ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 1654

“ใช่เหรอ? เอาเถอะ คุณบอกว่าฉันไปอ่อยแฟนของคุณ ไม่สิ คู่หมั้นของคุณ ถ้าย่างนั้นเขาคือใคร? ในเมื่อคุณมาเกรี้ยวกราดใส่ฉัน แล้วเขาคือใคร? คุณก็น่าจะรู้สิ ที่สำคัญที่สุดก็คือ หลักฐานล่ะ?”ในเมื่อมาหาเรื่องกันแล้ว ก็อย่ากลัวที่จะถูกหาเรื่องกลับ หลิวหยิงเข้าใจดี อย่าว่าแต่ช่วงหลายปีมานี้เธอไม่เคยไปติดต่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนเลย ถึงต่อให้มี ถ้าเกิดมีหลักฐาน ซือถูมู่หรงก็คงจะจัดการให้เรียบร้อยไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่รู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อย

จู่ๆหลิวหยิงก็รู้สึกขึ้นมาได้ว่าถ้าเกิดตอนนี้ ซือถูมู่หรงติดตามเธออยู่ ก็จะไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้นอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าตัวเองจะจัดการได้ก็ตาม แต่ว่า…...เธอก็ไม่อยากให้แม่พลอยเดือดร้อนไปด้วย

คุณแม่หลิวรู้สึกเป็นกังวลใจขึ้นมาทันที ต้องเคยผ่านเรื่องราวแบบไหนมาบ้าง หลิวหยิงถึงได้พูดคำพูดนี้ออกมาได้อย่างสงบนิ่งแบบนี้? ดูเหมือนว่าไม่สนชื่อเสียงของตัวเองเลยแม้แต่น้อย คุณแม่หลิวก็ยิ่งรู้สึกเสียดายมากขึ้นไปอีก ที่ตอนแรกไม่ได้อยู่ข้างกายของหลิวหยิง

“เธอชื่อหลิวหยิง เธอนี่แหละที่มาอ่อยคู่หมั้นของคนอื่น ยังจะมาเล่นลิ้นอีกเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดีใจที่จดจำชื่อชื่อนี้ได้ ในตอนนี้ก็ยิ่งยื้อแย้งชื่อนี้เอาไว้ไม่ยอมปล่อย ใจลึกๆของเธอเชื่อว่าตอนนี้หลิวหยิงกำลังอยู่ในฝั่งที่ไร้เหตุผลไม่น่าเชื่อถือ เธอจะต้องตื่นตระหนกแล้วเผยไต๋ออกมาแน่นอน

น่าเสียดาย เธอไม่เข้าใจหลิวหยิงเลย แล้วก็ยิ่งไม่เช้าใจความสัมพันธ์ของหลิวหยิงกับซือถูมู่หรงอีกด้วย มือที่สาม? เข้ามาแทรกแซงความรู้สึกของคนอื่น? หลิวหยิงไม่เคยทำมาก่อน แน่นอนว่าไม่มีทางรู้สึกผิดแน่นอน

“แล้ว ที่คุณพูดหมายถึงใคร? คนที่ฉันไปอ่อยไม่ใช่แฟนของคุณแล้วก็ไม่ใช่คู่หมั้นของคุณ? แล้วอย่างนั้น คุณรู้ดีขนาดนั้นได้ยังไง”หลิวหยิงถามกลับ เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน ในเมื่อคนที่พูดถึงไม่ใช่คู่หมั้นของเธอ แล้ว เธอกับคู่หมั้นของคนอื่นอยู่ใกล้ชิดกัน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรน่ะสิ!

“เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน เธอเห็นกับตาของตัวเองว่าเธอไปอ่อยคู่หมั้นของเธอ!”ผู้หญิงคนนั้นกล่าวหาตำหนิด้วยความที่อยู่เหนือกว่า ดูเหมือนว่าหลิวหยิงจะไปกลั่นแกล้งรังแกเธอเข้าแล้ว แต่เดิมนี่มันเป็นเรื่องปกติทั่วไป ถึงขนาดเป็นเรื่องที่แอบมีความรู้สึกที่ดีด้วยซ้ำ ถึงยังไงการที่มาเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อนสนิท ผู้คนมากมายก็มีความสุขใจที่ได้เห็นอยู่แล้ว

หลิวหยิงยกคิ้ว นี่มันมั่วซั่วกันเกินไปไหม? ใส่ร้าย? การมาใส่ความให้ร้ายกันโดยที่ไม่มีการคิดวางแผนเลยแม้แต่นิดเดียวแบบนี้ มีช่องโหว่อยู่ไม่น้อย จะมีใครช่วยเธอทำให้มันเนียนๆหน่อยได้ไหม? หลิวหยิงรู้สึกคาดหวังอยู่ไม่น้อย เธออยากจะดูสักหน่อยว่าคนที่อยู่ในมุมมืดคือใคร ก็เลยอยู่เล่นเป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนี้ต่อ“คนที่คุณบอกว่าฉันไปอ่อยคนนั้นคือใคร? ไป๋ยี่? ไป๋รุ่ย? ซือมู่? ขอโทษนะผู้ชายของฉันค่อนข้างเยอะน่ะ”

หลิวหยิงพูดขึ้นอย่างไม่สนใจเลยสักนิด ดูเหมือนว่าข้างกายของเธอจะมีคนเหล่านี้อยู่จริงๆ

ผู้หญิงตรงหน้านี้เริ่มรู้สึกสับสนอยู่ไม่น้อย นี่มันถือว่าแฉตัวเองหรือเปล่า? แถมเธอพูดเรื่องนี้ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉยได้ยังไง? สีหน้าดูถูกของผู้หญิงคนนั้นดึงดูดสายตาที่ดูหมิ่นดูแคลนของผู้คนรอบข้าง หลิวหยิงไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่นิดเดียว จ้องมองแค่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียว

ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังขี่หลังเสือยากที่จะลงแล้ว นี่มัน ควรพูดสุ่มมาสักชื่อไหม? แต่ คนคนนั้นไม่ได้พูดนี่นา แค่บอกว่าคู่หมั้นของเธอสกุลซือถูเท่านั้น ใช่ซือมู่นั่นใช่ไหม?

“ดูท่าคงจะไม่ใช่ทั้งหมดสินะ”หลิวหยิงเห็นผู้หญิงคนนั้นไม่ตอบ ก็พูดถามขึ้นมาต่อ“ในเมื่อคุณไม่รู้ แล้วกล้าดียังไงมากล่าวหาตำหนิฉัน? เพื่อนของคุณไม่บอกอะไรเลยเหรอ?”

“เหอะๆ”ผู้หญิงคนนั้นสบถอย่างเย้ยหยัน“เพื่อนของฉันถูกทำร้ายจนไม่มีกะจิตกะใจจะกินข้าวกินปลา แถมยังไม่ให้พวกเรามาหาเธออีก บอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเธอ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะมีท่าทีแบบนี้? ถ้าครั้งนี้ไม่ได้มาเจอเธอ ใครจะอยากมาหาเพื่อจงใจพูดเรื่องแบบนี้กับเธอไม่ทราบ? เดิมทีแค่อยากจะพูดกับเธอแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น ว่าให้อยู่ห่างจากคู่หมั้นของคนอื่นหน่อย คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่มีทีท่าที่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อยขนาดนี้”

“ฉันไม่รู้จักแม้กระทั่งว่าคู่หมั้นของคุณคนนั้นคือใคร แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันได้ไปอ่อยเขาไหม”หลิวหยิงพูดออกมาอย่างง่ายๆ เธอตั้งใจ คำพูดนี้มันย้อนแย้งกัน ตั้งใจฟังดีๆก็จะฟังออก แต่ผู้หญิงตรงหน้านี้ดันดูเหมือนว่าจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

หลิวหยิงคิดถึงสิ่งล่อตาล่อใจที่อ่อนโยน“ถ้าอย่างนั้นคุณพูดถึงใคร คงจะไม่ได้ให้ฉันแบกความผิดนี้เอาไว้อย่างไม่มีเหตุมีผลไปตลอดหรอกใช่ไหม? คู่หมั้นที่คุณพูดถึงคือใครล่ะ”

ผู้หญิงคนนั้นกัดฟันกรอดๆ พูดขึ้น“ซือมู่ ซือมู่นั่นแหละ คู่หมั้นของฉันก็คือเขา ดังนั้น คุณยอมรับแล้วสินะว่าไปอ่อยเขา?”

“แม่ ทางนี้!”หลิวหยิงทักด้วยความดีอกดีใจ เหมือนกับว่าเรื่องเมื่อตะกี้นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ในความจริงแล้ว ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลยจริงๆ

หลิวหยิงเดินตรงเข้าไป ช่วยหลิวหยิงเอาของไปไว้ในรถ ตอนที่กำลังขับรถกลับบ้าน ก็พูดถามขึ้น“หยิงเอ๋อร์ เมื่อตะกี้นี้คนคนนั้น?”

“หนูไม่รู้จัก น่าจะเป็นคนที่มาหาเรื่องน่ะคะ”ถ้าเกิดไม่เห็นเงาคนที่โผล่แวบออกมาเงานั้น หลิวหยิงก็จะรู้สึกว่าแปลกประหลาด แต่พอเห็นคนคนนั้นแล้ว หลิวหยิงก็รู้ว่าจริงๆแล้วมีคนมาหาเรื่องแน่นอน อาจจะเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นตัวเองไม่มีทางสลัดหนีออกมาง่ายๆขนาดนี้แน่นอน ส่วนจะเป็นใครนั้น หลิวหยิงคิดว่าน่าจะหนีไม่พ้นซือถูมู่หรง

“หยิงเอ๋อร? เมื่อตะกี้ลูกไม่น่าพูดขนาดนั้นเลย”พอคุณแม่หลิวคิดถึงคำพูดของหลิวหยิงก็รู้สึกว่าเจ็บปวดใจ ที่ลูกสาวของเธอเป็นคนที่ไม่รักตัวเองเลย ในสถานการณ์แบบนั้นเมื่อตะกี้นี้ ไม่มีโต้เถียงแก้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังยอมรับอีก ถ้าเกิดภายหลังไม่ได้ชี้แจงให้ชัดเจนล่ะ? เธอก็จะต้องแบกรับความผิดนี้ไปตลอดใช่ไหม?

“อะไรเหรอคะ?”หลิวหยิงไม่เข้าใจความหมาย เมื่อตะกี้ เธอไม่ได้พูดอะไรที่มันมากเกินไปใช่ไหม? ทำไมการแสดงออกของแม่ถึงเข้มงวดขนาดนี้?

คุณแม่หลิวเม้มปาก เธอพูดขึ้นอย่างจริงจัง“เมื่อตะกี้ลูกน่าจะพูดหักล้างกลับไป ไม่ควรจะไปยอมรับตรงๆ ลูกจะให้คนอื่นคิดยังไง?”คุณแม่หลิวพอนึกถึงสายตาที่คนอื่นๆมองหลิวหยิงก็รู้สึกยากที่จะรับไหว สายตาดูถูกดูแคลนของคนพวกนั้นเมื่อตะกี้นี้ ต่างพากันจับจ้องไปที่หลิวหยิง เธอสามารถรับรู้ได้ว่าความรู้สึกอึดอัดอับอายนั่น สายตาแบบนั้น ราวกับว่ากำลังจับจ้องมาที่ตนเองเหมือนกัน

หลิวหยิงอึ้งตะลึงไป เธอยิ้มอมทุกข์“แม่ สถานการณ์เมื่อตะกี้แม่ก็เห็นแล้ว จะให้ไปพูดหักล้างแบบนั้นมันไม่ได้หรอก ดังนั้นที่หนูยอมรับไปก่อน ก็แค่เพื่อทำให้เธอสับสนเองก็เท่านั้น เมื่อตะกี้คนคนนั้นน่าจะเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมาคิดอยากที่จะมาหาเรื่องหนูชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้น ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องสนใจทั้งนั้น”หลิวหยิงพูดอธิบาย จริงๆแล้วเธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เรื่องมากมาย ไม่ใช่ว่าพูดอธิบายไปแล้วจะสามารถจัดการแก้ไขได้ คนพวกนั้นเชื่อในสิ่งที่ได้ยินและเห็นก่อน คำอธิบายของเธอก็เปล่าประโยชน์ ยิ่งดูเหมือนข้อแก้ตัวด้วยซ้ำ แล้วทำไมต้องทำด้วยล่ะ? สู้เออออตามเธอไปก่อน ทำให้เธอเผยจุดบกพร่องออกมาดีกว่า หลิวหยิงมั่นใจว่าไม่รู้จักเธอ แล้วก็ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงความรู้สึกของคนอื่นด้วย ดังนั้นคนคนนั้นจะต้องบอกเหตุผลไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว

หลิวหยิงรู้สึกว่า เรื่องที่ไม่มีศีลธรรมแค่เรื่องเดียวที่ตัวเองทำ นั่นก็คือการที่อยู่ข้างกายของซือถูมู่หรงมานานหลายปีขนาดนี้ เรื่องอื่นๆนอกจากนั้น ก็ไม่มีแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน