ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 713

มู่หรงฉีตอบอย่างจืดชืด “ไม่สามารถแบ่งเบาความทุกข์ให้กับเสด็จพ่อได้ ข้าที่เป็นลูกชายละอายใจยิ่งนัก

มีเพียงกองกำลังทหารที่เชี่ยวชาญ ปกป้องประชาชนชาวฉางอันให้อยู่เย็นเป็นสุข ให้เสด็จพ่อปกครองประเทศได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องเป็นกังวล”

ลู่กงกงเห็นเขาแสร้งทำโง่เขลา ไม่มีทางติดกับดักของฮ่องเต้อย่างแน่นอน จึงกระแอมไอเบาๆ ปล่อยไพ่ไม้ตายใบสุดท้ายที่ชายชรามอบให้

“ท่านฉีอ๋องถ่อมตัวเกินไปแล้ว ภายนอกฮ่องเต้ทรงเข้มงวดกับท่าน แต่ความเป็นจริงแล้วกลับชื่นชมท่านพอสมควรเลย เข้มงวดเพราะหวังให้ได้ดิบได้ดี จึงโกรธที่ท่านไม่สามารถช่วยพระองค์แบ่งเบาความทุกข์ได้อย่างสุดความสามารถ”

ชื่นชมตัวเองอีกแล้ว ณ ขณะนั้นระฆังเตือนภัยดังขึ้นมาภายในใจมู่หรงฉี

“พูดไปก็น่าอับอาย เอาแต่ติดตามผู้เฒ่ากั๋วกงเสี่ยงภัยอันตรายในสนามรบมาโดยตลอด ไม่สามารถอ่านหนังสือนักปราชญ์ให้มากขึ้น สติปัญญาด้อยกว่าพวกพี่น้องทั้งหลายจริงๆ”

มู่หรงฉีรำไทเก็กกับลู่กงกงมาโดยตลอด ลู่กงกงเข้าใจแล้ว เขาก็แกล้งทำเป็นตีมึนงงไป

ใครบอกว่ามู่หรงฉีซื่อบื้อกันล่ะ? ซื่อบื้อต่อหน้าพระชายาฉี แต่กับคนอื่นรู้จักใช้เล่ห์เหลี่ยมอย่างดี ไม่ได้โง่เลยสักนิดเดียว

เขาลุกขึ้นยืน “จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีธุระในวังหลวงอีก ไม่สะดวกที่จะปล่อยล่าช้า บ่าวขอตัวลาก่อน”

มู่หรงฉีลุกขึ้น “ท่านกงกงรับใช้เสด็จพ่ออย่างสุดกำลัง ลำบากอย่างมาก ข้า...”

ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกลู่กงกงยิ้มขัดจังหวะขึ้นมา “ท่านฉีอ๋องอยากที่จะตบรางวัลบ่าว บ่าวก็จะไม่เกรงใจแล้ว ขอท่านแค่ทองคำสองก้อนก็พอ”

มู่หรงฉีตกตะลึง ตัวเองไม่ได้พูดเลยว่าจะตบรางวัล ก็แค่มารยาทเท่านั้น แต่ปล่อยให้ลู่กงกงกลับไปมือเปล่าก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นี่เป็นกฎ ดังนั้นก็ควรที่จะให้รีดไถ

“สมควร สมควร เด็กๆ!”

คนยังไม่มา ลู่กงกงก็พูดอย่างไม่เกรงใจ

“ไม่ปิดบังท่านฉีอ๋อง บ่าวถูกใจตัวอักษรสีทองสี่คำบนแผ่นป้ายพระราชทาน สร้างขึ้นด้วยทองคําบริสุทธิ์ และอีกอย่างเป็นลายพระหัตถ์ของฮ่องเต้เอง

ตอนแรกฮ่องเต้พระราชทานให้ก็ทรงเสียดายมาก พอมาถึงก็รับสั่งให้บ่าวเอาคำว่าหญิงสาวสองคำนี้กลับไป ทรงตรัสว่าในใจท่านฉีอ๋องมีเพียงสองคำนี้ ลืมแผ่นดินความสุขของประชาชนและพ่อแก่ๆ ทิ้งไว้ข้างหลัง ดังนั้นจึงรับสั่งให้บ่าวแกะลงมาแล้วนำกลับไป”

“ผู้หญิง?” มู่หรงฉีงุนงง เมื่อครุ่นคิดเล็กน้อย ก็เข้าใจขึ้นมาในชั่วพริบตา

สี่คำที่ฮ่องเต้พระราชทานคือ ‘妙手仁心’ ฮ่องเต้ทรงเอาหญิงสาวออกก็จะเหลือคำว่า ‘少手二心’ซึ่งเป็นสี่คำที่ค่อนข้างประชดประชันเลยทีเดียว

และคำพูดของชายแก่ก็ดูจะรุนแรงไปหน่อย ต่อว่าทั้งตัวเองและชิงฮวน

เขาปรามไว้ไม่อยู่ ลู่กงกงพูดไว้แล้ว ว่าเขาได้รับคำสั่งมา อย่าว่าแต่แกะคำด้านข้างสองคำนี้เลย ต่อให้แกะทั้งป้ายออกไป ตนเองก็ต้องยอมรับ

ลู่กงกงส่งคนให้ติดตามไปกับรองแม่ทัพอวี๋ไปที่ตำหนักฉาวเทียน จากนั้นก็ถอดตัวอักษรบนแผ่นป้ายลงมา

เหลิ่งชิงฮวนก้มมอง ไม่ได้พูดอะไร

ชายแก่โกรธแล้วจริงๆ คราวนี้ เกรงว่าท่านฉีอ๋องจะต้องโทษฉาวโฉ่ไปทั่ว ตัวเองยังต้องเก็บหางอย่างเชื่อฟัง ไม่ก่อความวุ่นวาย

