ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 530

ขบวนของฮ่องเต้มาถึงจวนอ๋องฉี

บนท้องถนนผู้คนต่งคุกเข่าและพูดสรรเสริญเขาให้มีอายุยืนหมื่นปี

ชายชราไม่มีเวลามาสนใจใคร เขารีบเร่งเข้าไปในจวนอ๋องฉีอย่างใจร้อน

ชาวบ้านต่างพูดคุยกันว่า “ฝ่าบาทเสด็จมาที่จวนอ๋องฉี แถมยังรีบมาก เกิดเรื่องใหญ่สำคัญอะไรขึ้นหรือเปล่า”

ครั้งก่อนดูเหมือนจะเป็นเมื่อห้าปีก่อนตอนที่ท่านอ๋องฉีและพระชายาฉีตีกันจนจะฆ่าตัวตาย

“ได้ยินมาว่าพระชายาฉีตีลูก”

“แค่ตีลูกเท่านั้นเอง เรื่องเล็กๆต้องทำให้เอิกเริกเช่นนี้หรือ”

“เมื่อเทียบกับที่ท่านอ๋องฉียกกองทัพกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นคน นี่นับว่าเป็นเรื่องเอิกเริกหรือ”

...

องครักษ์ของจวนอ๋องฉีต่างก็รู้สึกว่าเสียหน้า พวกเขาทั้งหมดต่างพากันเงียบไป

ชายชรายังไปไม่ถึงตำหนักเฉาเทียนเลยก็ได้ยินเสียงของเสี่ยวอวิ๋นเช่อร้องไห้ตะโกนออกมาอย่างน่าสงสาร

“ข้าไม่กล้าอีกแล้ว ท่านแม่ เช่อเอ๋อร์ไม่กล้าขโมยอีกต่อไปแล้ว”

“ท่านแม่อย่าตีข้า ข้าผิดไปแล้ว ท่านพ่อ ท่านพ่อโฉว เสด็จปู่ พวกท่านอยู่ไหน รีบมาช่วยข้าเร็ว! ข้าจะโดนตีจนตายอยู่แล้ว!”

...

เสียงแส้ฟาดกับเนื้อดังเพี๊ยะ อีกทั้งยังออกแรงตีมาก

ชายชราปวดใจจนใจสั่น เขาสาวเท้าก้าวยาวบุกเข้าไปในห้อง เขารู้สึกโกรธไปทั้งร่างและคำรามออกมาว่า “เหลิ่งชิงฮวน เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”

เสิ่นหลินเฟิงที่กำลังร้อนใจเมื่อเห็นชายชราเข้ามาก็เหมือนเห็นแสงแห่งความหวัง

“ฝ่าบาท ท่านมาแล้ว”

ฮ่องเต้ตวาดออกมาอย่างโมโหด้วยใบหน้าจริงจัง “ไร้ประโยชน์ พวกเจ้าทั้งหมดมันไร้ประโยชน์ แค่ผู้หญิงคนเดียวก็ห้ามเอาไว้ไม่ได้”

เสิ่นหลินเฟิงหดคอและไม่กล้าพูดอะไรออกมา

เสียงฟาดแส้ในห้องจึงเงียบลง

เหลิ่งชิงฮวนหอบหายใจและสูดอากาศเข้าปอด “ไม่รู้ว่าเสด็จพ่อจะมา เสด็จพ่อโปรดอภัยให้ด้วยที่ชิงฮวนไม่มีหน้าไปพบท่านและไม่สามารถออกไปต้อนรับได้ รอให้หม่อมฉันสั่งสอนลูกทรพีคนนี้เสร็จเสียก่อนแล้วจะไปขอรับโทษจากเสด็จพ่อเพคะ”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อเมื่อได้ยินว่าแสงแห่งความหวังของตนมาแล้วก็ร้องไห้พร้อมตะโกนออกมาจนคอแทบแตก “เสด็จปู่มาทำไมถึงเพิ่งมากันขอรับ ท่านแม่จะตีข้าจนตายอยู่แล้ว! วันนี้ท่านก็เห็นกับตาแล้ว หลานไม่ได้พูดไร้สาระนะขอรับ”

ฮ่องเต้ชราได้ยินก็ปวดใจ เขาจึงหลุดปากด่าเหลิ่งชิงฮวนที่อยู่ในห้อง

“เจ้าลองแตะต้องเด็กแม้แต่ปลายเล็บดูสิ!ลองเป็นเจ้าดูสิ ข้ามีหลานชายแค่คนเดียว เขาเพิ่งจะห้าขวบ เจ้าจะตีเขาให้ตายแบบนี้คิดจะให้ตระกูลมู่งหรงของข้าสิ้นทายาทสืบสกุลหรือไง”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ทำตัวเจ้ายศเจ้าอย่างหรือทำตัวต่ำต้อยจนเกินไปแล้วพูดออกมาว่า “แม่ที่ตามใจมากเกินไปลูกก็จะดื้อจนไม่รู้ขอบเขต วันนี้เขาได้ก่อเรื่องใหญ่หากไม่สั่งสอนให้ดีลูกก็ไม่มีหน้าไปพบเสด็จพ่อหรอกเพคะ”

“ไร้สาระ!” ชายชราใจร้อนเสียจนแทบจะกระโดดเข้าไปหา “เหลิ่งชิงฮวนเจ้าคิดจะขัดราชโองการหรือ ถ้าเจ้าไม่เปิดประตูข้าจะให้คนถีบเข้าไป”

เหลิ่งชิงฮวนเองก็ไม่กลัว “ชิงฮวนได้คิดแล้วเพคะ อย่างไรเสียเรื่องขโมยตราพระราชลัญจกรก็เป็นโทษตาย อีกทั้งยังมีชื่อเสียงเรื่องที่เขาไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างเข้มงวด ไม่สู้ให้หม่อมฉันตีเจ้าลูกทรพีให้ตาย เก็บเขาไว้ไม้แน่เขาจะก่อเรื่องใหญ่อะไรอีกในภายภาคหน้า หม่อมฉันจะให้คนอื่นมาว่าหม่อมฉันลับหลังไม่ได้”

“นี่นับเป็นเรื่องใหญ่อะไรกัน ข้าบอกตอนไหนกันว่าจะให้โทษตายกับเด็ก?!” ชายชราพูดอย่างเป็นเหตุเป็นผล

ประตูถูกเปิดออกทันที เหลิ่งชิงฮวนโผล่ศีรษะออกมา “ท่านบอกว่าจะไม่ลงโทษเขา?”

ฮ่องเต้ที่พูดออกมาแล้วก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ทำอย่างที่หวังมาได้ตลอด เป็นอย่างที่คิดจริงๆ

เขาไม่พูดอะไรแล้วชะโงกหน้าเข้าไปดู

เสี่ยวอวิ๋นเช่อถูกมัดไว้บนเก้าอี้ยาว ก้นของเขาลายไปหมดบนนั้นยังมีรอยเลือดอยู่

ชายชราเมื่อได้ฟังก็คิดว่าเหมือนจะเป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะเรื่องนี้เขาเป็นคนก่อนขึ้น ถ้าไทเฮารู้เข้าเขาคงต้องถูกด่าอย่างหนัก

เวลานี้เขารู้สึกลำบากใจ

เหลิ่งชิงฮวนกระแอมออกมาเบาๆ “เสด็จพ่อเพคะ เช่อเอ๋อร์พูดมีเหตุผล เสด็จย่าจะด่าหม่อมฉันไม่สำคัญแต่หากท่านปวดใจขึ้นมาโทษของชิงฮวนก็นับว่าใหญ่มาก อีกไม่กี่วันพอหม่อมฉันรักษาบาดแผลให้กับเช่อเอ๋อร์แล้วก็จะส่งเขาเข้าไปในวังอีกครั้ง ดีไหมเพคะ”

“ก็ไม่อย่างไร!” ชายชราอารมณ์ไม่ดี “ตอนนี้รู้ว่าไทเฮาจะปวดใจ ทำไมถึงได้ไปเร็วนัก”

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะสำทับอย่างระมัดระวัง เธอพูดออกมาอย่างดีอยู่นาน แล้วทุบอกเพื่อรับประกันอีกทั้งยังถวายตราพระราชลัญจกรคืนด้วยความเคารพ ชายชราจึงยอมปล่อยลง

ชายชราโบกมือเรียกลู่กงกงเข้ามารับคำสั่ง เขาครุ่นคิดแล้วให้คนนำพู่กันกับหมึกเข้ามา เขาตวัดปลายพู่กันสองสามทีไม่นานก็โยนมันให้กับเหลิ่งชิงฮวน

“รับราชโองการ ประการแรกพระราชทานสมรสให้เจ้ากับฉีเอ๋อร์ อย่างที่สองคือให้เช่อเอ๋อร์เป็นผู้สืบทอดของจวนอ๋องฉี อย่างที่สามข้าเพิ่งเพิ่มเข้าไปคือในภายภาคหน้าไม่อนุญาตให้ตีหลานชายสุดที่รักของข้า!”

ก็ได้ ยังจะมาให้ท้ายกันแบบนี้อีก

เหลิ่งชิงฮวนจึงทำได้เพียงขอบพระทัยรับราชโองการอย่างจำใจ

ชายชราถือตราพระราชลัญจกรแล้วเดินสะบัดออกไป

เสี่ยวอวิ๋นเช่อนั่งคร่อมอยู่บนเก้าอีกอย่างได้ใจ “เป็นเสด็จปู่ที่ดีต่อข้า ถ้าไม่ใช่เพราะในวังนั้นน่าเบื่อข้าคงไม่กลับจวนอ๋องฉีหรอก ทุกวันต้องคอยดูพวกท่านจู๋จี๋กัน โหดร้ายต่อข้าที่ยังโสดมาก”

เหลิ่งชิงฮวนกวาดสายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า “เมื่อก่อนข้ารู้แค่ว่าเจ้าแกล้งทำตัวให้น่าสงสาร คิดไม่ถึงเลยว่าฝีมือการแสดงของเจ้าก็ไม่เลว เล่นละครเก่งจริง”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อลูบก้น “เล่นละครอะไรกัน ให้ตายสิ เจ็บจริงๆ เอาหมอนยัดนุ่นตั้งหนาขนาดนั้นตีเสียจนข้าแทบกระอักเลือก ท่านคลอดข้ามาจริงๆใช่ไหม”

เหลิ่งชิงฮวนใช้นิ้วชี้ไปที่จมูกของเขา “เจ้าลองพูดคำหยาบอีกสิ?”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อกระพริบตาปริบๆและชี้ไปที่มือของเธออย่างไม่เกรงกลัว “เสด็จปู่บอกแล้วว่า หลังจากนี้ท่านจะตีข้าไม่ได้แล้ว”

เหลิ่งชิงฮวนกางราชโองการออกมาด้วยความโมโหแล้วมองมัน อื้ม? ไม่ถูกต้อง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา