ภัทราเดินตรงดิ่งมายังห้องทำงานของวิตโตริโอ หลังจากที่ปรางค์รวีโทรศัพท์มาปรับทุกข์กับเธอเรื่องของวิตโตริโอ ที่ยังวนเวียนมาข้องแวะกับปรางค์รวีอยู่ ทำให้เพื่อนแสนดีอดรนทนไม่ไหว ต้องเดินทางมาจัดการกับเสือร้ายให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย
“พี่ภา เกี๊ยะมาขอพบคุณวิโตริโอค่ะ” ภัทราบอกกับเลขานุการหน้าห้องที่สนิทคุ้นเคยกันในระดับหนึ่ง
“เกี๊ยะมีธุระอะไรกับคุณเสือ” โสภาเอ่ยถามตามหน้าที่
“มีเรื่องด่วนมากๆ ต้องพบกับคุณเสือให้ได้ค่ะ” ภัทราทำสีหน้าร้อนใจ ยังไม่ทันที่โสภาจะพูดอะไรต่อ รังสรรค์เดินตรงเข้ามาหาสองสาวที่กำลังสนทนาอยู่
“คุณมาทำอะไรที่นี่” รังสรรค์ถามภัทรา สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยที่เห็นสาวจอมยุ่งปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ทั้งที่เธอไม่ได้ทำงานในอาคารหลังนี้ แล้วเธอจะมาที่นี่ทำไม
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ ฉันมาหาคุณเสือร้าย ไม่ได้มาหาคุณ”
ภัทราตอกกลับ สะบัดหน้าหนีไม่อยากมองหน้าเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ลูกน้องก็คงเหมือนเจ้านาย ถึงอยู่ด้วยกันได้
“ทำไมจะไม่ใช่เรื่องของผม ก็คุณมาหาเจ้านายของผม ผมเป็นลูกน้องก็ต้องคอยดูแลความปลอดภัยให้เจ้านาย เพราะถ้าเกิดคุณกระโดดกัดหู หรือแม้แต่ใช้เสียงแหลมๆ พูดตะโกนใส่หน้าคุณเสือ แล้วเกิดหูแตกขึ้นมา ผมจะได้จัดการกับคุณได้ทันท่วงทีไง” เขาพูดยิ้มๆ ยิ่งเห็นดวงหน้าของภัทราที่เริ่มแดงขึ้นเขายิ่งชอบใจเข้าไปใหญ่ ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้เวลาโกรธน่ารักชะมัดเลย
“นี่คุณ ฉันไม่ใช่หมานะที่จะกระโดดกัดหูเจ้านายคุณน่ะ ส่วนเสียงของฉันไม่ได้แหลมสูงขนาดนั้นเสียหน่อย แต่ถ้าเอาอะไรฟาดหูเจ้านายคุณแตกก็ไม่แน่”
“คุณนี่แหละพันธ์ไทยแท้ ดุ โหด กล้าบ้าบิ่น” ภัทราแทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อถูกชายหนุ่มเปรียบเปรยเธอเป็นสุนัข งานนี้นายรังสรรค์ได้ไปสวรรค์แน่
“ฉันน่ะผู้หญิงสายเลือดไทยแท้ พูดจริงทำจริง และนี่คือผลตอบแทนของผู้ชายปากเสีย” รังสรรค์ไม่ได้คิดว่าภัทราเป็นสุนัขเลยสักนิด ความหมายที่เขาพูดออกไปนั้นชื่นชมในความกล้าของเธอต่างหาก หากแต่ภัทรานั้นกลับคิดไปอีกทาง ทำให้เขาต้องเจ็บตัวแบบนี้
“โอ๊ย!” รังสรรค์นั่งกุมกล่องดวงใจของเขาทันที ที่เข่ามหาภัยกระแทกเข้าตรงของรักของหวง เจ็บจนพูดไม่ออก
“เป็นไงล่ะผู้ชายพันธ์ชิวาวา โดนพันธ์ไทยแท้แตะเข้าไปกลางเป้าเจ็บหรือเปล่าเอ่ย ทีหลังอย่ามาดูถูกผู้หญิงอีกนะ โดยเฉพาะผู้หญิงไทยร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างฉัน พูดจริงทำจริง” ภัทรายืนมองรังสรรค์ที่นั่งกุมของสงวนเพราะความเจ็บด้วยรอยยิ้ม ไม่ต่างกับโสภาที่ลอบยิ้มตามไปด้วย เมื่อเห็นวีรกรรมของสาวน้อยร่างเล็ก เธอจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนของปรางค์รวี เพราะไปรับประทานอาหารด้วยกันบ่อยครั้ง
“พี่รายงานคุณเสือก่อนนะ” โสภาทำตามหน้าที่ โทรศัพท์เข้าไปขออนุญาติเจ้านาน “คุณเสือให้เกี๊ยะเข้าไปพบได้จ้ะ”
“ขอบคุณค่ะพี่ภา” ภัทรายิ้ม ก่อนจะเดินไปยังประตูห้องทำงานของประธานบริษัท
“มีธุระอะไรถึงได้มาหาฉันที่นี่” วิตโตริโอถามภัทรา เมื่อเธอก้าวเข้ามาอยู่ในห้อง นึกสงสัยอยู่ว่า ภัทรามาหาเขาทำไม
“ที่ฉันมาวันนี้ ฉันจะมาพูดเรื่องของปรางค์ ทำไมคุณถึงไปยุ่งกับปรางค์อีก ทำไมไม่ให้เรื่องมันจบๆ ไป” ภัทราสวมวิญญาณเพื่อนแสนดี เปิดศึกคำพูดกับวิตโตริโอ
“มานี่เลยคุณ” รังสรรค์เดินตรงเข้าไปลากร่างของภัทรา ลากจูงเดินออกไปจากห้องทำงานของเจ้านาย ภัทราฝืนเต็มกำลังที่มีเพราะงานของเธอยังไม่เสร็จบรรลุถึงเป้าหมายอย่างที่ตั้งใจไว้ ตอนนี้ภายในห้องเหลือเพียงครอบครัวดิมาร์ชีเท่านั้น การพูดจาจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
“แม่ไม่รู้ว่าเสือคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าความรู้สึกของลูกที่มีต่อปรางค์คืออะไร แต่แม่อยากให้ลูกคิดถึงการกระทำของตัวเองที่ผ่านมา ปรางค์เจ็บเพราะลูกมามาก มันถึงเวลาแล้วนะที่ลูกควรจะเจ็บบ้าง”
ทำไมนางจะไม่รู้ว่าวิตโตริโอมีความรู้สึกแบบไหนกับปรางค์รวี หากแต่ลูกชายของนางเลือกที่จะหน้ามืดตามัวแก้แค้น ไม่ฟังเหตุผลที่แท้จริง คนที่เจ็บปวดที่สุดน่าจะเป็นลูกชาย วิตโตริโอสมควรจะได้รับโทษครั้งนี้เพียงคนเดียว
“กลับอิตาลีเถอะวิโต โซเฟียรอลูกอยู่นะ ลืมเรื่องที่เมืองไทยซะ ลืมปรางค์ คนที่ลูกควรจะรักต่อจากนี้คือโซเฟียคนเดียวเท่านั้น”
วิตโตริโอไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เขากำลังยืนอยู่ตรงกลางของทางแยก ทางหนึ่งมีหญิงสาวที่เขารักนามว่าปรางค์รวียืนอยู่ อีกเส้นทางหนึ่งมีหญิงสาวนามว่ากมลเนตรยืนอยู่เช่นกัน ไม่ว่าเขาจะเลือกเดินทางไหน ความเจ็บปวดมันก็เกิดขึ้น
“ผมจะกลับอิตาลี ผมจะปล่อยปรางค์ไป” ถ้อยคำยากยิ่งหลุดออกจากปากหนาอย่างยากลำบาก เขาคิดว่าการปลดปล่อยปรางค์รวีให้เป็นอิสระครั้งนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เขาและปรางค์รวีเหมือนยืนอยู่ที่เดียวกัน จุดเดียวกัน หากแต่มีกำแพงหนาทึบขวางกั้น ไม่สามารถจับต้อง ไม่สามารถมองเห็นมีเพียงความรู้สึกเท่านั้นที่ส่งผ่าน กำแพงหนานี้เขาไม่อาจทลายลงได้ เหตุผลง่ายๆ คือเป็นกำแพงที่มีลมหายใจ กำแพงที่มีชื่อว่ากมลเนตร
ความรักที่อยู่ก้นบึ้งของหัวใจ ผลิดอกออกใบเป็นกิ่งก้าน ในวันที่ไม่มีน้ำให้ราดรด ต้นไม้ที่กำลังงอกงามนั้นจำต้องเหี่ยวเฉา ตายซาก เหมือนกับเขาตอนนี้ที่ต้องห่างจากหญิงสาวที่เพิ่งรู้ตัวว่ารักเธอสุดหัวใจ ในวันที่สายเกินไป
“แต่ก่อนไป ผมขอไปพบปรางค์เป็นครั้งสุดท้าย ครั้งสุดท้ายจริงๆ” เขาบอกบิดาและมารดา บอกความตั้งใจที่เขาอยากทำที่สุดตอนนี้ ก่อนที่เขาจะไม่ได้เจอเธออีกเลยตลอดทั้งชีวิต และจะขอพิสูจน์อะไรบางอย่างด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์รักอสูรร้าย