เมื่อลู่กงกงกำลังจะกลับได้เจอกับชิงฮวน พูดอย่างมีนัยลึกซึ้ง “ฮ่องเต้ทรงตรัสว่า อย่างไรเสียก็เป็นของที่พระราชทานให้ มาเอากลับไปก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าฟังเสียเท่าไหร่ เมื่อกลับไปพระองค์จะต้องรับสั่งให้คนเอาสองคำนี้ส่งกลับมา และรับรองได้เลยว่า มีชีวิตชีวาสมจริง ละเอียดเกลี้ยงเกลา ดีกว่าของตายนี้หลายร้อยเท่า”

หรือกล่าวได้ว่า ทองคำที่เอากลับไป เมื่อเอากลับมา จะกลับมาแบบตัวเป็นๆ ซึ่งก็คือผู้หญิงนั่นแหละ

ลู่กงกงเดินจากไปด้วยท่าทางมั่นใจ มีก้อนทองคำซ่อนในแขนเสื้อ

มู่หรงฉียืนอยู่ข้างชิงฮวน ทั้งสองเงยหน้ามองแผ่นป้ายที่รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไป จนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

“ทำยังไงดี”

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจและยิ้มอย่างขมขื่น “จะทำอะไรได้ละเพคะ? เอาไปไม่กลัว ที่กลัวก็คือตอนส่งกลับมานะสิ ทำได้เพียงเสียทรัพย์ฟาดเคราะห์ไป”

ยิ่งไปกว่านั้น ชายชรายังจับตามองตระกูลโฉว ไม่ได้กลัวโจร แต่กลัวโจรจะไปนึกถึงมากกว่า

แต่เจ้าวางใจได้ ท่านอ๋องบอกกับข้าว่า เงินก้องนี้ใช้เพียงไม่นาน ก็สามารถจ่ายคืนได้หมด เจ้าอยู่กับข้า ไม่มีทางที่จะลำบากแน่นอน”

ตี้ลี่สีหน้านิ่งขรึมทันที “ใครบอกว่าข้าจะอยู่กับท่าน? คิดเองเออเองไปได้”

“ข้าจะทำดีต่อเจ้า! เมื่อก่อนข้าไม่เคยคิดที่จะสร้างครอบครัวแต่งเมียเลย แต่ตอนนี้ในเมื่อต้องการแล้ว ข้าก็จะจริงจังอย่างแน่อน!”

ตี้ลี่หัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ เต็มไปด้วยการดูถูก “แม่นมเตียวบอกไว้ แต่งงานไปแล้วอย่าคิดว่าผู้ชายจะดีกับตัวเองเป็นอันขาด จิตใจของผู้ชายไม่น่าเชื่อถือที่สุด มุ่งหวังสุขสบาย เมื่อผู้ชายเปลี่ยนใจแล้ว ก็จะไม่เหลืออะไรเลย กลับกันถ้ามุ่งหวังความร่ำรวย แม้ว่าผู้ชายจะไม่น่าเชื่อถือ แต่เงินก็ยังน่าเชื่อถืออยู่ดี”

รองแม่ทัพอวี๋ถูกย้อนจนสีหน้าเป็นกังวล “ผู้ชายที่ไม่น่าเชื่อถือแม้ว่าพวกเขาจะมีเงิน เขาก็จะไม่ให้เจ้าแม้แต่บาทเดียว ต่อไปเงินของข้าก็คือเงินของเจ้า เจ้าจะใช้อะไรก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ!”

“ใครจะใช้เงินอันน้อยนิดของท่านกัน?” ตี้ลี่บ่นอวดครวญ แต่บนใบหน้ากลับปิดบังรอยยิ้มไว้ไม่อยู่ “พระชายาบอกไว้ ผู้หญิงพึ่งพาใครก็สู้พึ่งตัวเองไม่ได้ มีเพียงตัวเองอิสระมั่นคงเท่านั้น คนเราถึงจะเป็นอิสระได้ ไม่จำเป็นต้องดูสีหน้าผู้ชายในการใช้ชีวิต เงินน้อยนิดของท่าน เพียงพอให้ข้าใช้หรือไง?”

ตี้ลี่หยิบกระเป๋าสตางค์ที่ตัวหยิบตั๋วเงินออกมาสามใบ แกว่งไปมาตรงหน้ารองแม่ทัพอวี๋

“อยู่กับพระชายามาหลายปีแล้ว ใครยังไม่มีปัญญาที่จะหาเลี้ยงตัวเองอีก? ทว่านี่เป็นเพียงผลกำไรหนึ่งเดือนของข้าเท่านั้นเอง”

รองแม่ทัพอวี๋จ้องมองตั๋วเงินตาปริบๆในมือตี้ลี่ ตาดำแทบจะหลุดออกมาแล้ว

“หนึ่ง หนึ่งเดือน?”

ตี้ลี่ยัดเก็บเข้ากระเป๋าสตางค์อย่างพอใจ “นี่ยังไม่รวมกับร้านของเจียงหนานอีกนะ”

คำพูดของตี้ลี่ทำให้หัวใจของรองแม่ทัพอวี๋ที่หยิ่งในศักดิ์ศรีแตกยับเหมือนเศษแก้ว ตะลึงอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก

เดิมทีคิดว่าต่ำต้อย แต่ไม่คิดเลยว่าจะอยู่สูงเกินเอื้อม

รองแม่ทัพที่ซื่อสัตย์อย่างตัวเอง ยังเลี้ยงเศรษฐินีไม่ได้เลย เสียหน้ามากจริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา