หลังจากรับรู้ชะตาชีวิตของตัวเองแล้ว พิยะตาก็จำใจเก็บข้าวของออกจากห้องพักของดนุพรแล้วย้ายมาอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ของธีร์ ผู้ปกครองคนใหม่ ชายหนุ่มใหญ่ที่ดนุพรอ้างว่ามีบุญคุณกับเธอจัดรถคันงามมารอรับเธอถึงที่ วันแรกที่ก้าวเข้ามาอยู่ในที่แปลกตาทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี อาจเป็นเพราะคนในบ้านไม่รู้ว่าเธอมาจากที่ไหน ถ้ารู้คงได้ขับไล่มากกว่าต้อนรับแน่ๆ
“เอากระเป๋าของคุณพิตต้าไปเก็บให้ทีนะดาหวัน”
“ค่ะคุณธีร์” หญิงรับใช้ตอบเสียงอ่อนหวาน เธอหยิบกระเป๋าใบเล็กสองใบขึ้นไปยังชั้นบน สายตาของพิยะตาก็มองตามอย่างจดจ่อรอลุ้นว่าเธอจะได้พักที่ไหน
“ทำตัวตามสบายนะ พิตต้า ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่กับหลานชายสองคน แต่ตอนนี้เจ้านั่นไม่อยู่หรอก ไม่ค่อยกลับ” หญิงสาวพยักหน้า แล้วเดินสำรวจห้องโถงใหญ่ที่ใช้สำหรับรับแขก บ้านหลังนี้กว้างเสียจนเธอคิดว่าวันเดียวคงจะเดินไม่ทั่วแน่ๆ อีกทั้งคงต้องใช้คนจำนวนมากที่จะต้องดูแลปัดกวาด
“ท่านคะ” หญิงสาวเอ่ยเรียกเจ้าของบ้านเมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรอยู่ที่นี่เฉยๆ
“จะให้พิตต้าทำอะไรคะ...กวาดบ้านถูบ้าน หรือล้างรถก็ได้นะคะ”
“ฮ่าๆ หน้าที่พวกนั้นมีคนทำหมดแล้ว...จะให้เธอทำอะไรแล้วฉันจะบอกเธออีกที”
“ค่ะ...แล้วคืนนี้พิตต้าจะไปหาอาโด่งได้ไหมคะ”
“ยังก่อน...เธอต้องเรียนรู้ชีวิตที่นี่เสียก่อน แล้วฉันจะอนุญาตให้ไปหาเพื่อนๆ ของเธอ”
“ค่ะ แล้วพิตต้าจะต้องทำอะไร เวลาอยู่ที่นี่คะ”
“ก็อยู่เฉยๆ แค่นี้ก็มีประโยชน์แล้ว” พูดจบธีร์ก็เดินออกไป ทิ้งให้หญิงสาวงุนงงกับคำพูดของเขา ให้เธออยู่เฉยๆ ก็มีประโยชน์นี่เท่ากับเขาว่าเธอจุ้นจ้านงั้นเหรอ หญิงสาวมุ้ยหน้าทันทีที่คิดออก เธอจึงใช้เวลาตลอดบ่ายสำรวจรอบๆบ้าน
“น่าเบื่อจัง คนรวยเค้าอยู่กันได้ยังไงเนี่ยเงียบอย่างกับป่าช้า”
“น้ำหวานเย็นๆ ค่ะคุณพิตต้า”
“ขอบคุณค่ะ...คุณธีร์ไปไหนคะเนี่ย”
“คุณท่านไปงานเลี้ยงค่ะ กว่าจะกลับก็ค่ำๆ คุณอยากได้อะไรบอกได้นะคะ” คำตอบนั้นยิ่งทำให้เธออึดอัด จนต้องถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยกว่า
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก”
“อย่าใช้คำพูดสุภาพแบบนี้กับดิฉันเลยค่ะ...ขี้กลากมันจะกินหัวดิฉันเอา”
“มันจะมากไปแล้วนะ...มีสิทธิ์อะไรมาด่าว่าฉันแบบนี้”
“คนอย่างคุณมันต้องขออนุญาตก่อนถึงจะด่าได้เหรอ...รู้ไว้เลยนะผู้หญิงแบบนี้ ผมคิดจะด่า จะจูบจะหอมยังไงก็ไม่มีใครเค้าสนใจความเสียหายหรอก เพราะมันไร้ค่า””
“ผู้ชายอะไร หยาบคายที่สุด” เสียงหญิงสาวสั่นเครือ
“ก็ผู้ชายแบบผมไง...หยาบคายแค่เฉพาะกับคนอย่างคุณ” ใบหน้าเรียวแดงระเรื่อ เธอแทบจะระเบิดอารมณ์ใส่เขา
“ฉันไปทำอะไรให้คุณนักหนาเหรอ ถึงได้จงเกลียดจงชังกันขนาดนี้”
“ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าคุณน่ะมันน่าเกลียด น่าขยักแขยงแค่ไหน เนื้อตัวก็เหม็นกลิ่นคาวโลกีย์ ผ่านมือผู้ชายมากี่ร้อยกี่พันคนแล้วก็ไม่รู้ แบบนี้ยังจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรีอะไรที่จะเข้ามาอยู่ในบ้านของผม”
“เพี๊ยะ” มือเรียวฝาดอย่างแรงบนใบหน้าเข้มของคนปากเสีย เขาหันตามแรงโกรธที่เธอประเคนให้
“สารเลว ผู้ชายต่ำทราม ดีแต่ดูถูกผู้หญิง” เสียงสะอื้นกลืนหายลงลำคอแข็งกระด้างทันที ปากเรียวถูกประกบปิดกั้นเสียงด่าทอจนมิด แขนแข็งแรงโอบรัดรอบเอวบางแน่นเสียจนเธอไม่สามารถดิ้นรนได้เลย มีเพียงปลายเล็บที่ยังคงจิกแขนและไหล่หนาๆ กำปั้นเล็กทุบหลายครั้งด้วยแรงที่อ่อนยวบ ร่างกายที่โกรธจัดทำไมเหมือนขี้ผึ้งลนไฟได้ขนาดนี้ ร่างบางแนบอกหนาถึงมือจะพยายามผลักร่างชายหนุ่มแต่มันก็เหมือนสะกิดเขาเท่านั้น ปลายลิ้นหนาซอนหาตวัดรัดลิ้นอุ่นหวานเขาดูดกลืนน้ำหล่อเลี้ยงในปากสาวจนแทบจะหลั่งออกมาไม่ทัน ใบหน้าขาวแดงก่ำเธอเบี่ยงหน้าหนีแต่มืออีกข้างก็รั้งให้กลับมาอยู่ตรงหน้าเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม