เสกทหารจากเมล็ดถั่ว?
คำพูดของเจ้าสำนักลัทธินักบุญหญิงทำให้โฉวซือเส่ารู้สึกขนหัวลุก นั่นแทบจะเป็นเทพนิยายเรื่องหนึ่ง เพียงแค่โปรยถั่วหนึ่งกำมือลงบนพื้นจะสามารถสร้างกองทัพขนาดใหญ่ได้แล้วอ๋องเฮ่ากับพระชายาจะมัวรออะไรอยู่อีก นางจะได้เปรียบในด้านจำนวนทหารและอยู่ยงคงกระพันในทุกการต่อสู้ ไม่มีใครในโลกจะสามารถหยุดนางได้อีก
เมื่อได้ยินคำสั่งจากเจ้าสำนักลัทธินักบุญหญิง ผู้ใต้บังคับบัญชาที่สวมชุดดำจำนวนมากวิ่งออกมา พร้อมกับถือมีดเหล็กขนาดใหญ่ไว้ในมือ
เขาคิดว่าเมื่อครู่เป็นแค่คำขู่ที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว ใครจะรู้ว่าในวินาทีต่อมาเขาจะพูดไม่ออกอีกต่อไป
เจ้าสำนักลัทธินักบุญหญิงพึมพำเสียงเบา ขณะที่คว้าเมล็ดถั่วออกมาแล้วโยนขึ้นไปในอากาศ ชายสวมชุดดำหลายสิบคนกระโดดขึ้นรับเมล็ดถั่วไว้ในมือ ก่อนจะกลืนมันลงคอ
ไม่นานหลังจากที่เมล็ดถั่วเข้าไปในท้อง ชายฉกรรจ์ในชุดดำเริ่มพองตัวออกราวกับเส้นเลือดแตกกระจาย เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร เสื้อผ้าบนหน้าอกของพวกเขาระเบิดออกด้วยแรงทั้งหมด
จากนั้นจึงพุ่งเข้าหาโฉวซือเส่าอย่างไม่เกรงกลัว
แน่นอนว่าโฉวซือเส่าเองก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป เขาใช้ดาบแทงไปที่หัวโจก ทว่าดาบนั้นกลับทะลุผ่านร่างออกไปและร่างนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หากเขาคือคนธรรมดาคงจะตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน คิดว่าตรงหน้าคือทหารที่แม่มดชราใช้คาถาอาคมเสกมาต่อสู้ ทว่าโฉวซือเส่ารอบรู้มากกว่านั้น เขาจึงรู้ว่านี่เป็นเพียงหนึ่งในกลอุบายที่คล้ายกับวิชานินจา
สิ่งที่เขาต่อสู้อยู่เป็นเพียงเทคนิคการใช้ร่างกายและการเคลื่อนไหวอันรวดเร็ว
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกหนักใจคืออีกฝ่ายไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังดูเหมือนว่าจะสูญเสียความรู้สึกเจ็บปวดไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อดาบของเขาเจาะเข้าไปร่างกายของคู่ต่อ พวกเขากลับไม่มีการตอบสนอง ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว
แม้ว่าแขนจะหักหรือดาบยาวทะลุอก คู่ต่อสู้ก็ยังแข็งแกร่งและพลังการต่อสู้ไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
แม่มดเฒ่านั่นเอาถั่วอะไรให้พวกเขากินกันแน่ ทำไมถึงดูเหมือนซอมบี้ขนาดนี้ หากมอบให้ทหารของเสด็จอารองกินคนละหนึ่งเมล็ด... อาจต่อสู้เอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
โฉวซือเส่ากำลังต่อสู้กับเหล่าทหารอย่างไม่กลัวตาย แม่มดเฒ่าไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้น นางหยิบตุ๊กตาตัวเล็กๆ ออกมาจากแขนเสื้อ ก่อนจะแทงดวงตาของตุ๊กตาด้วยเข็มเงินในมือ
โฉวซือเส่าไม่ได้สนใจในตอนแรก แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างเข้าตา มันรู้สึกแสบและคันจนทนไม่ได้ เขาอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา ตอนนี้มองแทบไม่เห็นอะไรตรงหน้าอีกต่อไป
คราวนี้โฉวซือเส่ารู้สึกหวาดกลัวจริงๆมันมีวิชาชั่วร้ายแบบนี้อยู่บนโลกด้วยหรือเนี่ย
แม่มดเฒ่ากำลังพยายามอย่างสุดความสามารถ
ผู้คนจำนวนมากขึ้นจากอีกด้านหนึ่งล้อมรอบเขาไว้อย่างหนาแน่นและต่อเนื่อง โฉวซือเส่าเห็นโอกาสจึงส่งสัญญาณเพื่อติดต่อหอกระบี่และรอกำลังเสริม
ท่ามกลางการสู้รบที่ดุเดือด นอกจากเสียงอาวุธกระทบและเสื้อผ้าเสียดสีกัน เสียงม้าเร็วดังเข้ามาใกล้มากขึ้น โดยไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู
เมื่อเสียงเกือกม้าหยุดลงที่เชิงเขา มีคนกระโดดลงจากหลังม้าและพุ่งไปหาหัวหน้าเหอ ก่อนจะรายงานเสียงดัง “รายงานท่านหัวหน้า การรบในมั่วเป่ยกำลังรุนแรง เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ”
โฉวซือเส่าลืมตามองด้วยความยากลำบาก เขาเห็นหัวหน้าเหอหยิบจดหมายจากผู้ส่งสาร เขาอ่านด้วยความดีใจทันทีและตะโกนอย่างตื่นเต้น “พระเจ้าทรงเมตตา! ในที่สุดท่านอ๋องก็กำจัดอุปสรรคได้แล้ว!”
หลังจากพูดจบ เขาก็มอบรายงานการต่อสู้ให้กับเจ้าสำนักลัทธินักบุญหญิงที่ยืนอยู่ด้านหลัง หลังจากได้เห็น นางก็ดีใจทันที “สถานการณ์โดยรวมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราอย่ามัวเสียเวลากับชายคนนี้เลย ถอนกำลังกันเถอะ”
โฉวซือเส่าไม่อยากปล่อยให้โอกาสครั้งนี้หลุดลอยไป ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถทำตามที่สัญญากับชิงฮวนได้ และมันคงเป็นเรื่องน่าอายที่จะพูดออกไป แต่ “ทหารถั่ว” เหล่านั้นรับมือยากจริงๆ พวกมันไม่กลัวตายและกล้าที่จะสู้เพื่อหยุดเขา สุดท้ายโฉวซือเส่าทำได้เพียงแค่เฝ้าดูหัวหน้าเหอและแม่มดเฒ่าเดินออกไปอย่างผยอง
เพียงแค่แวบเดียว พวกเขาก็หายตัวไปในพริบตา
วันนี้เป็นวันที่แย่จริงๆ
ผู้คนในหอกระบี่อยู่ไม่ไกลจากตำแหน่งของโฉวซือเส่า เมื่อพวกเขาได้รับข่าวจึงรุดไปช่วยโฉวซือเส่าทันที
ที่นี่ดูไม่เลว ด้านหลังเป็นวิวภูเขาและมีแม่น้ำไหลผ่าน สภาพแวดล้อมเงียบสงบ แทบไม่มีใครผ่านไปมา
“นั่นเป็นเพราะระยะทางกว่า 20 ลี้ไปทางตะวันออกของสถานที่นี้คือยอดเขามังกรหลับ ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีชื่อนะขอรับ”
“ยอดเขามังกรหลับ? นั่นไม่ใช่สถานที่สร้างสุสานจักรพรรดิหรอกหรือ”
“ใช่ขอรับ ว่ากันว่าภูเขาหลิงอวิ๋นอยู่เหนือเส้นชีพจรมังกร ดังนั้นจึงมีผู้อยู่อาศัยไม่มากนักในบริเวณใกล้เคียง”
สุสานจักรพรรดิอยู่ห่างจากเมืองหลวงเพียงหนึ่งร้อยลี้ อีกฝ่ายวนไปรอบเป็นวงกลมเพื่อกำจัดการสะกดรอยตาม
ทันทีที่ลูกน้องพูดถึงสุสานจักรพรรดิ เขาก็จำสิ่งที่หัวหน้าเหอพูดเมื่อครู่ได้และถามว่า “เกิดเรื่องบางอย่างที่มั่วเป่ยใช่หรือไม่”
“ตั้งแต่เราติดตามหอกระบี่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับข่าวสารใดๆ เลยขอรับ”
โฉวซือเส่ามีลางสังหรณ์บางอย่างในใจ คำพูดที่บอกว่า “อุปสรรคร้ายแรง” ของหัวหน้าเหอ ทำให้เขากังวลมากยิ่งขึ้น
“องครักษ์อินทรีอยู่ที่ไหน พวกเขาไม่มีข่าวคราวเลยหรือ”
ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบด้วยความเคารพ “ตอนที่ได้รับเครื่องหมายที่ท่านทิ้งไว้ พวกเราจึงแบ่งกองทหารออกเป็นสองกลุ่ม โดยองครักษ์อินทรีจะไปติดตามหมอ”
ความหวังเล็กน้อยผุดขึ้นมาในใจของโฉวซือเส่าทันที “พยายามองครักษ์อินทรีเดี๋ยวนี้ หากพบเบาะแสของหมอผู้นั้นแค่ขู่ก็พอ อย่าลืมปล่อยเสือกลับถ้ำและไว้ชีวิตหมอผู้นั้นเอาไว้”
ผู้ใต้บังคับบัญชารู้สึกงงงวย แต่พวกเขาก็ทำตามคำสั่งทันที
โฉวซือเส่าสั่งให้ผู้คนในหอกระบี่ขยายพื้นที่เพื่อค้นหาเบาะแสของหัวหน้าเหอกับแม่มดเฒ่า ในขณะเดียวกันก็สั่งให้คนกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข่าว
เขามั่นใจว่าต้องมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นแน่ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...