“มีบางคนที่ใช้เวลาทั้งชีวิตไปเรียนรู้บางอย่างก็มีความเป็นไปได้ที่เรียนไม่เข้าใจเลย บางคนใช้เวลาไม่กี่ปีไปเรียนรู้บางอย่าง ขอแค่ตั้งใจก็สามารถเรียนเข้าใจได้ค่ะ” ถังจื่อซีมองไปทางคุณปู่กู่ นัยน์ตาคู่หนึ่งเหมือนมองจิตใจคนออก!!
เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าถังจื่อซีมองความในใจของคุณปู่กู่ออกแล้ว
คุณปู่กู่ตะลึงงันไปเลย นัยน์ตาคู่หนึ่งจ้องตรงไปทางถังจื่อซี เจ้าเด็กนี่อายุแค่ห้าขวบจริงๆเหรอ?
เจ้าเด็กนี่ฉลาดเกินไปแล้ว จู่ๆคุณปู่กู่ก็เปลี่ยนความคิดของตัวเอง ไม่แน่เจ้าเด็กผู้หญิงนี่หาเวลามาเรียน ก็สามารถเรียนแพทย์แผนจีนได้ดีแน่นอน
ก็เหมือนกับที่เจ้าเด็กผู้หญิงนี่พูด หลักสำคัญคือความตั้งใจ
“จื่อซี คุณแม่เคยบอกว่าไม่ว่าทำอะไรความตั้งใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ทว่าจะทุกเรื่องให้ดีก็จะต้องใช้สติปัญญาและความพยายามมากเช่นกัน แพทย์แผนจีนนั้นเนื้อหาลึกมาก จะเรียนแพทย์แผนจีนให้ดีจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก และสติปัญญามากมาย ห้ามยอมแพ้กลางทางเด็ดขาด” เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าถังจื่อซีมองกว่าแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องที่ง่ายเกินไปแล้ว อีกอย่างอาจารย์กู่ก็ตั้งใจที่จะรับลูกศิษย์จากใจจริง หากท่าทีแบบนี้ของถังจื่อซี ถังจื่อซีเรียนไม่รู้เรื่องถือเป็นเรื่องเล็ก แต่เสียเวลาของอาจารย์กู่ เสียเวลาการทำงานของอาจารย์กู่แบบนั้นก็ไม่ดีแล้ว
ถังจื่อซีหันไปมองเวินลั่วฉิง กำลังจะเอ่ยปากพูด
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เอาตามที่จื่อซีอบอกเลย ฉันรู้สึกว่าได้ โอเคเลย” ทว่าอาจารย์กู่กลับเอ่ยพูดขึ้นมาก่อน อาจจะเป็นเป็นห่วงว่าถังจื่อซีจะเปลี่ยนใจเพราะคำพูดของเวินลั่วฉิง ไม่ง่ายเลยกว่าเขาเจอจะเจอเด็กๆ ฉลาดแบบนี้ ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด
“อาจารย์กู่คะ หนูเกรงว่าจะเสียเวลาท่านเอาค่ะ” เวินลั่วฉิงกลับคิดไม่ถึงว่าอาจารย์กู่จะเห็นด้วยกับความคิดของถังจื่อซี ทว่าเธอเองก็รู้ว่าอาจารย์กู่ยุ่งมาก ได้ข่าวว่ามีผู้ป่วยมานัดเป็นแถวเลย
“เวลาของฉันไม่มีปัญหา สามารถรักษาผู้ป่วยน้อยลงได้ ไม่มีเรื่องอะไรสำคัญเท่าการรับลูกศิษย์ของฉันแล้ว ฉันผ่านมาจะครึ่งชีวิตแล้ว ยังจะสามารถรักษาผู้ป่วยได้อีกสักกี่คนกัน ดังนั้น สอนลูกศิษย์ให้ดีต่างหากเป็นเรื่องจำเป็นของฉัน” คำพูดนี้ของอาจารย์กู่ทำเอาเวินลั่วฉิงพูดไม่ออกเลย เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
คุณชายสองโจ๋วเงยหน้าขึ้นมองคุณปู่กู่ สีหน้ามีความแปลกใจเล็กน้อย คุณชายสองโจ๋วรู้สึกว่าวันนี้เขาต้องเจอคุณปู่กู่ตัวปลอมแน่นอน คุณปู่กู่คนนี้ทำอะไรก็รอบคอบมาโดยตลอด โดยเฉพาะด้านการแพทย์ เป็นเรื่องที่ไม่ยอมให้ทำเสร็จไปทีแน่นอน ห้ามปล่อยเลยแม้แต่นิด วันนี้คุณปู่กู่กลับยอมรับเงื่อนไขแบบนี้ของเจ้าเด็กจื่อซี ดูเหมือนว่าคุณปู่กู่จะชอบเจ้าเด็กจื่อซีมากๆ
ขณะนี้ในโรงพยาบาล ไม่ง่ายเลยกว่าคุณย่าเย่จะไล่นักข่าวทุกคนกลับมา ตอนนี้ท่าทีที่นักข่าวมีต่อคุณย่าเย่ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ก่อนหน้านี้นักข่าวยังเห็นแก่ตระกูลเย่ ยังเห็นแก่คุณย่าเย่ ไม่กล้าพูดอะไรมั่ว ไม่กล้าถามอะไรมั่ว และไม่กล้าทำอะไรมั่วๆ
ทว่าตอนนี้ถังจื่อโม่เปิดโปงความเสแสร้งของคุณปู่เย่แล้ว คุณปู่เย่และคุณย่าเย่วางแผนแสดงละครเพื่อใส่ร้ายเย่ซือเฉิน โกหกทุกคน ตอนนี้ชาวเน็ตต่างก็กำลังด่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่
ภาพลักษณ์ที่คุณย่าเย่รักษามาแตกสลายไปหมดแล้ว สามารถพูดได้เลยว่าเสียชื่อเสียงไปหมดแล้ว
คุณปู่เย่นอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา ดังนั้นไม่ได้ถูกนักข่าวถาม ทว่านี่ก็ทำให้ทุกคนไม่พอใจกับคุณปู่เย่
คุณปู่เย่แกล้งเป็นลมใส่ร้ายคุณชายสามเย่ ถูกเปิดโปงแล้วก็ยังเสแสร้งอยู่ ยังนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเหมือนเดิม นี่ก็หน้าด้านเกินไปแล้ว คิดว่าคนอื่นโง่กันเหรอ?
หุ้นส่วนส่วนใหญ่ของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปต่างก็อยู่ในมือของคุณปู่เย่ ตอนนี้เกิดเรื่องไม่ดีแบบนี้ขึ้นกับคุณปู่เย่ บวกกับคุณชายสามเย่ได้ประกาศแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปอีก หุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปก็ตกไม่น้อยเลย ยังมีแนวโน้มที่จะตกเรื่อยๆอีก เกรงว่าพรุ่งนี้น่าจะตกเยอะกว่านี้
“หากเขาเป็นลูกของซือเฉินจริงๆ งั้นเวินลั่วฉิงก็เป็นคนคลอด ไม่แน่เรื่องในวันนี้ก็เป็นเวินลั่วฉิงนั่นแหละที่สั่งให้เด็กนั่นมาสร้างความวุ่นวาย” คุณย่าเย่ฟังการวิเคราะห์จากคุณปู่เย่แล้ว ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ จริงๆ แล้วในใจของเธอก็มีความคิดนี้
แต่ว่าหากเป็นลูกของซือเฉินและเวินลั่วฉิงจริงๆ คุณย่าเย่รู้สึกว่าเรื่องในวันนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิงแน่นอน
“ไม่ว่าเวินลั่วฉิงจะส่งเขามาหรือเปล่า ตอนที่เขาอยู่ที่โรงพยาบาล เขาควบคุมการดำเนินเรื่องด้วยตัวเองคนเดียว ไม่ได้รับการแนะนำจากใคร ดังนั้นนั่นเป็นความสามารถของเขาเอง” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจุดสนใจของคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ไม่เหมือนกัน คุณปู่เย่ในขณะนี้คิดแต่ปัญหาเรื่องความสามารถของถังจื่อโม่
“หากเขาเป็นลูกของซือเฉินจริงๆ นายจะทำยังไง?” ในที่สุดคุณย่าเย่ก็เข้าใจความหมายของคุณปู่เย่แล้ว เธอมองไปทางคุณปู่เย่ สีหน้ามีความสับสนเล็กน้อย
“หากเขาเป็นลูกของซือเฉินจริงๆ แน่นอนว่าต้องกลับตระกูลเย่ ฉันจะดูแลสั่งสอนเขาให้ดี ต่อมาให้เขาดูแลบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป เขาจะต้องพัฒนาบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้ใหญ่โตขึ้นแน่นอน” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า นี่คือเรื่องที่คุณปู่เย่คิดอยู่ตลอดเวลา แต่ว่า คุณปู่เย่เหมือนจะลืมไปแล้วว่า เย่ซือเฉินตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว แน่นอนว่าลูกของเย่ซือเฉินไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเย่ ยังไม่ถึงตาให้เขามาดูแลสั่งสอน
“เจ้าเด็กนี่อบรมสั่นสองยาก นายไม่กลัวว่าจะเป็นการชักศึกเข้าบ้านเหรอ” นัยน์ตาของคุณย่าเย่เปล่งประกายขึ้นทันที สำหรับคำแนะนำนี้ของคุณปู่เย่ เธอรีบปฏิเสธทันที เธอไม่ชอบเด็กคนนั้นจริงๆ
“วางใจได้ ฉันมีวิธีสั่งสอนเขาอยู่แล้ว ตอนนั้นซือเฉินก็ไม่เชื่อฟังเหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องเข้าบริษัท พัฒนาบริษัทได้ดีขนาดนี้” คุณปู่เย่หัวเราะ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีความมั่นใจมาก “อีกอย่างเจ้าเด็กนี่ยังอายุน้อย ขอแค่นำมาอยู่ข้างกาย ควบคุมไม่ยาก”
“นายลืมเรื่องงานแต่งที่เรากำหนดกับองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้แล้วเหรอ หากองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้รู้ว่าเย่ซือเฉินมีลูกคนนี้ นายคิดว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง!” คุณย่าเย่ขมวดคิ้วขึ้น เธอรู้จักคุณปู่เย่ดี!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...