สายตาของหลินฉือต่อมาได้ถูกลูกปัดบนมือของอะหลิงดึงดูดไป เหมือนกับว่ามันจะเป็นเส้นนี้จริง ๆ ส่องสีแดงออกมา เธอสามารถรู้สึกได้จากในที่ไกล ๆ ได้เลย
หลินฉือมองตรงไปที่อะหลิง สายตามองข้ามอะลี่ไป ทำให้อะลี่รู้สึกไม่ค่อยดีอยู่บ้าง “ทำไม พวกนายยังนึกว่าจะสามารถไปจากที่นี่ได้อีกเหรอ?”
ตอนที่ผู้เฒ่าได้เรียกพวกเขามารวมตัว บอกแค่เพียงว่ามีคนนอกเข้ามาในที่บูชาเท่านั้น ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดนี้ ก็คือจะเอาชีวิตของพวกเขา ถ้าหากว่าเป็นเมื่อตอนนั้น อะลี่จับความหมายของผู้เฒ่าไม่ได้ แต่ตอนนี้ เขาแน่ใจมากว่าก็คือจะให้ทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าตายไปนั่นเอง
เสียงรบกวนจากรอบ ๆ ถังจื่อโม่รู้สึกว่ามันคุ้นเป็นอย่างมาก เป็นสัตว์ที่นอนอยู่บนพื้น เป็นตัวที่ก่อนหน้านี้อะฉีได้เลี้ยงเอาไว้ ทำไม...ถึงยังปรากฏตัวอยู่?
ถังจื่อโม่มองอะหลิงไปด้วยความเป็นกังวล สัตว์พวกนั้นย้ายไปจากข้าง ๆ ตัวของอะหลิง โอบล้อมมู่เฉิงกับหลินฉือเอาไว้อย่างแน่นหนา ถังจื่อโม่ได้เข้าใจขึ้นมาทันที เมื่อคืนวันนั้น อะหลิงได้ร่วมมือกับอะลี่ไปแล้ว มันก็ถูก ไม่อย่างนั้นแล้วก่อนหน้านี้ อะลี่จะช่วยตนได้ยังไงกันน่ะ?
“เธอ...มาที่ข้าง ๆ ฉัน” หลินฉือมองอะหลิง พูดออกไปอย่างสงบนิ่ง ลูกปัดบนมือของเธอ ไม่ควรจะอยู่ที่บนข้อมือของเธอ หน้าตาของเธอ ความเยือกเย็นตรงช่วงใบหน้าได้ทำให้เธอคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ถูกเลย เหมือนกับว่าเป็น...เพื่อนเก่า
อะหลิงมองอะลี่ไปแวบนึง เธอยินดีที่จะเดินเข้าไป อยู่ที่ตรงนี้มันไม่ได้ปลอดภัยเท่าไหร่เลย แต่ว่า ตอนนี้เธอไม่อาจมองข้ามความต้องการของอะลี่ไปเลยได้
“เธออยากจะเอาอะหลิงมาขู่พวกเรา?” อะลี่ยิ้มเย็นออกมา ผู้หญิงคนนี้รู้สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าชัดเจนหรือเปล่า พวกเขามีความสัมพันธ์เป็นศัตรูกัน จะมาแลกเปลี่ยนกันเพียงเพราะว่าคำพูดคำเดียวได้ยังไง
“เธอทำตามความต้องการของตัวเอง ลองคิดดูสิว่าจะเดินเข้ามา หรือว่าจะยืนอยู่ที่ตรงนั้น” หลินฉือไม่ได้สนใจอะลี่ ถ้าหากว่าความรู้สึกของเธอมันถูกต้อง ถ้า เธอมาที่นี่เป็นเพราะว่ามี “ภารกิจที่ต้องทำ” ให้ได้ อย่างนั้นแล้ว เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า จะต้องบอกตนได้แน่
