ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 850

อ๋องเฮ่าหลุบตาต่ำลง บดบังสายตา สีหน้าซับซ้อน

“ทำดี ทำดีมาก! พี่สะใภ้สามพิจารณาได้เยี่ยมเลย!”

อ๋องรุ่ยยกนิ้วให้ชิงฮวนอย่างกระปี้กระเปร่า ชมไม่ขาดปาก “มันเกี่ยวกับพระวรกายของเสด็จพ่อและชะตากรรมของประเทศ จะประมาทมิได้ ยอมฆ่ามันดีกว่าปล่อยไปด้วยซ้ำ! มิรู้ว่าตอนนี้ผู้ที่เรียกว่าเจ้าสำนักนักบุญหญิงผู้นี้อยู่ที่ไหน ควรจะรีบออกคำสั่งให้คนไปจับกุมตัวมาดำเนินการตามกระบวนยุติธรรม สอบปากคำอย่างเข้มงวด ท่านทั้งหลายคิดว่าอย่างไร?”

เจ้าหน้าที่หลายคนรีบคล้อยตามทันที เรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของชายชราผู้เป็นฮ่องเต้ พระชายาฉีเป็นคนมีเหตุมีผล ใครจะกล้าพูดว่า ไม่ ล่ะ?

ชั่วขณะหนึ่ง อ๋องเฮ่าจะเห็นด้วยก็มิใช่ จะโต้แย้งก็มิเชิง

ชิงฮวนพูดอย่างมุ่งมั่น “ตอนนี้ แม่มดเฒ่าผู้ชั่วร้ายซุ่มอยู่ในสุสานของจักรพรรดิ มิรู้ว่ามีเจตนาจะทำลายฮวงจุ้ยราชวงศ์ของหม่อมฉันหรือไม่ ดังนั้น หม่อมฉันคิดว่าต้องทำทันที จะรอช้ามิได้ ควรจะรีบไปตอนนี้เดี๋ยวนี้เลย”

เสิ่นหลินเฟิงรีบขอนำทัพออกไป เชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อ “กระหม่อมจะรีบนำคนไปยังสุสานจักรพรรดิทันที และจับกุมเจ้าสำนักนักบุญหญิงผู้นั้นมาดำเนินทางกระบวนการยุติธรรม”

อ๋องรุ่ยเห็นด้วยเป็นคนแรก และมิลืมที่จะชื่นชมน้องเขยของตน “ใต้เท้าเสิ่นช่างกล้าหาญและมีไหวพริบ งานสำคัญเช่นนี้ ต้องเป็นท่านอยู่แล้ว!”

ตามคำกล่าวว่า เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันมิได้ อ๋องรุ่ยผู้นี้ออกคำสั่งไปก่อนแล้ว นำไปอยู่ในจุดสูงสุด และดูเหมือนจะมิได้ให้ความสำคัญอันใดกับอ๋องเฮ่า

อ๋องเฮ่ากระพริบตาเล็กน้อย ก่อนจะกัดฟันพูด “เกรงว่าเจ้าสำนักนักบุญหญิงจะมีวิธีการที่เก่งกาจ ใต้เท้าเสิ่นคนเดียวคงสู้มิไหว ข้าจะส่งผู้บัญชาการฮั่วไปนำราชองครักษ์ระดับสูงหนึ่งร้อยนายด้วย”

เจตนาเดิมมิได้อยู่ตรงนั้น แต่อยู่ที่ตรงอื่นต่างหาก ทุกคนต่างรู้ดี แต่เสิ่นหลินเฟิงกลับมีความมั่นใจ ใบหน้ามิทุกข์ร้อนอันใด

อ๋องเฮ่าจึงออกคำสั่งทันทีทันใด นำทัพโดยเสิ่นหลิงเฟิงกับผู้บัญชาการฮั่ว และรีบปรี่ไปยังสุสานจักรพรรดิทันทีเพื่อไปจับกุมเจ้าสำนักนักบุญหญิง ผู้เฝ้าสุสานกับผู้สักการะจะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ห้ามปิดบัง

