฮึดฮัด “อวิ๋นเช่อถูกหม่อมฉันตามใจไม่สนถูกผิด ทั้งไม่ได้สั่งสอนให้ดี ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องสร้างปัญหาใหญ่โต รอให้หม่อมฉันพาเขากลับไปแขวนแล้วตี ปล่อยให้หิวข้าวอีกสามวัน สำนึกว่าตัวเองผิดไปแล้ว แล้วค่อยส่งมาที่วังหลวงขอโทษเสด็จพ่อ”
เสี่ยวอวิ๋นเช่อที่อยู่ในอ้อมแขนตัวสั่นอย่างอใจไม่ได้
มู่หรงฉีอ่านแววตาเจ้าเล่ห์ของเธอออก ลังเลใจอยู่พักหนึ่ง ก็หันหลังกลับขึ้นรถม้าไป
ทั้งสามคนกลับมาถึงจวนฉีอ๋อง รถม้าหยุดที่หน้าประตูยังไม่ทันที่จะจอดสนิท ด้านในก็มีเสียง “ตึกตึกตึก” ของกลุ่มคนแห่ออกมา
รองแม่ทัพอวี๋เป็นแกนนำ ด้านหลังตามด้วยโตวโตว แม่หวัง แล้วยังมีแม่นมเตียว หลิงกวนเอ๋อร์ แล้วคนหน้าตาคุ้นเคยกันอีกมากมาย ต่างกลั้นน้ำตาไว้มองไปที่เธออย่างใจจดใจจ่อ แล้วคุกเข่าอย่างพร้อมเพียงกัน
เหลิ่งชิงฮวนเปิดม่านกั้นแล้วลงจากรถ เมื่อสองเท้าแตะถึงพื้น โตวโตวก็กระโจนเข้ามากอดที่ต้นขาของเธอ ปล่อยเสียงร้องไห้โหออกมา น้ำมูกน้ำตาเต็มใบหน้า ซบไปที่ตัวของเหลิ่งชิงฮวน
เหลิ่งชิงฮวนมองไปรอบๆหาเสี่ยวอวิ๋นเช่อ เมื่อกี้ทุกคนมัวแต่ทักทายต้อนรับพระชายาและท่านอ๋องก็เข้าจวนไปแล้ว ไม่มีใครทันสังเกตว่าบนรถนี้ยังมีพระราชนัดดาผู้สูงศักดิ์
มองจนทั่วก็ไม่เห็นวี่แวว
เหลิ่งชิงฮวนว้าวุ่น ตัวเองเป็นแม่คนได้ยังไงเนี่ย ไม่คิดเลยว่าจะลืมเจ้าก้อนภาระ แล้วก็เฟิงเหล่ยอวี้ เอ๊ะ เฟิงเหล่ยอวี้ไปไหนแล้ว?
อย่าบอกนะว่าเป็นคำพูดที่เมื่อกี้ข่มขู่เสด็จพ่อ เจ้ากระต่ายน้อยคิดว่าเป็นเรื่องจริง กลัวกลับมาแล้วจะโดนตี ก็เลยหนีออกจากบ้านไป?
มู่หรงฉีไม่รู้ความสามารถของเจ้าเสี่ยวอวิ๋นเช่อที่ซุกซนและเกเร ไม่เห็นลูกก็กระวนกระวายใจ เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองฝ่าย เหลิ่งชิงฮวนสงบกว่ามาก
“มีเฟิงเหล่ยอวี้ตามไปด้วย ไม่น่าจะเป็นอะไรหรอก”
คนกลุ่มหนึ่งรีบร้อนเหมือนมดบนกระทะร้อน วุ่นวายไปหมด เด็กอายุห้าขวบ เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ไม่น่าจะไปไหนไกล!”
มู่หรงฉีมองไปรอบๆ “สามารถพาเฟิงเหล่ยอวี้กับอวิ๋นเช่อออกไปได้โดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว นอกจากโฉวซือเส่าก็ไม่น่าจะมีคนอื่นอีก โฉวซือเส่า ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่แถวนี้ ออกมาเดี๋ยวนี้!”
ข้างบนหลังคาด้านข้างมีเสียงหลุดหัวเราะคิกคัก เสียงหวานๆของเสี่ยวอวิ๋นเช่อดังแว่วมาจากไกลๆ “พ่อของข้านี่เขลาจริงๆเลย พวกเราซ่อนอยู่ตรงนี้เขาก็ยังหาไม่เจอ ก่อนหน้านี้อยู่ที่เจียงหนาน ข้าซ่อนตัวอยู่ในเล้าไก่ก็ยังถูกท่านหาเจอเลย”
“เพราะงั้น เจ้าโชคดีนะ เจ้าอยู่กับข้ามากๆหน่อย อย่าได้โง่เขลาเหมือนพ่อของเจ้าล่ะ ในอนาคตเดี๋ยวจะแต่งลูกสะใภ้ไม่ได้”
เสี่ยวอวิ๋นเช่อหัวเราะชอบใจ “ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว ขนาดนกที่ตาบอดเทวดายังไม่ปล่อยให้อดตายเลย ยังมีผู้หญิงที่สายตาไม่ดีเหมือนท่านแม่อีกไม่ใช่เหรอ?”
เหลิ่งชิงฮวนเงยหน้าขึ้น โฉวซือเส่าและเสี่ยวอวิ๋นเช่อนั่งอยู่เคียงข้างกันอยู่บนหลังคาจวนอ๋อง ขาทั้งสองข้างสั้นๆของเสี่ยวอวิ๋นเช่อห้อยลงมา แกว่งไปแกว่งมา ในมือยังถือน้ำตาลเคลือบผลไม้หนึ่งไม้ กินอย่างเอร็ดอร่อย พลางกินพลางคายเม็ดออกมา ส่ายหัวไปมา
คนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ด้านล่างที่ถูกกลั่นแกล้งก็อดกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ โอ้ย คุณชายน้อยก็ช่างน่ารักเกินไปแล้ว ผิวขาวเนียนละเอียดยังกับก้อนหิมะ อยากจะลองบีบดูเหลือเกินว่านิ่มขนาดไหนกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...