ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 1253

จากนั้นท่านย่าถังก็นึกอะไรบางอย่างออก “นายบอกว่ากู่หยูจะมา? ครั้งที่แล้วที่นายไม่สบาย ฉันเชิญเขามา เขายังไม่มาเลย ยังให้เราส่งนายไปที่โรงพยาบาลอีก ตอนนี้เขาจะมาด้วยตัวเองเหรอ?”

เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าท่านย่าถังไม่ค่อยเชื่อในจุดนี้ นิสัยแย่ๆ ของกู่หยูเธอเองก็เคยพบเจอมาแล้ว

“ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ฉันว่านะ ต่อจากนั้นเขาคงจะมาบ้านถังเราบ่อยๆแล้วแหละ” มุมปากของท่านปู่ถังมีรอยยิ้มเพิ่มขึ้น รอยยิ้มนั้นมีความหมายที่ลึกซึ้ง

“ทำไมเหรอ? ทำไมเขาถึงต้องมาบ้านถังเราบ่อยๆ? บ้านถังเราไม่ได้มีคนป่วยนิ ไม่ต้องการเขา ตอนที่ต้องการเขา เชิญเขามาเขาไม่มา ตอนนี้ไม่มีคนป่วย เขามาทำอะไร?” ท่านย่าถังพึมพำอย่างเย็นชาไปที แน่นอนว่าประโยคนี้เธอก็แค่พูดเล่นๆ ไม่ว่ายังไงแล้วหากกู่หยูมาจริงๆ ท่านย่าถังก็ไม่มีทางไล่คนออกไป

เวินลั่วฉิงฟังประโยคสนทนาของท่านปู่ถังและท่านย่าถังแล้ว นัยน์ตาคู่หนึ่งก็เปล่งประกายขึ้น

“คุณปู่กู่คนนั้นชอบพี่ชายค่ะ ชอบพี่ชายแบบมากๆเลยค่ะ หนูดูออก” ถังจื่อซีที่เงียบมากๆ เปิดปากพูดขึ้นกะทันหัน

“จื่อซีลูกรักของบ้านเรารู้ได้ไงเนี่ย?” ท่านย่าถังตะลึงงัน รีบหันไปมองถังจื่อซี

“เพราะว่าตอนที่เขามองพี่ชายดวงตาจะมีแสงสว่างค่ะ เหมือนกับ......” ถังจื่อซีคิดไปคิดมา จากนั้นก็นึกถึงประโยคการเปรียบเทียบที่เหมาะสมที่สุด “เหมือนกับเห็นหลาน แท้ๆ ของตัวเองเลยค่ะ”

“ใช่เหรอ?” นัยน์ตาของท่านย่าถังเปล่งประกายขึ้น เธอเองก็เห็นว่ากู่หยูเป็นมิตรกับจื่อโม่บ้านเธอมากๆ ทว่าดวงตามีแสงสว่าง เหมือนเห็นหลานแท้ๆ ของตัวเอง ประโยคนี้เกินไปหรือเปล่า

“มีค่ะ คุณย่าทวด จริงๆนะคะ” ถังจื่อซีพยักหน้าอย่างจริงจัง เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจ้าเด็กถังจื่อซียืนหยัดในการสิเคราะห์ของตัวเองมาก

“การสังเกตของจื่อซีดีมาก อายุน้อยแค่นี้เอง สุดยอดมากจริงๆ” ท่านปู่ถังมองไปทางถังจื่อซีด้วยความชื่นชม ท่านปู่ถังรู้สึกว่าการพูดของถังจื่อซีถูกต้องมากๆ การเปรียบเทียบก็ถูกต้อง!

ทว่ากู่หยูนั้นไม่ได้มีหลานแท้ๆ จนถึงตอนนี้กู่หยูก็ยังโสด แม้กระทั่งภรรยาก็ไม่มี ไม่มีลูกชาย พวกหลานๆ ยิ่งเป็นไปไม่ได้

“หมายความว่าอะไร? กู่หยูอยากทำอะไร?” ท่านย่าถังได้ยินคำพูดของท่านปู่ถังแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปเลย “จื่อโม่เป็นคนบ้านถังของเรานะ”

“ถึงแม้ว่ากู่หยูอยากทำอะไรจริงๆ ก็ต้องผ่านความเห็นของจื่อโม่ก่อนอยู่แล้ว บ้านถังของเราเคารพในการตัดสินใจของเด็กๆ มาโดยตลอด” ท่านปู่ถังเห็นว่าท่านย่าถังเริ่มกระวนกระวาย ก็รีบปลอบใจเธอ

ท่านย่าถังมองไปทางท่านปู่ถัง กะพริบตาเบาๆ จื่อโม่บ้านเธอช่างเป็นที่รักของทุกคนจริงๆสินะ?!

จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่ามีผู้คนมากมายจะมาแย่งเด็กน้อยจื่อโม่กับเธอ!!

“จื่อโม่คือเด็กของบ้านถังพวกเรา คือตลอดไป” ท่านปู่ถังมองออกว่าท่าย่าถังคิดอะไรอยู่ หันไปมองเธอด้วยรอยยิ้ม

ความคิดของท่านย่าถังถูกท่านปู่ถังมองออกแล้วกลับมีความทำตัวไม่ถูก

“ตอนนี้จื่อโม่เปิดโปงได้แล้วว่าคุณปู่เย่เสแสร้งอยู่ ตอนนี้ชาวเน็ตคงจะไม่ด่าเย่ซือเฉินอีกแล้วมั้ง?” ท่านย่าถังแทรกหัวข้อการคุยใหม่ ก่อนหน้านี้คำพูดที่ด่าเย่ซือเฉินบนอินเทอร์เน็ตเธอเองก็เห็นบ้างแล้ว ตอนนั้นคำด่าอะไรก็มีหมด เธอเองก็มองต่อไปไม่ไหวแล้ว

“นายท่านครับ มีคนด่าคุณชายสามเย่แล้วครับ ต่างก็กำลังด่าว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ครับ” พ่อบ้านรีบตอบกลับ ถึงแม้วว่าพ่อบ้านจะอายุมากแล้ว ทว่าเล่นโทรศัพท์ได้ลื่นไหนมาก

“จริงเหรอ? งั้นก็ดีแล้ว งั้นก็ดีแล้ว” ท่านย่าถังโล่งอกไปที ขอแค่ไม่ด่าเจ้าเด็กซือเฉินนี้ต่อก็ดีแล้ว เจ้าเด็กซือเฉินนี้ก็น่าสงสารจริงๆ

“ชาวเน็ตบนโซเชี่ยวต่างก็กำลังชมคุณชายน้อย ต่างก็อยากรู้ฐานะของคุณชายน้อย” พ่อบ้านเห็นท่านย่าถังดีใจ จึงพูดเพิ่มอีกไม่กี่ประโยค “คอมเมนต์บนอินเทอร์เน็ตตอนนี้ครื้นเครงมากครับ”

“ตอนนี้ซือเฉินได้เปิดงานแถลงข่าวตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว งั้นเรื่องที่คุณปู่เย่กำหนดงานแต่งกับองค์กรโกสต์ซิตี้เย่ซือเฉินก็ไม่ต้องสนใจแล้ว งั้นเรื่องของเย่ซือเฉินกับฉิงฉิงก็ควรจะจัดแล้วใช่ไหม ยังมีเด็กอีกสองคน ซือเฉินกับฉิงฉิงอยู่ด้วยกันแล้ว ฐานะจองเด็กทั้งสองก็สามารถเปิดเผยได้แล้ว พอถึงเวลาก็สามารถให้ฐานะอย่างโจ่งแจ้งกับเด็กทั้งสองได้แล้ว” ท่านย่าถังเป็นพวกที่ปกป้องคนในบ้านตัวเองมากๆ จะไม่ยอมให้เด็กในบ้านของตัวเองลำบากใจแม้แต่นิดเลย

เมื่อก่อนเรื่องของฉิงฉิงและซือเฉินยังจัดการไม่หมด ฐานะของเด็กก็ไม่ดีที่จะเปิดเผย สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ขอแค่ฉิงฉิงกับซือเฉินอยู่ด้วยกัน เด็กๆ ก็จะมีฐานะที่โจ่งแจ้ง

“แล้วก็ฐานะของฉิงฉิง พวกเราก็ควรจะรีบเปิดเผยได้แล้ว และให้ทุกคนเห็นหน้าตาที่แท้จริงของฉิงฉิงบ้าเรา เปิดตาสว่างให้พวกเขา” เห็นได้อย่างชัดเจนเลย ท่านย่าถังก็ยังไม่พอใจกับคอมเมนต์บนอินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวกับเวินลั่วฉิง

เมื่อกี้ฉิงฉิงบอกว่าคอมเมนต์ที่เกี่ยวกับฉิงฉิงนั้นค่อนข้างน้อย ทว่าถึงแม้ว่าจะน้อยก็ไม่ได้ ต่อจากนี้คอมเมนต์น้อยๆก็ห้ามเกิดขึ้นอีก

ฉิงฉิงบ้านเธอเพอร์เฟกต์ขนาดนั้น เก่งขนาดนั้น มีสิทธิ์อะไรมาถูกคนอื่นพูดเป็นสภาพแบบนั้น

แล้วก็ก่อนหน้านี้คำพูดพวกนั้นที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ดูถูกฉิงฉิงบ้านเธอ เธอจะให้คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ดูว่า ฉิงฉิงเป็นเด็กของบ้านถัง เธอจะลองดูว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ยังกล้ารังแกฉิงฉิงอยู่หรือเปล่า?

“เราหาโอกาสหนึ่ง เปิดเผยฐานะของฉิงฉิง เปิดเผยฐานะของเด็ก อีกอย่างเรื่องนี้ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี” ท่านย่าถังเป็นคนที่นิสัยรีบร้อนมาโดยตลอด เธอนึกถึงเรื่องนี้แล้ว ก็ต้องรีบไปทำ เธอไม่ยอมให้เด็กๆ ลำบากใจต่อไปแล้ว!!

“ซือเฉิน นายว่ายังไงล่ะ?” ท่านปู่ถังได้ยินคำพูดของท่าย่าถังแล้ว นัยน์ตาก็เปล่งประกายขึ้น ไม่ได้รีบพูดความเห็นอะไร กลับถามความคิดของเย่ซือเฉิน

ไม่ว่ายังไงแล้วนี่ก็เป็นเรื่องของเย่ซือเฉิน ลูกก็เป็นของเย่ซือเฉิน ถึงแม้ว่าเขาเองก็เห็นด้วยกับความเห็นของท่านย่าถัง ทว่าก็ยังต้องได้รับการยอมรับจากเย่ซือเฉินก่อน

วันนี้เย่ซือเฉินพึ่งเปิดงานแถลงข่าวตัดความสัมพันธ์จากตระกูลเย่ ถึงแม้ว่าจื่อโม่จะเปิดโปงแล้วว่าคุณปู่เย่เสแสร้งอยู่ ทว่าตอนนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีอันตรายต่อเย่ซือเฉิน

เวลาแบบนี้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆได้ อีกอย่างคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ก็ไม่มีทางเงียบสงบแน่ๆ มีความเป็นไปได้ที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่จะใช้สถานการณ์ใดๆมาสร้างความลำบากให้กับเย่ซือเฉินได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน