“ไม่ต้องลำบากเดินออกมาก็ได้” ธีร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขามองคนเบื้องหน้าแล้วก็ยิ้มให้
“โด่งเกรงใจคุณธีร์จังเลยค่ะ รบกวนเงินทองตั้งมากมาย”
“ไม่เอาน่าเรามันก็คนกันเอง...อย่าลืมสิ” ดนุพรฝืนยิ้มตอบทั้งที่ในใจกังวลไม่น้อย คนกันเองของชายหนุ่มที่ว่ามันทำให้หัวใจเธอเจ็บแปลบ
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“อืม ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ มีอะไรก็รีบบอกผมไม่ต้องเกรงใจ” ดนุพรยกมือไหว้ก่อนจะหลีกทางให้เขาออก ชายหนุ่มเข้าไปนั่งในรถหรูแล้ว แต่เขาก็ยังหันมองคนที่มาส่งราวกับไม่อยากให้ภาพของหล่อนเลือนหายไป ดนุพรพยายามฝืนยิ้มให้เขา ทั้งทีหล่อนอยากจะรีบหลบเข้าไปในร้านเต็มที ไม่ใช่เพราะรังเกียจแต่หัวใจที่กำลังทรยศของหล่อนนั้นมันระส่ำระส่ายร้อนรุ่ม
“อาโด่งค่ะ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร มีความสัมพันธ์ยังไงกับอาคะ ทำไมต้องทำตัวสนิทสนมกันขนาดนั้นด้วยคะ”
“ว๊าย ยายพิตต้า ถามมากมายขนาดนี้ อาจะตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะ”
“ทุกคำถามค่ะอา เค้าเป็นใครคะ แล้วทำไมอาต้องให้พิตต้าไปทำความรู้จักด้วยคะ...ดูน่าเกรงขามจริง”
“โอเคๆ คุณธีร์เค้าเป็นมหาเศรษฐีใหญ่ ยังหนุ่มหล่อแถมโสดด้วย”
“อาโด่ง” หญิงสาวเรียกเรียกสูงเพราะดนุพรตอบไม่ตรงตามที่เธอต้องการ
“คือว่า เค้าเป็นเจ้าหนี้ของอา”
“เจ้าหนี้” เสียงที่ดังต่อจากพิยะตาก็คือบรรดาสาวดริ๊งค์ทั้งหลายที่บังเอิญเข้ามาได้ยิน จนทั้งสองคนต้องหันไปมองอย่างตกใจ
“เค้ามาช่วยอาปลดหนี้จากเสี่ยพงษ์ แล้วมันก็เลยกำหนดใช้หนี้แล้ว...อาไม่รู้จะทำยังไงก็เลย”
“อาขายพิตต้าให้เค้าเหรอคะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก อาก็แค่ให้พิตต้าไปอยู่ในความอุปการะของเค้าช่วยคราว”
“ยังไงคะอา พิตต้าไม่เข้าใจ”
“ชีวิตที่เร่ร่อน ถ้าพาหนูไปด้วยมันคงจะอันตรายมาก อย่ากลัวเลยพิตต้าอารับรองว่าไปอยู่กับคุณธีร์แล้วหนูจะปลอดภัย อาจะได้ไม่ต้องกังวลด้วย”
“ฮือ อาคะ พิตต้าขอโทษที่ช่วยอะไรอาไม่ได้เลย ทำให้อาเสียร้านไป”
“ช่วยได้สิ ทำตามที่อาขอแล้วกันนะ ไปอยู่กับเค้า แค่นี้อาก็หมดห่วงแล้ว” ดนุพรพยายามไม่ร้องไห้ตามหลานสาว หล่อนต้องเข้มแข็งเมื่ออยู่ต่อหน้าพิยะตา
“ทำไมต้องให้พิตต้าไปด้วย ขออยู่กับอาไม่ได้เหรอคะ ฮือ” หญิงสาวโอบกอดร่างของดนุพร สะอื้นเสียใจกับสิ่งที่ได้รับรู้ ตั้งแต่เธอสูญเสียครอบครัวไปมีเพียงดนุพรเท่านั้นที่คอยเลี้ยงดู จะให้แยกจากกันแบบนี้หัวใจของพิยะตาแทบสลายเธอหวั่นเกรงไปเสียทุกอย่าง
“พิตต้า ร้านนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวของอา ในเมื่ออาต้องสูญเสียมันไป อาก็ขอให้คนที่อารักที่สุดได้อยู่ดูแลมันต่อไป จำไว้การที่ไปอยู่กับคุณธีร์ พิตต้าจะได้ดูแลร้านของอาด้วย” เสียงเศร้าต่ำลึกลง จิตใจคนพูดหดหู่อย่างเห็นได้ชัด หล่อนไม่อยากจะสูญเสียของรักไปจริงๆ แต่มันเลือกไม่ได้ วิธีเดียวที่จะไม่ให้บาร์ต้องตกเป็นของคนอื่นก็คือยอมให้หลานสาวคนเดียวไปอยู่กับเจ้าของใหม่ เธออาจจะมีโอกาสได้ครอบครองมันและความหวังเล็กๆ ของดนุพรก็จะเป็นจริง
“อย่ามาร้องไห้กันแถวนี้นะพวกเธอ...ที่นี่บาร์เหล้าไม่ใช่ฮวงซุ้ย” ดนุพรรีบเปลี่ยนบรรยากาศเศร้าหมองให้คึกคัก เพื่อไล่ความกลัดกลุ้มในใจของตัวเอง
“ไปทำงานเร็ว...นั่นๆ ป๋าเทพมาแล้ว นังแหวนพาเด็กไปต้อนรับเลยอย่าให้เสียลูกค้านะยะ” นิ้วเรียวชี้สั่งด้วยความชำนาญ แต่เบื้องหลังสายตาที่ยังคงจ้องมองร่างอรชรๆ นั้นช่างเศร้าเสียจริง ดนุพรไม่อยากหันกลับไปมองหลานสาว หล่อนเดินออกไปทำหน้าที่แม่เลาจ์ของตัวเอง ทิ้งให้พิยะตานั่งปาดน้ำตาอยู่คนเดียว เธอไม่เคยคิดเลยว่าที่ผ่านมาบาร์ของอาจะย่ำแย่ถึงเพียงนี้ เศรษฐกิจซบเซาอยู่หลายปีก็จริง แต่ลูกค้าก็เข้ามาพอสมควร เหตุใดกันที่ทำให้เกิดหนี้สินมากมายจนอาต้องสูญเสียสมบัติที่รักที่สุดไป
“อาคะ...พิตต้าจะไม่ยอมให้บาร์นี้ตกเป็นของคนอื่นเด็ดขาดค่ะ พิตต้าโตมาที่นี่รักมันพอๆ กับอา” น้ำตาหยดสุดท้ายแห้งลงแล้ว หญิงสาวเดินตามคนอื่นๆ ออกไป พิยะตาต้องการช่วยให้ดนุพรสูญเสียน้อยที่สุด เธอมองสำรวจลูกค้าในร้านก่อนจะมุ่งตรงไปยังคนที่นั่งคนเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม