ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 1658

สถานการณ์แบบนี้ ก่อนหน้านี้มันเกิดแค่ตอนที่เธอเห็นถังจื่อซีกับถังจื่อโม่รู้สึกไม่สบายเศร้าโศกเสียใจเท่านั้น

แต่ว่า เธอกับถังจื่อซีและถังจื่อโม่มีความสัมพันธ์เป็นแม่ลูกกัน การที่จะมีความรู้สึกสื่อถึงกันมันก็เป็นเรื่องปกติ แล้วกับซ่างกวนหงนี่มันเกิดอะไรขึ้น? ได้ยังไง?

เวินลั่วฉิงไม่อยากจะเชื่อ ก่อนหน้านี้องค์กรโกสต์ซิตี้คิดที่จะลองเชิงดูว่าเธอเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ใช่หรือไม่ ถูกเธอวางแผนใส่ ในตอนนั้นพิสูจน์ไปแล้วไม่ใช่หรือไงว่าเจ้าของของผมเส้นนั้นกับหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้มีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกัน? แถม มู่เฉิงก็บอกว่าหาเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้เจอแล้ว ตอนนี้ ความรู้สึกของตัวเองมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เวินลั่วฉิงครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน ใช่แล้ว ไม่ผิดแน่ๆ หลังจากที่ผลทดสอบความเป็นพ่อลูกออกมา หัวหน้าน้อยบอกว่า หาเจ้าหญิงเจอแล้ว ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าผลตรวจDNAของเจ้าของของผมเส้นนั้น กับสายเลือดของหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้ผิดพลาดอย่างแน่นอน หัวหน้าน้อยถึงได้กล้าพูดแบนี้ ส่วนเธอ ก็เป็นลูกสาวของตระกูลเวินมาโดยตลอด

แม่ของเธอไม่มีทางจำพ่อของลูกผิดแน่นอน ถ้าเธอเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จริงๆ แม่ของเธอจะให้เธอมาเกิดและเติบโตที่ตระกูลเวินทำไม?

ดังนั้น……ความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้มันเป็นเพราะอะไรกัน? เวินลั่วฉิงไม่กล้ายอมรับ ว่าตัวเองรู้สึกเศร้าเสียใจแทนซ่างกวนหง

เย่ซือเฉินสังเกตเห็นความผิดปกติของเวินลั่วฉิง ยื่นมือออกมากุมมือของเวินลั่วฉิงเอาไว้ พร้อมกับพูดกระซิบด้วยความเป็นห่วง“ฉิงฉิง เป็นอะไรไป?”

เวินลั่วฉิงมักจะมีความหยิ่งทะนงของตัวเองอยู่เสมอ แทบจะไม่แสดงอาการอะไรที่ไม่เหมาะสมออกมาต่อหน้าคนนอกเลย ครั้งนี้ช่วงเวลาที่เหม่อลอยค่อนข้างนาน เขาเพิ่งจะเห็นเวินลั่วฉิงกำลังครุ่นคิดอะไร ถึงขนาดที่เอามือจับตรงอกอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่ากำลังรู้สึกช็อกตกใจอะไรสักอย่าง

“หือ?”เวินลั่วฉิงตอบกลับมาโดยสัญชาตญาณ เมื่อตะกี้ตนเอง? เป็นอะไรไป? ทำไมจู่ถึงตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง แถมยังเป็นเรื่องของซ่างกวนหงอีก? เวินลั่วฉิงขมวดคิ้ว หรือว่า เธอจะมีความสัมพันธ์อะไรกับซ่างกวนหงจริงๆอย่างนั้นเหรอ? เวินลั่วฉิงไม่ยอมรับผลลัพธ์แบบนี้

“เป็นอะไรไป กำลังคิดอะไรอยู่?”เย่ซือเฉินกุมมือของเวินลั่วฉิงเอาไว้ ออกแรงบีบเล็กน้อย พอที่จะทำให้เธอตอบสนองกลับมา ในขณะเดียวกันก็ให้พลังกับเธอ ทำให้เธอได้รู้ว่า เย่ซือเฉินอยู่ข้างๆเธออยู่

เวินลั่วฉิงกุมมือของเย่ซือเฉินกลับ เธอเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“เมื่อตะกี้ใจลอยไปน่ะ”

เย่ซือเฉินชัดเจนขึ้นมาทันที เวินลั่วฉิงกลับคืนสู่ท่าทีที่ฉลาดสุขุมแบบเมื่อก่อนแล้ว เวินลั่วฉิงยิ้มอย่างขอโทษเล็กน้อยให้กับซ่างกวนหง“ขอโทษด้วยนะคะ เมื่อตะกี้ใจลอยไปน่ะค่ะ”

“ไม่เป็นไร”แน่นอนว่าซ่างกวนหงไม่มีทางพูดอะไรอยู่แล้ว แค่เขาได้มาเจอกับเวินลั่วฉิง ในใจก็รู้สึกมีความหวังอยู่ไม่น้อยแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขมาก แต่ทุกการเคลื่อนไหวทุกการกระทำของเวินลั่วฉิง ก็ส่งผลกระทบต่อเขาโดยไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน

เวินลั่วฉิงหุบยิ้ม สีหน้าสงสัย น้ำเสียงที่ชัดแจ๋วพูดถามขึ้นต่อ“เมื่อตะกี้ฉันกำลังคิดอยู่ว่า ทำไมจู่ๆหัวหน้าถึงเศร้าเสียใจ เพราะว่านึกถึงเรื่องอะไรหรือเปล่า? ไม่รู้ว่าทำไม ฉันถึงรู้สึกไม่เต็มใจที่จะเห็นหัวหน้ารู้สึกตกต่ำผิดหวัง”ประโยคหลังนั้นเบามากๆ แทบจะไม่ได้ยินเลย แต่ก็ได้ยินไปถึงหูของทุกๆคนเหมือนกัน

ในฐานะที่เป็นคนข้างกายของเวินลั่วฉิง เย่ซือเฉินรู้ว่าเวินลั่วฉิงกำลังลองเชิงอะไรสักอย่างอยู่ แต่ไม่รู้ว่าทำไม หรือว่า เกิดอะไรขึ้น ในคำพูดดูเหมือนว่าจะแฝงไปด้วยเจตนาที่ดีและความสนิทชิดเชื้อ เย่ซือเฉินไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่เวินลั่วฉิงทำอะไรจะต้องมีเหตุผลของตัวเองอย่างแน่นอน ดังนั้น เขาจึงอยู่อย่างนิ่งสงบ รอดูว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

ซ่างกวนหงอึ้งตะลึงไป เมื่อตะกี้ ตัวเองเศร้าเสียใจอย่างนั้นเหรอ? ใช่แล้ว หลังจากที่ได้ยินว่าความรู้สึกของเวินลั่วฉิงจะชอบและไม่ชอบอะไรตามถังจื่อซีคนเดียวเท่านั้น แต่เธอสังเกตเห็นแล้วเหรอ? เธอมองออกว่าตนเองเศร้าเสียใจ แสดงว่าเธอกำลังเป็นห่วงเป็นใยเขาอยู่เหรอ? ซ่างกวนหงมองเวินลั่วฉิงด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยม

ผู้ดูแลจงมองเวินลั่วฉิง เจ้าหญิงรู้สึกเศร้าเนื่องจากความเศร้าเสียใจของหัวหน้า ตอนนี้กำลังเกลี้ยกล่อมหัวหน้าไม่ให้เศร้าเสียใจอยู่ใช่ไหม? หรือว่านี่เป็นความรู้สึกระหว่างพ่อลูกอย่างนั้นเหรอ?

มู่เฉิงรู้สึกสงสัยไม่น้อย เขาถือว่าเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ที่มีปฏิสัมพันธ์กับเวินลั่วฉิงมากที่สุด แล้วก็เข้าใจเวินลั่วฉิงมากที่สุดเช่นกัน เขารู้สึกว่า เวินลั่วฉิงไม่มีทางพูดประโยคนี้ออกมาโดยที่ไม่มีเหตุอะไรแน่นอน ยิ่งดูเหมือนกับกำลังลองเชิงอะไรอยู่ด้วย เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการ

“ดูแล้ว คุณชายสามเย่กับคุณเวินนี่มีความสัมพันธ์ดีจังเลยนะ ไหนจะมีเด็กน้อยจื่อซีกับจื่อโม่ทั้งสองคนอีก ช่างน่าอิจฉาจริงๆ”ซ่างกวนหงพูดขึ้น ครอบครัวสุขสันต์ ต่างก็เป็นความปรารถนาของใครหลายๆคน

เย่ซือเฉินชอบการชื่นชมแบบนี้มาก เขายอมรับคำชื่นชมนี้ได้อย่างเต็มอก เวินลั่วฉิงยิ้มเล็กน้อย ยอมรับคำพูดของซ่างกวนหง

“คุณปู่ซ่างกวน พวกเราก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนกับคุณปู่บ่อยๆเอง”เจ้าหนูถังจื่อซีเป็นเทวดา พอได้ยินว่าพูดถึงพวกเขา ก็รีบเปิดปากพูดขึ้นทันที“แบบนี้ คุณปู่ซ่างกวนก็จะน่าอิจฉาเหมือนกันแล้ว”

ถังจื่อซีรู้สึกว่า คำว่าอิจฉาที่ซ่างกวนหงพูด คืออิจฉาครอบครัวของพวกเขา แถมยังอิจฉาที่มีตนเองกับพี่ชายอยู่เป็นเพื่อน ดังนั้น ถ้าเกิดพวกเขาสามารถอยู่เป็นเพื่อนกับซ่างกวนหงได้เยอะๆ เขาก็จะมีความสุขขึ้นมาก แล้วก็จะเป็นที่น่าอิจฉาอีกด้วย

คำพูดของถังจื่อซีทำให้พวกเขาต่างรู้สึกมีความสุข ที่ซ่างกวนหงอิจฉา คืออารมณ์ความรู้สึกของครอบครัว ความกลมเกลียวกันของสองสามีภรรยา ครอบครัวสุขสันต์ ที่ถังจื่อซีพูดถึง ดูเหมือนว่าจะอิจฉาที่มีถังจื่อซีและถังจื่อโม่เด็กน้อยทั้งสองคนอยู่ด้วย

เวินลั่วฉิงลูบหัวของถังจื่อโม่อย่างยิ้มแย้ม นี่เริ่มชอบซ่างกวนหงมากแล้วนะ เธอยิ้มอย่างเยาะเย้ย“หัวหน้า ถ้าเกิดรู้สึกอิจฉา ก็ให้หัวหน้าน้อยแต่งงาน แล้วก็มีลูกกับภรรยาสักคนสิคะ”เวินลั่วฉิงพูดไว้ก่อน เธอรู้สึกว่า ในใจของซ่างกวนหง สิ่งที่คาดหวังต้องการที่สุด ก็คือลูกของลูกสาวตัวเอง ในเมื่อตอนนี้ยังหาไม่เจอ ถ้าอย่างนั้นมู่เฉิงก็ได้เหมือนกัน

มู่เฉิงรู้สึกเสียดายอย่างอดไม่ได้ ตัวเองไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่ใช่ไหม ก่อนหน้านี้คิดยังไงกันนะ? วันนี้เขาแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วทำไมถึงยังจำกันได้นะ ถูกลากเข้าไปข้องเกี่ยวเข้าแล้ว จะถูกบีบให้……แต่งงานมีลูกแล้วอย่างนั้นเหรอ?

เขามองไปยังซ่างกวนหง อย่านะ!พวกเขาก็แค่พูดไปเรื่อยเท่านั้น!แถมเวินลั่วฉิงก็เป็นลูกสาวของคุณด้วย ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ก็เป็นหลานสาวและหลานชาย ถ้าเกิดจะอิจฉาจริงๆ พวกเขาก็สามารถเติมเต็มให้ได้นะ!อย่าดึงเขาเข้าไปเกี่ยวข้องเด็ดขาด มู่เฉิงพูดอยู่ภายในใจ

แต่น่าเสียดาย ซ่างกวนหงไม่ได้ยินเสียงที่อยู่ในใจของมู่เฉิง เขาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ในตอนนั้นเขาพลาดไปแล้ว พลาดไปตลอดชีวิต ถ้าเกิดมู่เฉิงมีคนที่ชอบ แต่งงานมีลูกไปเลย ก็ไม่เลวเหมือนกัน!เขามองมู่เฉิงอย่างลึกซึ้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน