ทัณฑ์รักอสูรร้าย นิยาย บท 54

ฟรานซิสโกนั่งซึมอยู่บนเก้าอี้นอกระเบียงห้องพัก สายตาของเขาทอดมองดูทะเลสาบด้วยจิตใจเหม่อลอย ครุ่นคิดถึงเรื่องราวความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคอย่างหนักใจและกลัดกลุ้ม

ความรักของเขาไม่อาจเป็นไปได้ วิตโตริโอรักกมลเนตรมากมากเกินกว่าที่เขาจะคิดแย่งชิงเธอมาครอบครอง หากเขาทำอย่างนั้นเท่ากับว่าทรยศเพื่อน ทำร้ายเพื่อนให้หัวใจแตกสลาย เขานั่งเหม่อจนไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องที่ดังอยู่หลายครั้ง ทำให้วิตโตริโอถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนของเพื่อนรัก โดยที่เจ้าของห้องยังไม่อนุญาต และเจ้าของห้องก็ไม่ได้ล็อกประตู

“นั่งเหม่อคิดถึงใครอยู่เหรอ” วิตโตริโอตบบ่าเพื่อนรักเบาๆ เมื่อเดินมาที่ระเบียงห้อง ฟรานซิสโกมองหน้าผู้มาเยือนเพียงนิด ก่อนจะเสมองไปทะเลสาบตามเดิม เพราะเขามองหน้าเพื่อนทีไรเหมือนกับว่าความเจ็บปวดและความผิดตอกย้ำเขาเสมอ

“คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” ฟรานซิสโกตอบไม่เต็มเสียง

“นึกว่ากำลังคิดถึงตาอยู่” อีกฝ่ายพูดขึ้น คนที่ฟังหันมามองหน้าผู้พูดตกใจและร้อนรน กลัวเหลือเกินว่าเพื่อนจะระแคะระคายเรื่องของเขากับกมลเนตร

“ฉันจะไปคิดถึงแฟนนายทำไม” ฟรานซิสโกถามสวนโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย วิตโตริโอยิ้มตบบ่าเพื่อนอีกครั้ง ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวข้างเก้าอี้ที่เพื่อนนั่งอยู่ สายตาคมเข้มของเขามองไปที่ทะเลสาบเช่นเดียวกับฟรานซิสโก เริ่มพูดบางอย่างกับเพื่อนเพื่อให้ความรักของทุกคนสุขสมหวัง

“ฟรานโก้ฉันกับนายเป็นเพื่อนกันมานานกี่ปีแล้ว” ฟรานซิสโกงงที่อยู่ๆ เพื่อนถามคำถามนี้ขึ้นมา

“ยี่สิบเก้าปี” คนถามตอบเสียงเรียบ

“เวลายี่สิบเก้าปี ฉันไม่เคยมีอะไรปิดบังนาย ฉันรักนายเหมือนพี่ เหมือนครอบครัวเดียวกัน เราจึงไม่ควรมีอะไรปิดบังกันใช่ไหม”

“นายมีอะไรพูดมาตรงๆ เลยดีกว่า ไม่ต้องอ้อมค้อม”

ฟรานซิสโกไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย เขาอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เขารู้ดีว่าการมาของวิตโตริโอมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่

“ถ้านายอยากให้ฉันพูดตรงๆ ฉันก็จะพูด นายมีอะไรกับตาใช่ไหม” คำถามนี้ของวิตโตริโอทำให้ร่างของฟรานซิสโกนิ่งงันแข็งประดุจก้อนหิน พูดไม่ออกตอบเพื่อนไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน หากแต่สีหน้าของวิตโตริโอนั้นไม่ได้บ่งบอกถึงความอยากรู้เลยสักนิดเดียว ใบหน้าของเขายิ้ม เบิกบานไม่เหมือนคนที่รู้ความจริงว่า คนที่ตนรักเละเพื่อนสนิทหักหลัง

“ถ้านายตอบฉันไม่ได้ก็ไม่ต้องตอบนะ ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว โซเฟียเป็นคนเล่าให้ฉันฟังเอง นายไม่ต้องกลัวว่าฉันจะโกรธและเกลียดนาย ตรงกันข้ามฉันดีใจและสบายใจเป็นที่สุด ที่เรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้ นายคงอยากรู้ว่าทำไม”

วิตโตริโอหยุดพูดมองสีหน้าและแววตาตื่นตระหนกของเพื่อนรักด้วยรอยยิ้ม เขาเพิ่งเคยเห็นหน้าตาตื่นของฟรานซิสโกก็คราวนี้เอง ยิ่งมองยิ่งขำ

“ฉันไม่ได้รักโซเฟียอย่างที่นายหรือใครๆ เข้าใจ ผู้หญิงที่ฉันรักคือพลิสซิลล่าเพื่อนของโซเฟียต่างหาก นายคงอยากรู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ฉันจะเล่าให้นายฟังเอง...”

คำบอกเล่าที่ออกมาจากปากของวิตโตริโอเรียกรอยยิ้มให้กับคนทีละนิด จนกระทั่งแย้มยิ้มเต็มใบหน้า

สวรรค์ช่างเล่นตลกอะไรกับพวกเขาอยู่ ความรักที่ดูเหมือนจะไม่ลงตัว เริ่มมองเห็นเค้าลางของความเป็นจริงขึ้นมาทันทีทันใด ผู้หญิงที่วิตโตริโอรักไม่ใช่กมลเนตร แต่เป็นปรางค์รวีหรือนี่ มิน่าล่ะเขาเห็นสายตาดุเข้มของวิตโตริโอมองมา ยามที่เขาพูดคุยกับปรางค์รวี สายตานั้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างแรงกล้า จนเขาขนแขนลุกชันขึ้นมาทันควัน สาเหตุเป็นเพราะวิตโตริโอรักปรางค์รวีนี่เอง

“วิโต นายไม่ได้ล้อเล่นฉันใช่ไหม” ฟรานซิสโกเอ่ยถามย้ำเพื่อความมั่นใจ

“เรื่องแบบนี้ใครเค้าจะล้อเล่นกัน เรื่องจริงทั้งนั้น” อีกฝ่ายตอบอย่างฉะฉาน

“นายโกรธฉันหรือเปล่า”

“ฟรานโก้นายถามเหมือนโซเฟียไม่มีผิด ฉันไม่เคยโกรธนายเลยแม้แต่นิดเดียว ดีใจด้วยซ้ำที่นายรักโซเฟีย โซเฟียเป็นคนดี เป็นคนน่ารักนายต้องทะนุถนอมน้องสาวของฉันให้ดีที่สุด ถ้านายทำให้น้องสาวของฉันเจ็บ ฉันจะให้นายเจ็บมากกว่าร้อยเท่าพันเท่า” ฟรานซิสโกไม่รู้ว่าจะสรรหาคำพูดใดมาพูดกับวิตโตริโอดี เขากอดเพื่อนรักไว้ในอ้อมแขนแทนคำพูดทุกคำ

“ฉันรับรองด้วยชีวิต ฉันจะดูแลโซเฟียอย่างดีที่สุด ไม่ทำให้เธอร้องไห้ เสียใจเด็ดขาด”

นี่คือคำมั่นสัญญาจากเขา จากผู้ชายที่ชื่อฟรานซิสโก

“แต่มีคนหนึ่งที่นายจะต้องผ่านด่านไปให้ได้ คนๆ นี้จะเป็นคนชี้ชะตาชีวิตของนายเลยนะ ว่าจะได้แต่งงานกับโซเฟียหรือเปล่า”

ฟรานซิสโกคิ้วขมวดอย่างสงสัย มีใครอีกหรือที่เขาต้องเอาชนะใจอีก

“ปรางค์อาจจะแปลกใจว่าทำไมตาถึงพูดแบบนี้ ตาจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ปรางค์ฟังตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ คำพูดที่ตาพูด คือความจริงทุกอย่าง ไม่มีคำพูดไหนโกหกหรือเสริมแต่ง ปรางค์ตั้งใจฟังดีๆ นะ…”

ปรางค์รวีอ้าปากค้างตลอดระยะเวลาที่กมลเนตรเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ทุกอย่างมันดูเหลือเชื่อ ไม่น่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริง ความรักที่ก่อเกิดในหัวใจทั้งสี่ดวง มันแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ทุกอย่างมันกลับลงตัว ไม่มีใครต้องเจ็บปวดอีกต่อไป

ปรางค์รวีกับฟรานซิสโกไม่ต้องทนอยู่กับคำว่าเจ็บปวดและคำว่าทรยศเพื่อนอีกต่อไป วิตโตริโอกับกมลเนตรไม่ต้องแสแสร้งแกล้งทำเป็นรัก ทั้งๆ ที่หัวใจของทั้งคู่อยู่กับหญิงชายอีกคน

“ทีนี้ปรางค์เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้วนะ ปลดปล่อยความคิดของปรางค์ที่คิดว่าตัวเองผิด แย่งแฟนของตาได้แล้ว เพราะคนที่ตารักคือคุณฟรานโก้ไม่ใช่พี่วิโต ปรางค์สามารถเปิดใจยอมรับพี่วิโตได้แล้ว พี่วิโตรักปรางค์มากนะ มากที่สุดด้วยตารู้ เพราะคำพูดของคนเราอาจจะโกหกได้ แต่นัยน์ตาและความรู้สึกที่ตาได้เห็นและสัมผัส มันบอกให้ตารู้ว่า คำบอกรักของพี่วิโตกลั่นออกมาจากหัวใจของพี่วิโตอย่างแท้จริง”

กมลเนตรไม่ได้พูดเข้าข้างวิตโตริโอ แต่เธอพูดตามสิ่งที่เธอเห็นและสัมผัสได้ กมลเนตรมั่นใจเกินร้อยว่าวิตโตริโอรักปรางค์รวีอย่างแท้จริง และรักทุกลมหายใจเข้าออก

“ปรางค์...ปรางค์ยังเจ็บกับการกระทำของพี่เสืออยู่ ปรางค์คิดว่าคงจะลืมมันไม่ได้” ใช่...เธอไม่มีวันลืมความโหดร้ายที่เขาเคยทำไว้กับตัวเอง ความทรงจำแสนเจ็บปวดมันยังคงฝังรากลึกอยู่ในหัวใจบอบช้ำนี้ตลอดเวลา

“ปรางค์จ๋า ตาเองก็มีความรู้สึกเหมือนปรางค์นะ การกระทำของคุณฟรานโก้ที่ทำไว้กับตา มันยังคงติดตาติดใจอยู่เสมอมา ถามว่าตาจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นไหม ตาบอกได้เลยว่าตาจำเหตุการณ์นั้นได้ตลอด ถามว่าตาลืมได้หรือเปล่า ตาลืมไม่ได้เพราะเหตุการณ์นั้นเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวความรักแท้ของตา ความทรงจำของคนเรามีทั้งร้ายและดี ตาเลือกที่จะไม่ลืมความเลวร้าย แต่ตาเลือกที่จะให้อภัยในสิ่งที่เขาทำลงไป มันเหมือนกับเราปลดปล่อยตัวเองจากความทุกข์ที่สะสมอยู่ในหัวใจ หากเราไม่ให้อภัยความเจ็บช้ำจะเกาะกินเข้าไปในหัวใจของเราตราบนานเท่านาน เหมือนกับปรางค์ตอนนี้ ปรางค์อาจจะยืนอยู่ตรงกลางระหว่างความรักกับความหวาดกลัว ความเจ็บปวด ถ้าปรางค์ก้าวเดินไปในทิศทางของความกลัวและความเจ็บปวด ปรางค์ก็ต้องเดินไปบนเส้นทางนั้นตลอดชีวิต หาความสุขสงบให้กับตัวเองไม่ได้ หากปรางค์ลองมองไปอีกทางหนึ่ง เป็นทางที่เต็มไปด้วยดอกไม้มากมาย อบอวลไปด้วยความรัก ปรางค์จะรู้สึกสดชื่นสบายใจ ความเจ็บปวดก็จะลดทอนลงในที่สุด เพราะความรักที่พี่วิตมีให้ปรางค์ และความรักที่ปรางค์มีให้พี่วิโต มันเติมเต็มให้กับหัวใจของกันและกัน เชื่อตาสิ ไม่ผิดหรอกที่ปรางค์จะรักพี่วิโตอีกครั้ง ลองเปิดใจและเปิดโอกาสให้กับตัวเองและพี่วิโต”

คำพูดของกมลเนตรเหมือนทางสว่างที่ปรางค์รวีมองไม่เห็น จริงอย่างที่กมลเนตรพูด ตอนนี้เธอเลือกเดินบนเส้นทางของความกลัวและเจ็บปวด ทุกย่างก้าวที่เดินไปนั้น มันทิ่มแทงด้วยตะปูที่โรยไปตามเส้นทางทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา เธอเจ็บเวลาก้าวเดิน เจ็บจนร้องไห้ไปตลอดเส้นทาง จะเป็นการดีไม่น้อยที่ปรางค์รวีจะเดินออกจากถนนสายนี้ เพื่อไปยังถนนอีกสาย ที่เธอจะไม่ต้องพบพานกับความเจ็บปวด เพราะมีวิตโตริโอโอบอุ้มและปกป้องไปตลอดทาง

“ปรางค์จะลองเปิดใจรับพี่เสืออีกครั้งตามที่ตาบอก” ปรางค์รวีตัดสินใจอภัยให้คนที่เธอรัก

“ปรางค์ทำถูกต้องแล้วล่ะ ต่อไปนี้เราสี่คนก็ไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างลงตัว ตาจะโทรไปหาพี่วิโต ให้พี่วิโตมาขอขมาปรางค์ดีไหม”

กมลเนตรรีบหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กกดหมายเลขปลายทางที่ต้องการ โดยที่ปรางค์รวีไม่ทันได้ตอบ เมื่ออีกฝ่ายรับสาย เสียงไชโยโห่ร้องดังก้องผ่านโทรศัพท์ของกมลเนตร เสียงนั้นดังพอที่ปรางค์รวีซึ่งนั่งข้างๆ ได้ยินเต็มสองหู เรียกร้อยยิ้มหวานใสให้เกิดขึ้นเต็มใบหน้านวลของปรางค์รวี

ความรักของทั้งสี่ในที่สุดก็ได้พานพบกับความสมหวังและความสุขเสียที โดยที่เขาและเธอไม่รู้หรอกว่าความเลวร้ายไม่ได้หมดไป มันกำลังเดินทางผ่านสายลมเข้ามาปะทะร่างกายของทั้งสี่ในระยะเวลาอันใกล้นี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์รักอสูรร้าย