หลังจากเขียนเสร็จแล้ว ก็มิได้ส่งคำสั่งนั้นให้เสิ่นหลินเฟิง ทว่าอ๋องเฮ่าหันไปส่งให้หัวหน้าของท้องพระโรง สั่งให้เขาส่งคำสั่งไปให้ผู้บัญชาการฮั่วก่อน

นี่หมายความว่า ผู้บัญชาการฮั่วเป็นข้าราชการที่ได้รับคำสั่ง ส่วนเสิ่นหลินเฟิงเป็นเพียงผู้ช่วย

จิงจ้าวอิ่น รัชทายาทจวนกั๋วกงอันสง่างาม เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตามที่อ๋องเฮ่าจัดให้ ช่างมิสมเหตุสมผลเลยจริงๆ

หากมิมีข้อโต้แย้ง ผู้บัญชาการฮั่วผู้นี้ก็จะอาศัยบารมีของเจ้านายมารังแกผู้อื่น และต้องการทำลายแผนจับกุมร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากโต้แย้งไป โอกาสก็จะล่าช้าออกไปอย่างเลี่ยงมิได้

เสิ่นหลินเฟิงมองไปทางชิงฮวน ก่อนจะออกจากท้องพระโรงไปอย่างไม่ลังเล และสั่งคนให้เอาสุนัขตำรวจมารวมตัวกัน ทุกอย่างเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว ผู้บัญชาการฮั่วก็เพิ่งจะมาถึงอย่างเอ้อระเหย มิรีบร้อน

เสิ่นหลินเฟิงร้อนรนใจเล็กน้อย ด้วยความความเร็วที่ปรี่เข้าไป ผู้คนในสุสานจักรพรรดิคงไหวตัวทัน หนีเตลิดไปหมด ถ้าหากคว้าน้ำเหลว ต่อไปคงมิสนุกแน่

เร่งเร้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้บัญชาการฮั่วถึงจะเตรียมตัว ออกไปอย่างเนิบนาบ ตรงไปยังสุสานจักรพรรดิ สั่งการลวกๆ อย่างขวางมือขวางเท้า ถ่วงเวลาให้ล่าช้าครั้งแล้วครั้งเล่า มิยอมให้จับในทันที แบบที่ใครๆ ก็ดูออก

ณ ท้องพระโรง

ในใจของอ๋องเฮ่ากระสับกระส่าย ริมฝีปากบางเม้ม “เมืองหลวงอยู่ห่างไกลจากสุสานจักรพรรดิ เกรงว่าตอนมืดถึงจะได้ข่าว หากทุกคนมีเรื่องก็รายงานมา หากมิมีก็เลิกประชุมได้”

ชิงฮวนยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ “มิได้เพคะ!”

อ๋องเฮ่ามิพอใจเล็กน้อย “พระชายาฉียังมีเรื่องอันใดอีกรึ?”

“มีอยู่แล้ว อ๋องเฮ่า ท่านคิดดูสิ ในตอนแรกที่ทหารของราชสำนักปิดล้อมกวาดล้างลัทธินักบุญหญิง เจ้าสำนักผู้นั้นไหวตัวทันและหนีไปได้ เห็นได้ชัดว่ามีใครในท้องพระโรงเป็นคนส่งข่าว

ถ้าเกิดว่าการหมดสติของฝ่าบาทเกี่ยวข้องกับเจ้าสำนักผู้นี้จริงๆ แล้วเสิ่นหลินเฟิงกลับมามือเปล่า ตนจะมิหนีรอดจากความสงสัยได้ยากหรือ? ซึ่งการกบฏก็เป็นโทษที่ประหารเก้าชั่วโคตรเชียว

เหลิ่งชิงเฮ่อเพิ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน มิแปลกใจที่เมื่อครู่นี้เสิ่นหลินเฟิงมิได้โต้แย้งใดๆ เขาลอบเหลือบตามองไปที่อ๋องเฮ่าและพูดอย่างทุกข์ใจ “กลัวว่าเจ้าสำนักนักบุญหญิงนั่นจะเล่นตุกติกใช้เวทมนตร์คาถาที่เป็นอันตราย มิรู้เลยว่าเสิ่นหลินเฟิงกับโฉวซือเส่าสองคนนั้นจะคณามือนางหรือไม่”

“เกรงว่าพี่จะลืมไปนะว่าท่านพ่อเชิญผู้ดูแลอารามเหมยฮวามาแล้ว มีเขาคอยช่วยเหลืออย่างลับๆ อยู่ แม่มดเฒ่าผู้ชั่วร้ายนี้จะต้องหนีมิพ้นแน่”

เหลิ่งชิงเฮ่อจึงโล่งใจขึ้นมา “แล้วเหตุใดจู่ๆ เจ้าถึงเปลี่ยนใจไปจับตัวเจ้าสำนักก่อนล่ะ มิกลัวว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นรึ?”

ชิงฮวนยิ่งลดเสียงให้ต่ำลง “มู่หรงฉีกลับมาแล้ว”

“ว่าอันใดนะ?” เหลิ่งชิงเฮ่ออดมิได้ที่จะดีใจขึ้นมา

ชิงฮวนรีบจุ๊ปากทันที “แถมโฉวซือเส่ายังพูดเรื่องหว่านเมล็ดถั่วให้กลายเป็นกองทัพด้วย ข้ารู้สึกว่าสุดท้ายแล้วมันจะมีอันตรายแฝงอยู่ กังวลว่าเรื่องหนอนกู่ที่พระชายาเฮ่าเลี้ยงไว้ในตัวชิงเหยา จะเกี่ยวข้องกับคาถานี่ ฉะนั้น พวกอ๋องเฮ่าก็เลยมิได้เคลื่อนไหวเพื่อรอจังหวะบุกโจมตี

ถ้าเกิดว่าในการต่อกรครั้งสุดท้าย กองกำลังทหารของอีกฝ่ายเหี้ยมหาญ ต่อสู้เก่ง และมิกลัวตายขึ้นมาจริงๆ แบบหนึ่งต่อร้อยคน เราต้องลำบากแน่ๆ วันนี้จึงมากำจัดเจ้าสำนักนักบุญหญิงก่อน ด้วยการบีบบังคับอ๋องเฮ่า ตราบใดที่เขาเป็นหมาจนตรอก หัวหน้าเหอจะต้องกลับไปที่ค่ายเพื่อส่งกองกำลังมาแน่”

เมื่อเหลิ่งชิงเฮ่อได้ยินว่ามู่หรงฉีกลับมาแล้ว ก็รู้ว่าจะต้องมีแผนการลับอย่างแน่นอน และมีกำลังพอที่จะเผชิญหน้าต่อกรกับอ๋องเฮ่า กล้าที่จะลงมือ และโล่งใจขึ้นเป็นอย่างมาก

“เจ้าคิดจะเผยภูมิหลังของอ๋องเฮ่าต่อสาธารณชนรึ? ตอนนี้เกรงว่ามันจะยังมิใช่เวลา โมโหได้ แต่จะยั่วโมโหมิได้”

ชิงฮวนพยักหน้า “ข้าปรึกษาหารือกับมู่หรงฉีมาแล้ว ตอนนี้ฝ่าบาทกับพระสนมฮุ่ยเฟยอยู่ในกำมือของพวกเขา จะรีบร้อนเกินไปมิได้ มิเช่นนั้นหากภูมิหลังถูกเปิดโปง พวกเขาวางเดิมพันทั้งหมดเพื่อเสี่ยงวัดดวงครั้งสุดท้าย มันจะต้องเป็นผลเสียต่อพระสนมฮุ่ยเฟยเป็นแน่”

“แล้วทางฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง ในนั้นมิมีพวกพ้องของเราให้ร่วมมือเลย การปกป้องฝ่าบาท เราจะต้องระมัดระวังอยู่ตลอด”

ชิงฮวนหรี่ตาเล็กน้อย และยิ้มแฉ่ง “ต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา