เหลิ่งชิงเฮ่อลดเสียงเบาลง “เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เวลายืดเยื้อจะยิ่งมีอุปสรรคมาก ข้าคิดว่ารีบบรรจุศพลงโลงให้เร็วขึ้นหน่อยจะดีกว่า”
ชิงฮวนพยักหน้า ถามรองแม่ทัพอวี๋ “โลงศพของท่านอ๋องเตรียมไว้พร้อมแล้วหรือยัง?”
รองแม่ทัพอวี๋พยักหน้า “ตามหาทั่วทั้งเมืองแล้ว หาได้เพียงโลงไม้หนานมู่ ได้ทาสีไปยี่สิบกว่ารอบแล้ว หาเครื่องนอนผ้าฝ้ายบรรดาศักดิ์ เสื้อคลุมได้เร่งรีบจัดเตรียมไว้หมดแล้ว”
ชิงฮวนพยักหน้า “ดี งั้นวันนี้ก็บรรจุพระศพ หยุดไว้อาลัยสามวัน แล้วจัดพิธีพระศพอย่างสมเกียรติ”
เมื่อมาถึงห้องโถงด้านหน้า ก็เห็นคนจากหอดูดาวหลวง คำนวณฤกษ์บรรจุพระศพไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนลูกน้องที่อ๋องเฮ่าส่งมาก็มุ่งหน้าตรงไปยังสุสานหลวงฝั่งตะวันตก เร่งหามรุ่งหามค่ำทำการซ่อมแซมใต้อุโมงค์สุสานหลวง
เหล่าพระภิกษุที่ไม่สามารถปลอมตัวแทรกเข้ามานิมนต์มาจากวัดก็เดินทางมาถึงแล้ว หลังจากตัดอวัยวะเพศของ “มู่หรงฉี” เปลี่ยนชุดเป็นทางการเสร็จแล้ว ก็ใช้ชาดสีแดงเขียนมหากรุณาธารณีลงบนลูกข่าง จุดเทียนเพื่อเป็นแสงสว่างนำทาง ท่ามกลางเสียงสวดมนต์ทำพิธีของพระภิกษุและเสียงร้องไห้ของญาติพี่น้องแขกเหรื่อ บรรจุพระศพลงโลง และปิดฝาโลง
เหลิ่งชิงฮวนโชคดีที่ก่อนหน้านี้ได้พักหายใจ และกินบะหมี่อิ๋นซือที่เหลิ่งชิงเฮ่อยกมาให้ ต่อหน้าพวกคนที่มีเจตนาแอบแฝงอื่น เอามือปิดหน้าร้องไห้จนเหนื่อยหอบ ไม่ใช่ความพยายามลงแรงแบบทั่วไปเลยจริงๆ
และนางยอมสละ แหวนปานจื่อมรกต จี้ห้อยหยกมันแพะ ถ้ำแก้ว เงินทองอัญมณี ใส่ลงไปในโลงฝังไปพร้อมกับคนตายด้วยกัน ทำให้คนที่เห็นถึงกับพูดไม่ออก ว่าพระชายาฉีเสียใจเป็นอย่างมาก ผ่านวันเวลาไปอย่างยากลำบาก
ในวังแขวนป้ายเรียกดวงวิญญาณ โต๊ะบูชา กระถางธูปทั้งหมดถูกวางเตรียมไว้ พระภิกษูสวดประกอบพิธีกรรมตลอดทั้งวันทั้งคืน ที่จวนพ่อบ้านเป็นคนรับผิดชอบดูแลจัดการ
หลังจากทำธุระเสร็จ ก็ดึกมากแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกลับ จวนอ๋องฉีที่เป็นสีขาววโพลน ก็ค่อยๆเงียบสงบลง
ค่ำคืนนี้ ชิงฮวนนอนไม่ค่อยหลับ
เธอกอดอวิ๋นเช่อ มองไปที่ใบหน้าเล็กของเขาที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ หนักหน่วงอยู่ในใจ
อวิ๋นเช่อยังไม่ค่อยประสีประสาเรื่องทางโลก ไร้ซึ่งความกังวล ไม่รู้ข่าวการเสียชีวิตของพ่อตัวเอง ไม่รู้ความหมายและการแสดงออก
ชิงฮวนก็ว้าวุ่นอยู่ตลอด จะจัดการกับเขายังไง
อยู่เคียงข้างก็เป็นอันตราย ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถปกป้องเขาได้ไหม
มอบให้คนอื่น ก็อันตรายเช่นเดียวกัน เป็นห่วงว่าอ๋องเฮ่าจะฉวยโอกาสนี้ไป
ยังดี ที่โฉวซือเส่ามาแล้ว
พิธีฝังพระศพเสร็จสิ้น ชิงฮวนตัดสินใจที่จะให้อวิ๋นเช่อไปกับโฉวซือเส่า เป็นแบบนั้นตัวเองก็มีสมาธิรับมืออย่างเต็มที่
เธอเอาเรื่องทั้งหมด ปล่อยอยู่ในใจอย่างเงียบๆ คิดแล้วคิดอีก จนผล็อยหลับไป
เช้าวันต่อมา เพิ่งจะรุ่งสาง
แม่นมเตียวมาเคาะประตูห้อง
อวิ๋นเช่อยังคงนอนหลับเหมือนกับลูกหมู
ชิงฮวนลุกขึ้นไปเปิดประตู แม่นมเตียวขมวดคิ้วเล็กน้อย “พระชายา อ๋องเฮ่าและพระชายาเฮ่าเสด็จมา บอกว่าจะมาไว้อาลัยพระศพ”
ชิงฮวนชะงัก รู้ว่าทั้งสองคนไม่มีทางยุติเรื่องราวไปง่ายๆ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเช้าขนาดนี้ มาช่วงเวลานี้ เกรงว่าจะยังไม่ได้ออกว่าราชการ
นอกจากนี้ ไม่คิดว่าอ๋องเฮ่าจะทนไม่ไหวเช่นนี้ ฮ่องเต้เพิ่งจะไม่ได้สติ เขาก็ปล่อยตัวพระชายาเฮ่าให้พ้นผิดแล้ว
“แล้วคนล่ะ?”
“รองแม่ทัพอวี๋รับมืออยู่ด้านนอก”
ชิงฮวนพยักหน้า “ได้ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
แม่นมเตียวส่งเสื้อผ้าที่อยู่ในมือให้กับเธอ “เชิญพระชายาเปลี่ยนชุด”
ชิงฮวนก้มลงมอง เป็นชุดผ้าป่านสีขาว
แสดงละครก็ต้องแสดงให้สมจริง ชิงฮวนรับมาไว้อยู่ในมือ เห็นในมือของแม่นมเตียว ไม่คิดเลยว่าจะยังมีจานเล็กๆอีกหนึ่งใบ ในจานนั้นมีก้อนเหนียวๆสีเหลืองอมเทาอยู่ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
มุมปากเหลิ่งชิงฮวนกระตุก เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา ต้องก้มหน้าก้มตา ไหล่ทั้งสองข้างสั่นอดกลั้นไว้อย่างยากลำบาก คนนอกมองมา ยังนึกว่าเธอกำลังร้องไห้สะอื้น
อ๋องเฮ่าเดินมาหาเธออย่างช้าๆ หยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ปลอบใจเบาๆ “พวกข้าขอแสดงความเสียใจด้วย เจ้ารักษาสุขภาพด้วย”
เมื่อชิงฮวนเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาก็คลอเบ้าอีก ในความเศร้าโศกยังแสดงความคับแค้นใจออกมา ครึ่งหนึ่งเก็บงำไว้ อีกครึ่งหนึ่งเผยออกมา
“ขอบพระทัยท่านอ๋องเฮ่า หม่อมฉันจะทำ อย่างไรเสีย ความแค้นของท่านอ๋อง ข้ายังต้องเอาคืน”
มุมปากของอ๋องเฮ่ายกขึ้นเล็กน้อย “งานบริหารราชการยุ่งมาก ไม่คิดเลยว่าจะมาไม่ทันเห็นหน้าน้องสามเป็นครั้งสุดท้าย ไม่คิดเลยว่าจะบรรจุพระศพเร็วขนาดนี้ พอกลับไปเสด็จพ่อตื่นขึ้นมาแล้วเอ่ยถาม ก็ไม่รู้ว่าจะให้คำอธิบายกับเสด็จพ่อว่าอย่างไรดี”
ชิงฮวนกัดปากล่างแน่น “ท่านอ๋องของหม่อมฉันตายอย่างน่าสังเวช ถ้าหากเสด็จพ่อทอดพระเนตรเห็น ต้องปวดใจมากแน่นอน เกรงว่าจะไม่เป็นผลดีต่อพระวรกายของพระองค์”
อ๋องเฮ่าถอนหายใจ “น้องสามเสียสละเพื่อบ้านเมือง ออกศึกมาตลอดชีวิต มีบุญคุณล้นเหลือ ตอนนี้เสด็จพ่อก็ยังไม่ได้สติ ข้าคิดหน้าคิดหลังดูแล้ว จึงตัดสินใจฝังศพน้องสามให้สมเกียรติ มอบจินจิ่งที่งามที่สุดฝังลงไปกับเขา ดังนั้น ที่ข้ามาครั้งนี้ได้นำเอาจั๊กจั่นที่แกะสลักจากหยกเขียวมาให้กับน้องสาม บรรจุลงไปในโลงศพ จึงมาดูด้วยตัวเอง”
ต่อหน้าทำเป็นรักใคร่ห่วงใย แต่ใจจริงมุ่งร้ายไม่หวังดี
ก็รู้ดีว่า กฎการฝังจินจิ่งนั้นเป็นงานพระบรมศพของฮ่องเต้เท่านั้น อ๋องเฮ่าอยากที่จะเปิดโลงศพเพื่อชันสูตรศพงั้นเหรอ? ถึงได้หาข้ออ้างที่มีคุณธรรมเมตตาเช่นนี้
ชิงฮวนตกลง ไม่ได้เผยพิรุธใดๆออกมา เมื่อวานอ๋องเฮ่าใจร้อนแทบอยากจะฝังมู่หรงฉีลงไปโดยเร็ว เพื่อตัดรากถอนโคน แต่ทำไมวันนี้ถึงได้ฉุกคิดขึ้นมา หากข้ออ้างอยากที่จะตรวจดูศพของมู่หรงฉี?
สีหน้าชิงฮวนยังคงไม่เปลี่ยน ในใจกลับมีความกังวลเล็กน้อย
ท้ายที่สุดแล้ว พระชายาเฮ่ายังมีวิธีการอยู่บ้าง ก็คือการปรากฏตัวของนักบุญหญิงไสยศาสตร์ในตัว และวันตกฟากของมู่หรงฉียังสามารถปกปิดคนอื่นได้ แต่ปิดอ๋องเฮ่าไว้ไม่ได้ หลังจากเปิดโลงศพแล้ว นางสามารถคำนวณชะตาชีวิตของมู่หรงฉีได้จากกาคำนวณหรือจากผิวหนังร่างกายในโลงศพล่ะ?
ศพนี้จะให้ทั้งสองคนเห็นไม่ได้เด็ดขาด!
“ขอบพระทัยอ๋องเฮ่าในน้ำใจอันดี แต่ว่า ตอนนี้ท่านอ๋องได้บรรจุลงในโลงศพแล้ว ในปากก็ยังมีหยกอ่อนใส่ไว้อยู่แล้ว อย่ารบกวนความสงบของเขาเลยจะดีกว่า”
พระชายาเฮ่าพูดอย่างไม่เกรงใจ “ในเมื่อรู้แล้วว่าพวกข้ามีเจตนาดี พระชายาฉีก็อย่าขว้างไว้สิ? จำได้ว่าปีนั้น พระชายาฉีหนีไปจากฉางอัน น้องสามคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง เสียใจอยู่หลายปี พวกข้าไม่อยากให้เจ้าทำผิดซ้ำรอยเดิม ถ้าหากศพที่อยู่ในโลงนี้ไม่ใช่น้องสามล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...