ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 590

จินเอ้อร์มอง ไม่ใช่สิ ทิ้งตัวเองไว้นี่มันเรื่องอะไรกัน?

“ไม่ได้นะ น้องชาย เรื่องนี้ถ้าครอบครัวข้ารู้เรื่องเข้า ต้องถลกหนังข้าแน่นอน เจ้ามีความสามารถ กรมอาญาก็เป็นของตระกูลเจ้า ครั้งนี้จำเป็นต้องยึดหลักคุณธรรม แบกรับความรับผิดชอบทั้งหมด พี่ข้าขอตัวก่อน กลับไปช่วยท่านเตรียมการ”

ไม่รอให้เหลิ่งชิงเจียวได้พูด ต่างก็ไปกันจนหมด เหลือเพียงเหลิ่งชิงเจียวโง่เขลา ถูกชายกลุ่มหนึ่งล็อคอยู่ในห้อง ชี้นิ้วสั่ง พูดไม่ออก

“ดูยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลย ทำไมถึงสามารถทำเรื่องโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ได้?”

“จะต้องอาศัยคุณชายจวนไหนอยู่เบื้องหลังแน่นอน ไม่เช่นนั้นจะกล้าทำผิดกฎหมายแบบนี้ได้อย่างไร? ต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงโทษสถานหนัก!”

...

เหลิ่งชิงเจียวแม้ว่าจะมีแผนในใจ อย่างมากก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง

เยื้องหน้าห้อง รองแม่ทัพอวี๋เดินเข้ามาอย่างเงียบๆ “ท่านอ๋อง สำเร็จแล้ว การแสดงกลของเด็กคนนั้นแสดงได้เหมือนจริงมาก ทำให้กลุ่มจินเอ้อร์ตกใจกลัวจนหนีกระเจิง เหลือเพียงแค่น้องชายภรรยาท่านถูกกักตัวไว้อยู่คนเดียว สาวน้อยถูกเพื่อนแบกออกมาจากในห้อง เลือดไก่เต็มตัว ท่านได้ยินเสียงเคลื่อนไหวด้านนอก คนที่ดูคึกครื้นก็ตกใจกันหมด”

มู่หรงฉีวางถ้วยชาในมือลง “งั้นก็เพิ่มรางวัลให้เป็นห้าสิบตำลึง”

“ขอรับ ถ้ารู้ว่าเรื่องนี้สามารถทำเงินได้ สู้กระหม่อมไปเองดีกว่า"

มู่หรงฉีมองหนวดเคราที่ใบหน้าของเขา คำพูดเยาะเย้ยน่าอายที่จะพูดออกมา เขาต้องเข้าไปถือพิณร้องเพลง คนทั้งโต๊ะกลัวจนหนีไปแล้ว ยังจะมีละครฉากหลังให้ดูไหม?

“เหลิ่งชิงเจียวล่ะ?”

“ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ใบหน้าซีดเซียว เขาคงไม่คิดว่า จินเอ้อร์และคนอื่นจะร้ายกาจขนาดนี้ ภัยพิบัติครั้งใหญ่กําลังมาถึง ทุกคนต่างหาเหตุผลเอาตัวรอด ปล่อยเขาตกเป็นจำเลยอยู่ที่นี่คนเดียว ผู้ดูแลหอฝูเซิงถามชื่อเสียงเรียงนามของเขา บ้านอยู่ที่ไหน กัดฟันแน่นไม่ยอมเปิดปากพูด”

มู่หรงฉียืนขึ้น “ข้าก็ควรออกโรงแล้ว”

จากนั้นก็หันไปกำชับกับรองแม่ทัพอวี๋อย่างไม่วางใจอีกครั้ง “พนักงานสองคนนั้นจำไว้จัดการให้เรียบร้อย แล้วก็ เรื่องนี้อย่าบอกพระชายา”

รองแม่ทัพอวี๋หัวเราะ “เหอเหอ” พึมพำในใจ กลัวว่าวิธีการที่ร้ายกาจของท่านจะทําลายภาพลักษณ์ซื่อบื้อที่อยู่ในใจของพระชายาเหรอ?

เวลานี้เหลิ่งชิงฮวนยังคิดไม่ออกว่าควรจะบอกให้ใครมาพาตัวเองออกไป คิดไปคิดมา เพื่อนที่กินเหล้าในวันปกติมีเยอะมาก แต่เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ไม่มีที่เหมาะสมเลย

แทนที่จะบอกให้พวกเขารู้ สู้ให้เหลิ่งชิงเฮ่อมาดีกว่า หลายปีมานี้ พูดจากใจจริง เหลิ่งชิงเฮ่อก็ดีกับตัวเอง

นี่เรียกว่า ไม่เกิดเรื่อง ก็ไม่รู้ว่าพี่น้องข้างกายเป็นคนหรือเป็นหมา

พนักงานในร้านผลักฝูงชนออก ตะโกนบอกให้เอาตัวเขาส่งให้ทางการ

มู่หรงฉีบังเอิญเดินผ่านมา มองตาปริบๆด้วยความประหลาดใจ ขวางทางพวกเขาไว้

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?’

เจ้าของร้านมอง ก็รีบหันไปคุกเข่าทันที “กราบเรียนท่านอ๋อง คนผู้นี้บีบคั้นหญิงสาวที่ร้องเพลงในร้านจนตาย กําลังจะส่งตัวเขาให้กับทางการ”

เหลิ่งชิงเจียวจำเขาได้แล้ว ในใจร้องทุกข์มิรู้วาย ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

มู่หรงฉีขมวดคิ้วมองเขา แล้วโบกมือ “คนๆนี้ข้ารู้จัก คดีนี้ มอบให้ข้าเป็นคนจัดการก็แล้วกัน”

จากนั้นก็หันไปสั่งกับรองแม่ทัพอวี๋ “ตามเจ้าของร้านไปดูสิ ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น พูดคุยเป็นการส่วนตัว”

รองแม่ทัพอวี๋รับคำสั่ง และเจ้าของร้านก็ออกไป

“เรื่องชั่วช้าที่เขาทำไม่ได้มีแค่นี้ เขารู้ไหม ตอนแรกที่ชิงฮวนยังไม่มีคู่หมั้น เขาเคยร่วมมือกับพี่รองเจ้าตั้งใจที่จะทำลายความบริสุทธิ์ของชิงฮวน? หากข้าไม่ได้บังเอิญไปเจอ ช่วยชิงฮวนไว้ ชีวิตนี้ของนาง กลัวว่าจะถูกทำลายจนสิ้นแล้ว”

เหลิ่งชิงเจียวเงยหน้ามองอย่างช็อค “เป็นไปไม่ได้!”

“สิ่งที่เจ้าได้ยินและรู้นั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ชิงหลางและจินเอ้อร์บอกกับเจ้า เมื่อคิดแล้วก็รู้ได้ ในใจของเจ้าแค้นอาฆาตชิงฮวนแน่นอน รู้สึกว่านางทำให้ครอบครัวของเจ้าแตกแยก

แต่ว่า ข้าไม่ได้ของให้เจ้ายืนในจุดของชิงฮวน เพียงแต่ต้องการให้เจ้ายืนหยัดในตําแหน่งเจ้าหน้าที่ของกรมอาญา คิดให้ดีถึงทุกการกระทำที่พี่สาวของเจ้าได้เคยทำไว้ เจ้าคิดว่า สามารถอภัยให้ได้ไหม? นางฆ่าจื่อชิว ซื่ออี๋เหนียง ฟังผิ่นจือ และร่วมมือกับจิ่นอวี๋ ทำร้ายทารกในครรภ์ชิงฮวน มีคดีไหนบ้างที่ไม่ใช่โทษมหันต์?

แล้วชิงฮวนล่ะ? นอกจากเพื่อช่วยชีวิตเหลิ่งชิงเฮ่อ จึงเปิดเผยเรื่องที่น้าของเจ้าวางยา ลงโทษนางตามกฎหมาย เคยมุ่งเป้าไปที่เหลิ่งชิงหลางบ้างไหม? ยิ่งไปกว่านั้น ที่ให้จินซื่อเนรเทศไปอยู่ชายแดง ก็เป็นความคิดของพี่รองเจ้า”

เหลิ่งชิงเจียวยิ่งช็อคหนักเข้าไปใหญ่ “พี่รองข้า?”

“ใช่แล้ว ตอนนั้นสถานที่เนรเทศมีอยู่สองแห่ง ศาลต้าหลี่ไปที่จวนเพื่อขอความคิดเห็น พี่รองของเจ้าเป็นคนคิดเอง ให้น้าของเจ้าไปอยู่ชายแดนในที่ห่างไกล หากเจ้าไม่เชื่อ สามารถไปสอบถามด้วยตัวเองได้”

มือที่อยู่ในแขนเสื้อเหลิ่งชิงเจียวกำขดแน่น ที่บนหน้าฝืนยิ้มออกมา “สิ่งที่อ๋องฉีพูดมา จะเป็นเรื่องหลอกได้ยังไงกัน”

มู่หรงฉีตบที่ไหล่เขา พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เจ้ายังเด็ก จริงๆแล้วมันเป็นการอ่านหนังสือปราชญ์ รู้ผิดชอบชั่วดี มีเหตุมีผล โดยเฉพาะอยู่ที่กรมอาญา ต้องเรียนรู้ที่จะมองโลกด้วยตาของตัวเอง แยกแยะความดีและความชั่ว อีกอย่าง อย่ากระทําการหุนหันพลันแล่น ทำผิดพลาด จะทำลายตัวเองไปตลอดชีวิต”

เวลานี้เหลิ่งชิงเจียว ก็ยังไม่สามารถยอมรับคำพูดของมู่หรงฉีได้อย่างเต็มที่ แถมในใจยังมีความไม่พอใจและขัดแย้งกันอยู่ลึกๆ

“ขอบคุณอ๋องฉีที่สั่งสอน”

มู่หรงฉีลุกขึ้น “กลับไปเถอะ เรื่องในวันนี้ ก็ขอให้เป็นบทเรียน ในเมื่อไม่ใช่เรื่องของเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าจัดการให้เรียบร้อย ไม่ให้พ่อและพี่สาวของเจ้ารู้”

เหลิ่งชิงเจียวเห็นว่าน้ำเสียงเขาสงบลง ไม่ได้เด็ดขาดเหมือนปกติทั่ว ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะพลั้งปากถามออกไป “แม้พี่รองข้าจะทำผิดมหันต์ แต่มันเกิดขึ้นก็เพราะท่าน ท่านเอาแต่บรรยายความผิดของนางไม่หยุดอย่างนี้ เคยทุกข์ใจบ้างหรือไม่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา