ทัณฑ์รักอสูรร้าย นิยาย บท 12

นับตั้งแต่วันที่ประกาศตัดความสัมพันธ์ ปรางค์รวีกลายเป็นคนหมองเศร้า ไม่พูดไม่จากกับใครมากนัก บ่อยครั้งที่ร้องไห้อยู่คนเดียว ทุกข์อยู่ตามลำพัง ไม่ปริปากบอกใครกับเรื่องใจง่ายของตัวเอง เก็บงำความเสียใจทั้งหมดไว้ในหัวใจ แม้แต่ภัทรากับกมลเนตรเพื่อนสนิท โดยเฉพาะกับมารดา เธอจะแสดงความสดใสและเบิกบานให้เห็น

วันนี้เป็นวันแรกในรอบเจ็ดวันที่ปรางค์รวีออกจากบ้าน เธอเดินทางมายังมหาวิทยาลัยตามที่ได้นัดหมายกับอาจารย์และกลุ่มเพื่อน พอมาถึงเธอก็พบหน้าภัทราเป็นคนแรก ที่ช่างสังเกตสังการณ์เหลือเกิน

“ปรางค์เป็นอะไรหรือเปล่าหน้าแกซีดมากเลยนะ” ภัทราเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ได้เป็นอะไรแค่ปวดหัวนิดหน่อย เมื่อคืนนอนดึก” เธอปด

“วันนี้แฟนของตาจะมารับไปเลี้ยงฉลองเรียนจบ แกไปกับพวกฉันนะ” ภัทราเอ่ยชวน ตั้งแต่กมลเนตรมีคนรักทั้งสองยังไม่เคยเห็นหน้าชายหนุ่มผู้โชคดีคนนั้นเลยสักครั้งเดียว โอกาสนี้น่าจะเหมาะที่สุดที่จะได้เจอ เพราะกมลเนตรจะเดินทางไปศึกษาต่อที่อิตาลีในวันมะรืน

“ไม่ไปหรอก ฉันต้องไปทำงานต่ออีก แกไปเถอะ”

ปรางค์รวีปฏิเสธเพราะเวลานี้สภาพจิตใจของเธอทุกข์ทน ไม่อยากพบเจอหน้าใคร อยากอยู่กับตัวเองมากกว่า

“ว้า...เสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรโอกาสหน้ายังมีเนอะ”

“เดี๋ยวฉันจะไปฝั่งโน้น แกเอาอะไรไหม” ปรางค์รวีเอ่ยถาม ฝั่งโน้นหมายถึงตลาดสดและร้านค้ามากมายนับร้อยร้าน ขายสินค้านานาชนิด เธอตั้งใจจะซื้อขนมไปฝากมารดา

“ไปด้วยกันก็ได้ แต่ต้องข้ามถนนนะเพราะสะพานลอยปิดปรับปรุง อาทิตย์หน้ากว่าจะเสร็จ”

“ไม่มีปัญหา ข้ามถนนก็ได้”

สองสาวพากันเดินไปยังหน้ามหาวิทยาลัย ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่ริมถนน

“จะรีบไปไหนกันเนี่ย ขับรถอย่างกับเหาะ” ภัทราบ่น เมื่อเห็นรถยนต์บนถนนวิ่งด้วยความเร็วสูง ทำให้เธอกับเพื่อนไม่มีจังหวะที่จะข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง

“ใจเย็นๆ ก็ได้ ไม่รีบไม่ใช่เหรอ”

“ก็รู้ว่าไม่รีบ แต่มันหงุดหงิดนี่นา ร้อนก็ร้อน” ภัทราบ่นอุบ ปรางค์รวียิ้มกับอาการของเพื่อน

“รถว่างแล้ว ไปเร็วปรางค์” ภัทราบอกเพื่อนรักเมื่อเห็นว่ารถทิ้งระยะห่างให้พอข้ามได้ ภัทราก้าวเดินออกไปเป็นคนแรก ตามด้วยปรางค์รวี

และสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

“กรี๊ดดด…โครม!” รถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงอยู่ๆ ก็ปาดหน้ารถกะบะ ไม่ทันได้เห็นร่างของปรางค์รวี แล้วพอเห็นก็เบรกไม่ทัน จึงชนกับร่างของปรางค์รวีอย่างแรง

ร่างเล็กลอยเหมือนใบไม้ลงไปนอนแน่นิ่งบนพื้น ภัทรากรีดร้องสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีด ก่อนจะวิ่งมายังร่างของเพื่อนรักทันที

“ปรางค์...ปรางค์เป็นยังไงบ้าง ปรางค์ตื่นสิ...ตื่น”ภัทราร้องเรียกปรางค์รวีที่หมดสติ “เลือด...ปรางค์อย่าเป็นอะไรนะ ปรางค์ตื่นสิ ปรางค์”

เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากใจกลางร่างกายของปรางค์รวี ทำให้สติของภัทราไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยิ่งลมหายใจของเพื่อนที่เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ มันยิ่งทำให้ความเป็นห่วงของเธอเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ ไม่นานนักรถของมูลนิธิแห่งหนึ่งก็มาถึงที่เกิดเหตุ นำพาร่างของปรางค์รวีไปส่งยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

..........

ณ โรงพยาบาล

ปลายเท้าของมาลีชะงัก เมื่อเห็นภัทราเพื่อนร่วมสถาบันที่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่รักนั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน จากสีหน้าของภัทรา บอกให้เธอรู้ว่า ต้องเกิดเหตุอะไรบางอย่างกับคนใกล้ชิดของภัทรา ด้วยความอยากรู้ มาลีจึงเปลี่ยนจุดหมาย เดินเข้าไปถามภัทรา

“ได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลย”

พอตั้งสติได้ ภัทราก็คิดว่าเรื่องที่ปรางค์รวีตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานคงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือน่าตกใจอีกต่อไป และรู้ด้วยว่า ใครคือพ่อของเด็กในครรภ์ของปรางค์รวี

“แกรู้ไหมว่า ใครเป็นพ่อของลูกในท้องปรางค์” มาลีชักอยากรูรายละเอียดขึ้นมา แล้วคิดว่าคนที่ให้คำตอบเธอได้คือ ภัทรา มาลีจึงใจกล้าเอ่ยถาม

“ฉันไม่รู้หรอก แล้วไม่สนใจด้วยว่าใครเป็นพ่อเด็ก ฉันสนใจแต่อาการของปรางค์มากกว่า” ภัทราตอบเสียงแข็ง จ้องหน้ามาลีเขม็ง

“ฉันก็สนใจอาการของปรางค์ ที่ฉันถามเพราะฉันอยากรู้เท่านั้นเอง” มาลีเสียงอ่อนรีบสงบปากสงบคำทันที

อีกประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ร่างของปรางค์รวีถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน เพื่อนำร่างไร้สติของเธอไปพักรักษาตัวต่อยังห้องพักฟื้น โดยมีร่างของเพื่อนสาวสองคนเดินตามไป

“มาลี ฉันขอร้องอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด ถ้าเธอปากโป้งล่ะก็ ฉันจะเอาเรื่องที่เธอมั่วผู้ชายตอนไปออกค่ายอาสาป่าวประกาศให้ทุกคนรู้แน่” ภัทราพูดขู่มาลีอย่างรู้นิสัยว่า ปากของมาลียิ่งกว่าเครือ่งขยายเสียง เรื่องใดที่มาลีรู้ โลกมักรู้เสมอ

“รู้แล้วน่า” มาลีหน้างอเล็กน้อยเมื่อถูกดักคออย่างรู้ทัน เมื่อเทอมที่แล้วชมรมอาสาสร้างโรงเรียนให้น้อง ได้จัดกิจกรรมไปออกค่ายพัฒนาโรงเรียนที่จังหวัดกาญจนบุรี ตอนนั้นภัทราและปรางค์รวีเดินทางไปด้วย พอตกกลางคืนเธอได้แอบลักลอบออกมานอกห้องพัก มามั่วสุมและพลอดรักกับรุ่นพี่อีกสามคน เหตุการณ์ในครั้งนั้นภัทราเห็นโดยบังเอิญ ภัทราจึงนำมาข่มขู่เธอในครั้งนี้ ซึ่งดูเหมือนจะได้ผลเสียด้วย

“รู้แล้วก็หัดจำเอาไว้ด้วย ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูคนอื่นล่ะก็ แกกับฉันได้เห็นดีกัน” ภัทราข่มขู่อีกรอบ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นแบบรวม คอยดูแลปรางค์รวีไม่ห่างอย่างเป็นห่วง และอดที่จะนึกถึงพ่อของลูกในท้องปรางค์รวีไม่ได้ ที่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากวิตโตริโอ บุรุษที่ปรางค์รวีบอกกับตนว่าเป็นคนรัก

วิตโตริโอจะรู้หรือไม่ว่าปรางค์รวีตั้งครรภ์ อาการเหม่อลอยและใบหน้าอมเศร้าของปรางค์รวีที่เธอเห็นบ่อยครั้งในระยะหลัง รวมทั้งเรื่องที่ปรางค์รวีหยุดการฝึกงานทั้งที่ยังไม่ครบจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้ อาจเป็นเพราะชายหนุ่มจอมเจ้าชู้ตัดความสัมพันธ์

ภัทราถอนหายใจ เธอเตือนเพื่อนรักหลายครั้งแล้วว่า อย่าปักใจรักวิตโตริโอ เพราะเขากับปรางค์รวีมีฐานะต่างกันมาก ทั้งทางสังคมและทางการเงิน อีกทั้งนิสัยของเขาก็เจ้าชู้เหลือกำลัง มีหรือที่เขาจะรักปรางค์รวีจริง สุดท้ายเรื่องที่ภัทรากลัวก็เป็นจริง

เพื่อนรักของเธอโดนหลอกจนได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์รักอสูรร้าย