ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 135

ตอนที่ 135 คุณชายสามเย่หึงหวงแล้ว (2)

“บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปของพวกคุณหมายความว่าอะไรกัน？ไม่ใช่ว่าแขวนหัวแกะแล้วขายเนื้อหมานะ อยากจะใช้วิธีนี้หลอกเอาภาพออกแบบใช่ไหม？”ฉู่หลิงเอ๋อรู้ว่าเธอไม่สามารถวาดภาพออกแบบออกมาได้ แต่ก็ต้องไม่ให้หลุดข้อบกพร่องของเธอออกมา

ดังนั้นเธอจำเป็นต้องคุมเกมไว้ก่อน พูดตามหลักการเข้าไว้

ฉู่หลิงเอ๋อถนัดนักกับการพูดโต้ด้วยฝีปากที่แรงกล้าจนสามารถชนะในสถานการณ์ที่วุ่นวายได้

“เอะอะโวยวายแสร้งทำเป็นเก่งกาจโอ้อวด อยากจะปิดบังอะไรไม่ทราบครับ？”แต่ว่าเย่ซือเฉินสามารถมองทะลุปรุโปร่งในความคิดของเธอได้ในชั่วขณะเดียว ประโยคเดียวก็สามารถจี้จุดได้แล้ว

ฉู่หลิงเอ๋อตัวแข็งทื่อถูกเย่ซื่อเฉินจับได้เข้าเสียแล้ว โอ้！ ทำไม่ต้องถึงขนาดนี้ด้วย！

“ฉันจะมีอะไรให้ปิดบังล่ะ เห็นชัดๆว่าบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปมีจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์ใจ”ถึงแม้ในใจของฉู่หลิงเอ๋อจะรู้สึกผิด แต่รู้ว่าตอนนี้จะมากลัวอะไรมิได้

เรื่องนี้ ฉิงฉิงของเธอเคยสอนเธอแล้ว

“ใครจะไปรู้ว่าบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปจะมีแผนการลับอะไร ฉันจะไม่ขอเล่นด้วยอีก”แค่พบกันไม่กี่นาทีฉู่หลิงเอ๋อก็รับรู้ว่าเย่ซือเฉินเป็นคนมีเลห์เหลี่ยมมาก เธอกลัวจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่ซือเฉิน ดังนั้นสามสิบหกกลยุทธ์ การไปคือวิธีที่ดีที่ฉลาดสุด

“วันนี้คุณเสมือนเป็นตัวแทนของบริษัทเวินซื่อกรุ้ป ประธานของคุณน่าจะเคยบอกฐานะตอนนี้ของบริษัทแล้วนะ ถ้าหากเป็นเพราะคุณ บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปไม่ร่วมลงทุน……”เย่ซื่อเฉินไม่ได้ขวางเธอไว้ แต่หรี่ตามองด้วยแสงที่มืดมน

“เชอะ คุณไม่ลงทุนก็จะมีคนอื่นมาลงทุนด้วยอยู่แล้ว！”ปกติฉู่หลิงเอ๋อเกลียดการโดนข่มขู่มากที่สุด พอได้ยินเย่ซือเฉินพูดก็โมโหขึ้นมาทันทีเธอหยุดเดินแล้วรีบหันไปมองเย่ซือเฉิน“มู่หรงดัวหยางจะกลับมาสานต่อธุรกิจของตระกูลแล้ว ใครสนคุณ และอีกอย่างแค่เสน่ห์ของฉิงฉิง ขอแค่เธออยาก……”

ฉู่หลิงเอ๋อพูดได้มาครึ่งทางก็รู้ตัวว่าเธอพูดผิดไปแล้วด้วยความใจร้อน

ฉู่หลิงเอ๋อหยุดชะงัก

OMG！

เธอโดนกับดักของเย่ซือเฉินแล้วหรือ？เกือบจะพูดออกไปแล้วเชียว

ปกติเธอโดนเวินลั่วฉิงก็ไม่เป็นอะไร เพราะเวินลั่วฉิงเป็นนักจิตวิทยา เธอทนได้

แต่ว่าตอนนี้เธอกลับโดนกับดักของเย่ซือเฉินเข้า？

อย่างที่เขาพูดไม่มีผิด คนที่อยู่ด้วยกันมักมีลักษณะนิสัยแบบคล้ายคลึงกันสามีภรรยาคู่นี้ต่างคนต่างมีเจ้าเล่ห์ไม่แพ้กัน

ดวงตาส่วนลึกของเย่ซือเฉินซุกซ่อนรอยยิ้มไว้ ถึงแม้ฉู่หลิงเอ๋อจะพูดไม่หมด แต่ผลแค่นี้เขาก็พอใจเป็นอย่างมากแล้ว

“คุณฉู่ ดูเหมือนว่าคุณกับประธานของคุณมีความสัมพันธ์ดีจังนะครับ”เลขาหลิวเข้าใจความคิดของประธานของตนดี เลขาหลิวคิดว่าจะช่วยเขาสอบถามเรื่องของคุณนายของเธอ

เรื่องเมื่อกี้ทำให้เลขาหลิวรู้ว่าอยากรู้เรื่องราวจากปากของฉู่หลิงเอ๋อนั้นเป็นเรื่องง่าย

ฉู่หลิงเอ๋อกำลังปวดหัวกับความรีบร้อนของตน ได้ยินเลขาหลิวพูด ดวงตากะพริบแล้วยิ้ม

“ความสัมพันธ์ฉันกับรุ่นน้องดีแน่นอน พวกเราเล่นด้วยกันทุกวัน กินนอนด้วยกัน และนอนใต้ผ้าห่มเดียวกันทุกวัน ฉันนอนกอดรุ่นน้องทุกคืน ผิวของรุ่นน้องนั้นเรียกว่า เนียบ หุ่นของรุ่นน้องนั้นเรียกว่า ดี ความรู้สึกที่กอดรุ่นน้องนอนนั้นเรียกว่า สดชื่น？”

หลังจากที่เสียหน้า อย่างน้อยเธอก็ต้องเอาศักดิ์ศรีคืนกลับมาหน่อย เย่ซือเฉินหลอกถามเธอ เธอก็จะเอาคืนเย่ซือเฉินเป็น‘ของขวัญตอบแทน’เหมือนกัน

ดังนั้น คำพูดนี้ฉู่หลิงเอ๋อจงใจจะพูดให้คุณชายสามเย่ฟัง ฉู่หลิงเอ๋อยังยักคิ้วท้าทายเย่ซือเฉินอีกด้วย

เลขาหลิวทึ้งกับสิ่งที่เห็น รู้สึกว่ามีความวุ่นวายเอาการ ฉู่หลิงเอ๋อช่างกล้าพูด พูดได้แบบ……

นั่นมันภรรยาของประธานของเขานะ ถึงแม้คุณฉู่จะเป็นผู้หญิง แต่ความรู้สึกนี้ก็ไม่สู้ดีนัก

ทุกเสี้ยววินาทีที่คุณฉู่ร้องเพลงมันเสี่ยงต่อชีวิตมาก เธออยากจะอยู่ต่ออีกหลาย

เป้าหมายของเย่ซือเฉินได้บรรลุแล้ว แน่นอนว่าจะไม่อยู่รอฟังฉู่หลิงเอ๋อร้องเพลงต่อ เขาก็ก้าวเท้าเดินออกไปข้างนอกด้วยเหมือนกัน

“คุณชายเย่ ไปแล้วหรอค่ะ？ฉันยังร้องเพลงไม่จบเลย”ฉู่หลิงเอ๋อยิ้มอย่างได้ใจ ทนไม่ไหวผิวปากขึ้นมา

เลขาหลิวหายใจแรงๆ เดินเร็วขึ้นกว่าเดิม

สีหน้าของเย่ซือเฉินกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ดูไม่ออกถึงความผิดปกติเลยสักนิดเดียว

ฉู่หลิงเอ๋อไม่เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของเย่ซือเฉิน ยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย เสแสร้ง เสแสร้งต่อไปเถอะ

ปฏิกิริยาการตอบสนองเมื่อกี้คือ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และมากด้วย

คุณชายสามเย่แคร์เรื่องที่ฉิงฉิงนอนกับเธออย่างชัดเจน

คิกคิกคิก ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะยิ่งสนุกขึ้นทุกทีเลยสินะ

“ท่านประธานครับ นักออกแบบของฉิงรุ่ยวาดเสร็จแล้วครับ”เลขาหลิวเข้าไปที่ห้องรับแขกไม่นานก็ออกมา ในมือถือกระดาษภาพออกแบบหนึ่งชุดยื่นให้เย่ซือเฉิน

เลขาหลิวเดินมาที่ข้างตัวเย่ซือเฉิน พูดเสียงเบาลง“ท่านประธานครับ เมื่อกี้ผมได้ข่าวมาว่า ตอนแรกฉิงรุ่ยถูกแบ่งให้อยู่กลุ่มเดียวกันกับบริษัทเวินซื่อกรุ้ป แต่ฉิงรุ่ยก็แอบเปลี่ยนกลุ่มเอง ไม่รู้ว่าฉิงรุ่ยทำอย่างนี้เพื่ออะไรกันค่ะ？”

เย่ซือเฉินตาหรี่ เพื่ออะไร？เขาก็อยากรู้ว่าฉิงรุ่ยทำอย่างนี้เพื่ออะไรกัน？

เชื่อว่าจะรู้คำตอบในไม่ช้า ตอนที่แบ่งเป็นสองกลุ่มก็มีวัตถุประสงค์อื่นอยู่แล้วหนิ