บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /2
และก็เป็นอย่างที่มหาเทพหวงหลงคาดการณ์ไว้ ในระยะเวลาเพียงสองเดือนครึ่ง พลังของรวี่เยว่ทะยานแตะระดับจู้จีตอนต้นเป็นที่เรียบร้อย เด็กในวัยเดียวกันไม่มีใครต่อกรกับนางได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่เด็ก ผู้ใหญ่บางคนก็เช่นเดียวกัน…
วันนี้รวี่เยว่ขอแม่นมชุน ให้พานางมาฝึกในป่าทางทิศตะวันออกของเมืองลวี่เฟิง นางอยากเห็นสัตว์อสูรตัวเป็นๆด้วยตาตนเองสักครั้ง เคยเห็นเพียงซากของพวกมันที่ถูกนำไปขายในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์อสูรระดับต่ำ
ในขณะที่กำลังเดินอยู่กับคนนำทางและนายพราน เพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบในป่าอยู่นั้น พื้นใต้เท้าของพวกเขาก็สั่นสะเทือนรุนแรง พร้อมเสียงสัตว์คำรามดังอยู่ด้านหน้าราวครึ่งลี้*
ครืน! ครืน! ครืน! ฮึมมมมมม
"เกิดอะไรขึ้น!" แม่นมชุนเอ่ยถามคนนำทาง หญิงวัยกลางคนรีบเอาตัวบังร่างเล็กของรวี่เยว่
"ดูท่าว่ามีฝูงสัตว์อสูรกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ รีบหลบกันก่อนเถอะ" คนนำทางตอบคำถามพลางกวาดตามองหาที่หลบให้ทุกคน "ตรงนั้นรีบไปกันเถอะ"
พวกเขาใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นไปหลบบนชะง่อนผา ซึ่งสามารถมองลงมาเห็นฝูงสัตว์พอดี ห่างไปไม่ไกลฝูงกระทิงเกราะสัตว์อสูรระดับห้า พวกมันมีผิวหนังบริเวณหน้าผาก ช่วงคอ อกและท้องหนาราวเกราะเหล็ก จำนวนราวสามสิบตัวกำลังวิ่งหนีสิ่งที่ไล่ล่าพวกมัน
ชั่วพริบตาต่อมากลุ่มคนชุดดำราวสิบนายปรากฏตัวขึ้น พวกเขาขี่หลังหมาป่าอสูรทมิฬสีดำตัวมหึมา พวกมันดูน่าเกรงขามจนนายพรานและคนนำทางขนอ่อนลุกไปทั้งตัว
"นั่นใช่คนของตำหนักเทพอนันต์รึเปล่า" นายพรานกระซิบถาม
"ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นใครไปได้ จะมีใครที่ควบคุมหมาป่าอสูรทมิฬพวกนี้ได้หากไม่ใช่พวกเขา" คนนำทางตอบกลับมาเสียงสั่นจากอาการประหม่า
ดวงตาของรวี่เยว่จับจ้องไปที่คนชุดดำอย่างตื่นเต้น พวกเขาใช้หมาป่าอสูรทมิฬเป็นพาหนะ นางชอบ นางอยากคุยกับพวกมัน ตัวใหญ่นุ่มฟูขนาดนั้นนอนกอดในฤดูหนาวต้องอุ่นแน่ๆ
"นุ่มฟูมากเลยเจ้าค่ะ"
“…” คนอื่นๆ
ในขณะที่รวี่เยว่และทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการได้พบเห็นคนตำหนักเทพอนันต์อยู่นั้น
"หากวันนี้ข้าเอาลูกกระทิงเกราะกลับไปไม่ได้ พวกเจ้าทุกคนก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่! ไปจับมันมาให้ข้า!!!" เสียงทรงอำนาจเอาแต่ใจของเด็กหนุ่มดังขึ้นด้านหลังชายชุดดำ พวกเขาทุกคนประสานมือก้มหัวรับคำสั่งและควบหมาป่าอสูรทมิฬติดตามไปทันที
"พะย่ะค่ะ!!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง