“จื่อซี ก่อนที่พี่ชายออกไปได้บอกหนูหรือเปล่าว่าไปหาคุณพ่อที่ไหน?” ท่านปู่ถังทำงานอย่างสุขุมมาโดยตลอด เขารู้ว่าเวลาแบบนี้ถึงแม้ว่าจะเร่งรีบ ก็ห้ามรน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือถามให้ชัดเจนว่าถังจื่อโม่ไปไหนแล้ว!!
"พี่ชายบอกว่า......" ถังจื่อซีขมวดคิ้วแน่น นึกคิดอย่างตั้งใจ จากนั้นก็พูดต่อว่า “พี่ชายบอกว่าเขาไม่ได้ไปหาคุณพ่อค่ะ เขาไปหาคนไปช่วยคุณพ่อค่ะ”
ถังจื่อซีนึกคำพูดก่อนหน้านี้ที่พี่ชายพูดออกแล้ว
“หาคนช่วยฉัน?” เย่ซือเฉินขมวดคิ้วแน่น “เขาจะไปหาคนอะไรมาช่วยฉัน?”
“เขาจะไปหาคนมาช่วย? เขาไปหาถังหลินหรือเปล่า?” นัยน์ตาของท่านย่าถังเปล่งประกายขึ้น ในเมื่อจื่อโม่จะหาคนมาช่วย งั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะหาถังหลิน
“น่าจะไม่ใช่ครับ ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่ได้โทรมาหาผมแล้วครับ หากจื่อโม่ไปหาเขา พี่ใหญ่ต้องพูดแน่นอนครับ” เย่ซือเฉินตัดการคาดเดาของท่านย่าถังทิ้งเลย
“หรือว่าระหว่างทางที่ไปหาถังหลิน......” แววตาของท่านปู่ถังกะพริบขึ้น คำพูดบางอย่างเขาไม่อยากจะพูดจริงๆ ทว่าในสถานการณ์ตอนนี้ จำเป็นจะต้องทำเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน
หากถังจื่อโม่เกิดอะไรขึ้นระหว่างทางที่ไปหาถังหลินล่ะ?
พวกเขาอย่างน้อยก็ควรจะวิเคราะห์เส้นทางหลังจากที่ถังจื่อโม่ออกจากบ้านถังก่อน
นัยน์ของเย่ซือเฉินเปล่งประกายขึ้นทันที จู่ๆเขาก็นึกเรื่องที่ถังจื่อโม่ไปองค์กรยมบาลในก่อนหน้านี้ ถังจื่อโม่บอกว่าไปหาคนมาช่วยเขา? หรือว่าไปที่องค์กรยมบาลหรือเปล่า?
ไม่ว่ายังไงแล้วถังจื่อโม่รู้ก็ว่าองค์กรยมบาลเป็นของเขา!!
เย่ซือเฉินนึกถึงสถานที่นี้แล้ว ก็รีบโทรหากู้หวู
“คุณชายครับ คุณชายครับ ช่วยด้วยครับ” พอโทรติดแล้ว เสียงของกู้หวูก็ดังผ่านมา
เย่ซือเฉินได้ยินเสียงตะโกนของกู้หวู สีหน้าที่เย็นชาของเขาเปลี่ยนแปลงทันที หรือว่าเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ?
“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงตะโกนของกู้หวูดังเกินไป ท่านย่าถังที่ยืนอยู่ข้างกายเย่ซือเฉินก็ได้ยินแล้ว ทันใดนั้นสีหน้าของท่านย่าถังก็เปลี่ยนไปเลย
ท่านปู่ถังที่สุขุมมาโดยตลอดก็เดินขึ้นมาไม่กี่ก้าว เดินไปยังตรงหน้าของเย่ซือเฉินโดยตรงเลย นัยน์ตาคู่นั้นจ้องตรงไปทางโทรศัทพ์ของเย่ซือเฉิน
เย่ซือเฉินเห็นท่าทางของท่านย่าถังและท่านปู่ถังแล้ว เขารู้ว่าเรื่องมาถึงตอนนี้ ไม่สามารถปิดบังผู้อาวุโสทั้งสองได้แล้ว ผู้อาวุโสทั้งสองก็คงจะอยากรู้เรื่องของถังจื่อโม่เช่นกัน ดังนั้น เย่ซือเฉินจึงเปิดลำโพงเลย
“คุณชาย คุณสามารถพาคุณชายน้อยกลับไปได้ไหมครับ คุณชายน้อยจะทำพวกผมบ้าตายแล้วครับ” ทว่าคำพูดต่อมาของกู้หวู ทำให้หัวใจดวงนั้นของเย่ซือเฉินวางใจลงสักที
“จื่อโม่อยู่กับนาย?” เย่ซือเฉินฟังออกจากคำพูดของกู้หวูแล้ว ทว่ายังอดถามต่ออีกไม่ได้
“ใช่ครับ คุณชายไม่รู้เหรอครับ? คุณชายน้อยบอกว่าคุณชายให้เขามาครับ” กู้หวูมีความตะลึงงันเล็กน้อย เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าถูกเจ้าเด็กถังจื่อโม่หลอกแล้ว
ท่านย่าถังได้ยินแล้วก็ถอนหายใจแรง จื่อโม่ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรเธอก็วางใจแล้ว
ท่านปู่ถังก็โล่งอกไปที เมื่อกี้ท่านปู่ถังก็ตกใจมากเช่นกัน
“ผมไปบอกคุณหนูใหญ่ก่อนนะครับ” พ่อบ้านไหวพริบดีมาก มีข่าวของคุณชายน้อยแล้ว ต้องรีบไปบอกคุณหนูใหญ่ เดี๋ยวคุณหนูใหญ่เป็นห่วง
พ่อบ้านพูดจบก็รีบวิ่งไปทางข้างนอก ขณะนี้ระยะห่างของพ่อบ้านค่อนข้างไกลจากเย่ซือเฉิน เสียงก็ไม่ดัง ดังนั้นจึงไม่ได้ยินเสียงที่กู้หวูพูดทางโทรศัพท์
“คุณชาย คุณชายน้อยบังคับให้ผมพาเขาไปหาคุณปู่เย่ครับ คุณชายว่าในสถานการณ์แบบนี้พวกเราจะกล้าพาคุณชายน้อยไปได้ยังไงครับ อีกอย่างตอนนี้คุณปู่เย่ยังอยู่ที่โรงพยาบาล ยังสลบอยู่เลยครับ” กู้หวูที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์ยังพูดเองเอยเองอยู่ กู้หวูเองก็เห็นข่าวแล้ว เขารู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้วุ่นวายมาก อีกอย่างนี่ส่งผลไม่ดีต่อคุณชายของเขา เขาไม่สามารถเพิ่มภาระให้คุณชายของตัวเองในตอนนี้ได้
“เขาจะทำอะไร ก็ให้เขาไปทำ ไม่ต้องสนว่าเขาจะทำอะไร นายให้ความร่วมมือเขาก็พอ” ในที่สุดเย่ซือเฉินก็พูดแล้ว ประโยคนี้ได้แสดงท่าทีของเขาออกมาทั้งหมด
เรื่องที่คุณปู่เย่ทำเกินไปจริงๆ ตอนนี้จื่อโม่รู้แล้ว ไม่มีทางปล่อยไปแน่ๆ สำหรับจื่อโม่แล้วถังจื่อซีและเวินลั่วฉิงเป็นคนที่สำคัญที่สุดของเขาเลย ตามนิสัยของจื่อโม่แล้วจะปล่อยให้น้องสาวและคุณแม่ของตัวเองถูกคนอื่นรังแกแบบนี้ได้ยังไง
ดังนั้นภายใต้สถานการณ์แบบนี้เย่ซือเฉินไม่มีทางห้ามถังจื่อโม่ แน่นอนว่าเย่ซือเฉินก็รู้ดี ถึงแม้ว่าเขาอยากจะห้ามถังจื่อโม่ก็ห้ามไม่อยู่ มีกู้หวูคอยตามอยู่ เย่ซือเฉินก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับจื่อโม่
ท่านปู่ถังได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉินแล้ว นัยน์คู่นั้นก็มองไปทางเย่ซือเฉินอย่างรวดเร็ว ท่านปู่ถังนั้นพอใจกับสิ่งที่เย่ซือเฉินทำมากๆ
คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ด่าทอฉิงฉิงก่อนหน้านี้ ยังแกล้งป่วยใส่ร้ายฉิงฉิง เรื่องนี้สามารถแล้วไปได้ ทว่าตอนนี้คุณปู่เย่จะส่งจื่อซีจากไป ยังจะขายฉิงฉิงไปยังเขตบนดอย ลักษณะของเรื่องนี้ก็แตกต่างกันไปสิ้นเชิงเลย ห้ามปล่อยแล้วไปเด็ดขาด
ตอนนี้ถังจื่อโม่ไปจะทวงความยุติธรรมให้จื่อซีและฉิงฉิงกับคุณปู่เย่ ท่านปู่ถังนั้นสนับสนุนเป็นอย่างมาก ท่านปู่ถังทำอะไรก็ระมัดระวังมาโดยตลอด ไม่วู่วาม ทว่าครั้งนี้ เขาต้องวู่วามสักครั้ง
ขณะนี้เวินลั่วฉิงยืนอยู่ที่นอกห้องรับแขก เธอมาตั้งแต่แรกแล้ว ได้ยินพ่อบ้านบอกว่าหาจื่อโม่เจอแล้ว ในที่สุดเธอก็วางใจ ดังนั้นจึงรีบวิ่งมาถามสถานการณ์ ทว่าคิดไม่ถึงว่าพึ่งมาถึงหน้าห้องรับแขกก็ได้ยินกู้หวูบอกว่าคุณปู่เย่จะส่งจื่อซีจากไป ยังจะนำเธอไปขายที่เขตบนดอยอีกด้วย
ในตอนที่เวินลั่วฉิงได้ยินประโยคนี้เธอตะลึงงันไปเลย ทันใดนั้นก้าวเท้าก็หยุดเดิน จากนั้นตอนที่ดึงสติกลับมาได้ เธอนึกได้ไม่ว่ายังไงแล้วเรื่องนี้คุณปู่เย่ก็เป็นคนทำ หากเธอเข้าไปในเวลานี้ ต้องทำให้เย่ซือเฉินทำตัวไม่ถูกแน่นอน ดังนั้นจึงไม่ได้เข้าไป
“คุณชายครับ จะให้คุณชายน้อยไปจริงๆเหรอครับ? ตอนนี้คุณปู่เย่อยู่ที่โรงพยาบาลนะครับ อีกอย่างยังสลบด้วยครับ” กู้หวูที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์มีความตกใจเล็กน้อย ให้คุณชายน้อยไปหาคุณปู่เย่? ด้วยพลังการทำลายของคุณชายน้อย ผลที่ตามมากู้หวูไม่กล้าคิดเลย
ไม่ว่าคุณปู่เย่จะเป็นลมจริงหรือแกล้งเป็นลม คุณชายน้อยไปแล้วเกรงว่าจะทรมานครึ่งชีวิตของคุณปู่เย่ได้เลย
คุณชายน้อยคนนี้ทรมานคนเก่งจริงๆ เขาก็แค่มัดตัวคุณชายน้อยผิด ไม่ได้ทำอะไรคุณชายน้อยเลย ก็ถูกคุณชายน้อยทรมานขนาดนี้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...