อะหลิงไม่แม้แต่จะถาม กดไข่มุกไปทันที พื้นเปิดออกในฉับพลัน...
ถังจื่อโม่ตะลึงงันไปเล็กน้อย เมื่อครู่ที่ตนกดไม่ใช่ไข่มุกเม็ดนี้หรือ? ทำไมถึงไม่เกิดอะไรขึ้น
“พวกเราไปกันเถอะ” อะหลิงไม่สังเกตเห็นความสงสัยของถังจื่อโม่ เอื้อมมือตะกายโดดออกไป แล้วดึงถังจื่อโม่ออกไปด้วย
ลมกลางคืนพัดผ่าน บนพื้นยังมีความร้อนอยู่บ้าง นี่มันไม่ปกติมากๆ ถังจื่อโม่มองด้านล่างอย่างละเอียด แล้วพบว่าที่นี่เคยผ่านการเผาไหม้มาก่อน เหมือนถูกไฟเผาไปโดยตรง ที่ที่ไม่ได้ใส่ใจยังสามารถมองเห็นร่างของสัตว์ได้ ถังจื่อโม่คิดไม่ถึงว่าอะหลิงจะกระทำการเด็ดขาดเช่นนี้ ทว่ากำจัดให้สิ้นซากไปภายหลังจะได้ไม่มีปัญหา
ถังจื่อโม่คิดว่าจะให้คนอื่นมาพบที่นี่ไม่ได้ รูปสัตว์นี้จะต้องปิดคลุมเอาไว้ เขาย่อตัวลงแล้วพบในฉับพลันว่ารูปนั่นได้หายไปแล้ว ถังจื่อโม่ปัดซ้ายขวาไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก็ยังไม่มี...หายไปในอากาศเสียแล้ว
อะหลิงยื่นมือไปเคาะที่พื้น นี่มันอะไรกัน รูปนั่นที่เมื่อครู่ตนกดเองกับมือ ทำไมถึงหาไม่เจอแล้วล่ะ? บรรยากาศแปลกประหลาดแผ่ซ่านระหว่างทั้งสอง พวกเขาไม่มีใครเอ่ยปาก ประหลาดเกินไปแล้ว!
“ไปจากที่นี่ก่อน” อะหลิงลุกขึ้นยืน จูงถังจื่อโม่ จับไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว ทำให้ถังจื่อโม่เกิดความรู้สึกตึงเครียดอย่างหนึ่งขึ้นมา แต่กลับสัมผัสได้ถึงความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของคนที่อยู่ข้างหน้าผู้นี้ได้อย่างลึกซึ้ง
“ไปที่ไหน?” ถังจื่อโม่รู้สึกหวาดกลัวที่แห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ตอนที่เรื่องราวประหลาดพวกนั้นเกิดขึ้นกับตน เขาถึงรู้ว่าแท้จริงแล้วมันยากจะรับได้ยิ่งนัก มีการคาดเดามากมายในใจ แต่ว่าแต่ละอย่างล้วนถูกตนปฏิเสธไป เหลือเพียงการคาดเดาที่น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
“ที่ของฉัน” อะหลิงพูด เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่า ที่นี่ไม่อาจอยู่ต่อไปได้แล้ว เรื่องที่แปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่ไม่อาจจะอธิบายเข้าไปทุกที เธอรู้ เกาะซื่อหลีนับถือเทพชื่อหลี แต่ว่า มันมีอยู่จริงเสียที่ไหน แต่ตอนนี้อะหลิงรู้สึกว่าไข่มุกทั้งหมดที่อยู่บนข้อมือ ร้อนขึ้นมาเล็กน้อย คล้ายว่ามีอะไรกำลังเข้าสู่ร่างกายเธอทีละนิดๆ
“นายอยากไปจากที่นี่ไหม?” อะหลิงกัดฟันพูด เธอไม่กล้าปล่อยถังจื่อโม่ไว้ที่นี่ ก็เหมือนกับเรื่องที่เดิมทีตนควบคุมได้ แล้วจู่ๆก็หลุดไปจากการควบคุม หาความรู้สึกเดิมไม่เจออีกต่อไป
“อยาก!” ถังจื่อโม่พูด แม้จะไม่รู้ว่าที่อะหลิงพูดประโยคนี้มีความจริงใจอยู่กี่ส่วน แต่ว่า เขาอยากไปจากที่นี่
“จะต้องมีโอกาส” อะหลิงพูดพลางครุ่นคิด คนในเกาะซื่อหลีเข้าๆออกๆ จะต้องมีสิ่งที่เธอใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าคนผู้นั้นในคำทำนายที่สามารถทำลายเกาะซื่อหลีได้จะใช่ถังจื่อโม่หรือไม่ เธอก็ควรส่งเขาออกไป ตอนนี้ เธอจะมีชีวิตรอดไหมคือปัญหา
ถังจื่อโม่พยักหน้า แต่อะหลิงมองไม่เห็น เธอกำลังเดินไปข้างหน้า ไม่หันกลับมาแม้แต่น้อย แฝงไปด้วยความกล้าไม่เกรงกลัว
ถังจื่อโม่ไม่คุ้นชินกับสถานที่ ที่เกาะซื่อหลี เดิมทีเขาไม่ควรเชื่อถือไว้ใจสิ่งใดๆ แต่ว่าเวลานี้ ยืนอยู่ในห้องของอะหลิง เขารู้สึกได้ถึงความสบายใจ บางทีในที่แห่งนี้ เขากับอะหลิงอาจพึ่งพากันและกันได้
เวลาล่วงเลยไปเจ็ดแปดวัน เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถังจื่อซีจิตใจสงบมาก คนคนนั้นที่มีสายเลือดเชื่อมโยงกับเธอ ต่อให้อยู่กันคนละฟากฟ้า เธอก็สัมผัสได้ถึงความสงบและความปลอดภัยของเขา ความรู้สึกนี้ส่งผ่านไปยังเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิง ดังนั้นตระกูลโม่จึงนับว่าจิตใจสงบ เพียงแต่ความสงสัยในใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ถังจื่อโม่อยู่ที่ไหนกันแน่?
และเป็นวันนี้เช่นกัน เวินลั่วฉิงได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง จดหมายฉบับหนึ่งที่ไม่ลงนาม
เวินลั่วฉิงที่ได้จดหมาย นัยน์ตามีความสงบเพิ่มขึ้นหลายส่วน รอไม่ไหวแล้วจริงๆสินะ?
“ฉิงฉิง ถ้าอยากรู้ว่าถังจื่อโม่อยู่ที่ไหน พรุ่งนี้สิบโมงเช้ามาที่อ่าวซีเฉิน”
แทบจะในเวลาเดียวกันกับที่ได้จดหมายฉบับนี้ เย่ซือเฉินก็ได้ข่าวคราว พบความผิดปกติแห่งหนึ่งที่อ่าวซีเฉิน พอดีเลย ในเมื่อเป้าหมายเป็นที่เดียวกัน งั้นก็ไปเถอะ คืนนี้ต้องพักผ่อนให้ดี แต่มันกำหนดไว้แล้วว่าไม่อาจข่มตานอนได้
พอเช้ามาพวกเขาก็ต้องออกเดินทาง ถังจื่อซีเดินไปห้องของเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงอย่างพร่าเบลอ “หม่ามี้ ฉันอยากตามไปด้วย”
เวินลั่วฉิงตัดใจให้ถังจื่อซีตามไปลำบากไม่ได้ อยากจะปฏิเสธ ถังจื่อซีพูดต่อไปว่า “หม่ามี้ ฉันฝันถึงพี่ชายแล้ว เขาบอกว่าเขาอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถหาพี่ชายเจอได้”
ร่องรอยเหล่านี้อ่อนจางมาก เวินลั่วฉิงใช้แรงไปรอบหนึ่งถึงจดจำได้ อ่านออกได้ สภาพถังจื่อโม่ในเวลานั้นไม่ดีนัก น่าจะถูกเฝ้าติดตามอย่างแน่นหนา ไม่กล้าทิ้งร่องรอยเอาไว้ชัดเจนเกินไป เวลาที่เด่นชัดเหล่านั้นบนผนัง คงจะเพื่อดึงดูดความสนใจ
“ไม่ใช่นักฆ่า ไม่ใช่คนที่ทำเรื่องเหล่านี่โดยเฉพาะงั้นหรือ?” เย่ซือเฉินขมวดคิ้ว ดังนั้น พวกเขาตามหาตั้งนานถึงไม่พบตำแหน่ง?
“คนธรรมดา?” เวินลั่วฉิงทวนซ้ำ มีคนธรรมดาไหนกันที่มีความสามารถเช่นนี้? พวกเขาหาร่องรอยไม่ได้เลย หลินฉีที่พาจื่อโม่ไป ก็หาไม่พบมาโดยตลอด เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงคิดอยู่ตลอดว่า หลินฉีติดตามอยู่ข้างกายจื่อโม่ตลอดเวลา
หลินฉีดูแล้ว เป็นคนธรรมดาสามัญจริงๆ แต่ว่าจะเป็นคนธรรมดาจริงๆหรือ? เย่ซือเฉินไม่แน่ใจ
“ฉันรู้สึกว่าพวกเรามองข้ามอะไรไป” เย่ซือเฉินพูดอย่างใจเย็น หลายวันนี้พวกเขาแทบจะใช้กำลังทั้งหมดที่ใช้ได้ไปแล้ว แต่ว่า ถังจื่อโม่ไร้ตำแหน่งแน่ชัด หลินฉีก็เช่นกัน คนคนหนึ่งไม่มีทางหายไปกลางอากาศได้ ดังนั้น ต้องเป็นพวกเขามองข้ามอะไรไปแน่ๆ
“ฉันก็คิดเหมือนกัน” เวินลั่วฉิงปิดตาลง เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้ มีอะไรที่พวกเขาไม่ทันได้สังเกตบ้างนะ? กลุ่มอิทธิพลที่สามารถใช้สอยที่นี่ได้ คนที่ส่งผลกระทบต่อที่นี่ได้ พวกเขาล้วนเคยทักทายปราศรัยเอาไว้แล้ว ทำไมถึงไม่ข่าวคราวเลยแม้แต่น้อย? นอกเสียจากว่า จะไม่ใช่กลุ่มอิทธิพลของที่นี่
“ฉือเย่ฉาง”
เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงเอ่ยปากขึ้นพร้อมกัน พวกเขามองข้ามฉือเย่ฉางไป? นี่คือกลุ่มที่ไม่ขึ้นอยู่กับประเทศใด สถานที่ใดทั้งนั้น มาปรากฏอยู่ที่นี่ มีการเคลื่อนไหว ยากจะรับรองว่าไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น พวกเขาถึงกับไม่เคยคิดขึ้นมาเลย
แต่ว่า...ฉือเย่ฉางจะมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้เหรอ?” เวินลั่วฉิงขมวดคิ้ว ในภาพทรงจำของเธอ ฉือเย่ฉางไม่เคยสอดมือยุ่งเรื่องพวกนี้ อีกอย่าง พวกเขาเพียงแค่หยุดพักที่นี่ช่วงหนึ่งเท่านั้น งานประมูลของฉือเย่ฉางสิ้นสุดแล้ว พวกเขาก็จะจากไป ทำไมจะต้องมาหาเรื่องตระกูลถังและตระกูลเย่ของพวกเขาด้วย? หรือพูดได้ว่า หาเรื่องแทบจะทุกตระกูลของที่นี่ก็ว่าได้ มันคุ้มค่าหรือ?
“ไม่แน่ว่าเป็นฉือเย่ฉางมีส่วนร่วม เพียงแต่ว่าในฉือเย่ฉาง มีคนเกี่ยวข้องก็เท่านั้น” เย่ซือเฉินพูดอย่างเย็นชา เขาประมาทไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...