ถังหลินไม่ใช่ไม่เชื่อข้อวินิจฉัยของเย่ซือเฉิน แต่เป็นเพราะเขานึกบุคคลอย่างที่เย่ซือเฉินว่าไม่ออก
“เมื่อกี้ผมโทรหาโจ๋วชิงกับด๊อกเตอร์กู่แล้ว พวกเขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครสักคน ดังนั้นต้องไม่มีใครรู้แน่นอน นอกจากตระกูลถังของพวกเราโดนคนจับตามอง แล้วแอบดักฟังคำพูดของพวกเราด้วยอุปกรณ์”ถังหลินเชื่อมั่นในคุณธรรมประจำใจของโจ๋วชิงกับด๊อกเตอร์กู่ ดังนั้น เขายิ่งรู้สึกว่ามีคนแอบดักฟังคำพูดของพวกเขาอย่างไม่รู้ตัว!
“ถูกดักฟัง?”สีหน้าถังหยุนเฉิงเปลี่ยน“พ่อจะส่งคนไปสืบเดี๋ยวนี้”
“มีความเป็นไปได้น้อยที่จะถูกดักฟัง ช่วงนี้นอกจากมีคุณชายสองโจ๋วกับด๊อกเตอร์กู่มาบ้านตระกูลถังของพวกเราก็ไม่มีคนนอกอีก และไม่มีทางซ่อนอุปกรณ์ดักฟังบนตัวพวกเราด้วย ตัวจื่อโม่ก็ไม่มี หนูเป็นคนเก็บของจื่อโม่เมื่อวานค่ะ”เวินลั่วฉิงรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่จะถูกดักฟัง บ้านตระกูลถังไม่ใช่จะเข้าออกได้ง่าย อยากแอบวางอุปกรณ์ดักฟังในบ้านนั้นยากยิ่งกว่ายากเสียอีก
และช่วงนี้พวกเขาระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ตั้งใจสังเกตกว่าปกติ ไม่มีใครติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังบนตัวพวกเขาโดยไม่รู้ตัวได้
ทว่า ถึงจะเป็นเช่นนั้น เวินลั่วฉิง ถังหลินและเย่ซือเฉินก็เริ่มตรวจสอบหนึ่งรอบ ถังหยุนเฉิงบอกว่าจะหาผู้เชี่ยวชาญมา แต่มันเสียเวลาเกินไป และผู้เชี่ยวชาญก็ไม่ได้เก่งไปกว่าเวินลั่วฉิงเลย
พวกเขาตรวจดูตามห้องโถง นอกประตู และบันได ซึ่งไม่พบอุปกรณ์ดักฟังแต่อย่างใด
“บนตัวด๊อกเตอร์กู่ล่ะ?บนตัวโจ๋วชิงล่ะ?”ถังหลินเห็นด้วยกับเวินลั่วฉิง เมื่อพวกเขาไม่มีทางโดนติดตั้งอุปกรณ์ดักฟัง แล้วอีกสองคนที่มาที่บ้านเมื่อวานล่ะ?
โจ๋วชิงเป็นหมอ สนใจแต่เรื่องการแพทย์ตั้งแต่เด็ก จึงไม่ตื่นตัวกับเรื่องอื่นเหมือนพวกเขา ดังนั้นอาจถูกคนอื่นวางอุปกรณ์ดักฟังก็ได้
ทว่า ถึงแม้โจ๋วชิงจะไม่ระวังสูงเท่าพวกเขา แต่โจ๋วชิงไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญา ทางกลับกันเขานั้นฉลาดปราดเปรื่องมาก ดังนั้นคนแปลกหน้าอยากใส่อะไรบนตัวเขานั้นยาก ดังนั้น หากถูกติดอุปกรณ์ดักฟังบนตัวโจ๋วชิงจริง นั่นต้องเป็นคนสนิทของโจ๋วชิง หรือเป็นที่เชื่อใจของโจ๋วชิง
และด๊อกเตอร์กู่ก็มีหลักการเดียวกัน
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของถังหลินก็ไม่ได้ส่งเสียงไปชั่วขณะ สิ่งที่ถังหลินวิเคราะห์นั้นมีความเป็นไปได้สูง เมื่อวานทั้งสองไปช่วยถังจื่อโม่ที่โรงพยาบาล จากนั้นก็มาที่บ้านตระกูลถัง
ประเด็นสำคัญจุดหนึ่งก็คือ มีการถ่ายทอดสดตอนถังจื่อโม่อยู่ในโรงพยาบาล และถังจื่อโม่ก็โทรบอกถังหลินให้เชิญคุณชายสองโจ๋วกับด๊อกเตอร์กู่มา ดังนั้นหากคนนั้นดูการถ่ายทอดสดก็ต้องรู้ว่าคุณชายสองโจ๋วกับด๊อกเตอร์กู่ต้องไปที่โรงพยาบาล
ดังนั้นจึงแอบวางอุปกรณ์ดักฟังบนตัวพวกเขาล่วงหน้า มันมีความเป็นไปได้สูงจริงๆ
“แล้วลูกคิดว่าเป็นด๊อกเตอร์กู่หรือโจ๋วชิง?”ถังหยุนเฉิงเห็นด้วยกับความคิดของถังหลิน เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครโดนวางอุปกรณ์ดักฟังจริงๆ ปัญหานี้คือกุญแจสำคัญ
“ระหว่างที่คุณออกจากห้องทำงานไปที่ห้องรักษาตัวของคุณปู่เย่ มีคนแตะตัวคุณไหมครับ?”ถังหลินยังคงไม่วางใจ มีคนแกล้งไม่ระวังสัมผัสกับด๊อกเตอร์กู่หรือเลป่า จากนั้นก็แอบวางอุปกรณ์ไว้ที่ตัวของด๊อกเตอร์กู่?
“ไม่มี ไม่มีคนแตะตัวผมเลย”ด๊อกเตอร์กู่ตอบอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เขาหยุดพูดชั่วอึดใจ ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่ตอนที่ผมถึงโรงพยาบาลตี้อี หมอในโรงพยาบาลนั้นมาล้อมตัวผม พวกเขาตามผมไปถึงห้องคนไข้ ดังนั้นระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้น ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะคนเยอะมาก ถึงแม้พวกเขาไม่ได้แตะตัวผม แต่ก็มีหลายคนอยู่ใกล้ผมมาก”
สถานการณ์ตอนนั้นเขาก็รู้สึกหงุดหงิด ไล่คนพวกนั้นไปเท่าไหร่ก็ไม่ยอม เขาไม่มีทางเลือกจริงๆ
ถังหลินได้ยินคำพูดของด๊อกเตอร์กู่ พลางกะพริบตารัวๆ“ด๊อกเตอร์กู่คุณตรวจดูเสื้อผ้ากับของที่คุณใช้เมื่อวานว่ามีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่าครับ?”
ถังหลินรู้สึกว่าระหว่างประตูทางเข้าโรงพยาบาลถึงห้องคนไข้ ตอนนั้นมีคนล้อมด๊อกเตอร์กู่มากมาย หากมีคนอยากลงมือก็ถือว่ามีโอกาส
ตอนนั้นด๊อกเตอร์กู่ต้องรู้สึกรำคาญ ดังนั้นความระวังตัวจึงลดลง พบสิ่งผิดปกติได้ยาก
ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะโดนลงมือตอนนั้น!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...