อะหลิงกำมือแน่น ความร้อนระอุบนข้อมือ ได้เตือนสติเธออยู่ตลอดเวลา ให้เข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้น เดินเข้าไปหาเธอ แต่ว่า ในตอนที่เธอได้ให้ตัวเองเลือกไปจริง ๆ นั้น อะหลิงก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองผู้เฒ่าไปอีกแวบนึง ผู้เฒ่าเป็นคุณยายของเธอ บนใบหน้าได้เต็มไปด้วยความโหดร้าย และก็ยังมีความกลัวอยู่ด้วย ไม่ได้ให้ความสนใจต่อตัวเธอเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าคำพูดที่ผู้หญิงพูดออกมาเมื่อกี้มันไม่ได้พูดกับตนเลยก็ไม่ปาน
สายตาของอะหลิงได้วูบไหวออกมาเล็กน้อย ที่แท้ ที่นี่ก็ไม่มีใครสนใจเธอเลยจริง ๆ
อะหลิงถอนหายใจออกมา แล้วเดินไปยังหลินฉือ เสื้อผ้าสีดำ ในยามค่ำคืนดูเหมือนว่าจะมืดไปเลย แต่ว่าหน้าตาของเด็กผู้หญิงคนนี้ สงบนิ่งอีกทั้งยังประดับไปด้วยการตั้งตารอคอยออกมาจาง ๆ
ถังจื่อโม่เห็นอะหลิงเดินเข้าไปหาหลินฉืออยู่ในที่ไกล ๆ คิดว่า สถานการณ์ในตอนนี้มันดีกว่า อยู่ข้าง ๆ หลินฉือจะต้องปลอดภัยกว่าอยู่ข้าง ๆ อะลี่อย่างแน่นอน
“เธอ ปีนี้อายุกี่เท่าไหร่?” หลินฉือมองอะหลิง เธอยื่นมือไปลูบหัวของอะหลิงเบา ๆ พลางนวดคลึงแก้มของเธอไปด้วย ตอนที่มองใกล้ ๆ เด็กผู้หญิงคนนี้ยิ่งเหมือนคนคนหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของเธอมากเลย
“เจ็ดขวบ ฉันเจ็บขวบแล้ว” อะหลิงพูดออกไปแบบไม่ได้แข็งกร้าวและก็ไม่ได้ถ่อมตัวจนดูต้อยต่ำเกินไป ผู้หญิงคนตรงหน้าไม่ได้มีความคิดมุ่งร้าย สายตาที่เธอมองตนนั้นเหมือนราวกับว่าได้มองทะลุผ่านกาลเวลาไป มองเห็นเพื่อนเก่าออกมา
“เธอรู้จักโม่ตี๋หรือเปล่า? เขาเคยมาที่เกาะซื่อหลี แล้วก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย” เจ็ดปี ช่วงเวลาที่พี่ชายได้จากบ้านไปเป็นเมื่อสิบปีก่อนล่ะมั้ง ถ้าจะนับเวลาเอาจริง ๆ ก็คงจะเป็นช่วงที่ประจวบเหมาะพอดีเลย
“เขาเป็นพ่อของฉัน” อะหลิงพูดออกมาอย่างสงบนิ่ง ตอนที่พูดออกมานั้น เธอสามารถรักษาความสงบเอาไว้ได้แล้ว อย่างนี้ดีมากเลย
“อย่างนั้นแล้ว เธอควรจะเรียกฉันว่าคุณน้า” หลินฉือมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า ยังเด็กอยู่เลย แต่ก็สวยมากเลยจริง ๆ ถ้าพาเธอกลับไป ไม่รู้ว่าคนที่บ้านจะดีใจกันมากขนาดไหนกัน
อะหลิงมองหลินฉือไปอย่างเหนือความคาดหมาย หลินฉือได้ยิ้มออกมา “ฉันคือโม่ฉือ โม่ตี๋เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน”
“ดังนั้นแล้ว คนที่สามารถช่วยฉันทำลายเกาะซื่อหลีได้ เป็นคุณงั้นเหรอ?” อะหลิงมองคนที่อยู่ตรงหน้า ตั้งหลายปีขนาดนี้แล้ว นับจากที่ได้กลับมาก็ไม่มีคนตระกูลโม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลย ก็เลยรออยู่ที่นี่? คนของตระกูลโม่ โดยพื้นฐานแล้วไม่ได้ถูกนำตัวมา แต่เดิมทีแล้วพวกเขาจะมาที่นี่กันอยู่แล้วงั้นเหรอ?
“ทำลายเกาะซื่อหลีงั้นเหรอ?” หลินฉือไม่ได้ตกใจเลยสักนิดเดียว การมาในครั้งนี้ ตั้งแต่แรกเธอก็มีความรู้สึกที่แฝงไปด้วยการทำลาย รวมไปถึงการจบสิ้นลงด้วย
“ใช่” อะหลิงมองตรงไปที่หลินฉือ นี่เป็นความปรารถนาของเธอ และก็เช่นเดียวกัน มันก็เป็นความปรารถนาของหลาย ๆ คนอีกด้วย คนที่เกาะซื่อหลี จะค่อย ๆ สูญเสียตัวเองไปแบบช้า ๆ และที่แห่งนี้ มันก็มีด้านมืดไม่มีกฎหมายคุ้มครองเยอะเกินกว่าจะบอกใครได้
“พวกคุณรั้งอยู่ที่นี่ตลอดไป เกาะแห่งนี้ มันก็อยู่ได้อีกไม่นานแล้ว” หลินฉือพูดอย่างเยือกเย็นออกมา ตอนที่พวกเขามาไม่ได้สังเกตเลยมันเหมือนกับว่าทุกคนล้วนเป็นคนปกติ แข็งแรงกันทั้งนั้น แต่ตอนนี้ ภาพเหตุการณ์ที่แวบเข้ามาเมื่อกี้นี้ มันได้ทำให้เธอรู้สึกว่ามันโหดร้าย——หลายปีมานี้ คนบนเกาะไม่เคยได้รับอนุญาตให้ออกไปเลย แทบจะทุกคนเลยที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน แต่งงานกันเอง เด็กที่แข็งแรงนับวันจะยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ ตอนที่เด็กคลอดออกมา ระหว่างการเติบโต ถ้าไม่แข็งแรงอีก ก็จะถูกฆ่าตายไป มีบางครั้งที่ถูกฝังทั้งเป็น บางครั้งก็ถูกเผา มีคำพูดหนึ่งบอกว่าเป็นการบูชาให้กับเทพแห่งซื่อหลี
หลินฉือไม่ได้สนใจในวิธีการพูดเหล่านั้นเลย เพียงแต่ว่า คนบนเกาะไม่ออกไปข้างนอก ความสัมพันธ์ทางสายเลือดของพวกเขารังแต่จะใกล้กันมามากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงสุดท้ายแล้ว เกรงว่าคงจะไม่มีเด็กที่แข็งแรงคลอดออกมาเลย
“ออกไปจากที่นี่เถอะ โลกข้างนอกมันใหญ่มาก พวกนายควรจะออกไปดูสักหน่อย” หลินฉือไม่อยากให้คนพวกนี้ต้องมาตายอยู่ที่นี่ การตายของพี่ชายเธอ จะต้องหาตัวต้นเรื่องมารับผิดชอบ ไม่จำเป็นต้องลากทุกคนบนเกาะมาฝังร่วมไปด้วย
“คนที่ซื่อหลี ไม่สามารถออกไปจากเกาะซื่อหลีได้!” อะลี่พูดออกไปอย่างรุนแรง
“ใครว่า?” หลินฉือย้อนถามกลับไป ถ้าเรื่องมันสามารถเล่าสืบต่อกันไปตามแบบที่เริ่มต้นได้จริง ๆ แล้วมันจะเกิดการเข้าใจผิดกันขึ้นมาอีกได้ยังไงกันน่ะ?
“นี่เป็นคำพูดที่เกาะซื่อหลีได้มีมาเมื่อนานมาแล้ว” อะลี่ยิ้มเย็นออกมา คนนอกคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องของเกาะซื่อหลีกัน
“งั้นเหรอ? แต่ว่า ถ้าเป็นตระกูลโม่ ในอดีตก็เป็นคนของเกาะซื่อหลีด้วยเหมือนกันนะ?” คำพูดของหลินฉือได้สร้างความตกตะลึงออกมา ถึงแม้ว่าหลากหลายเรื่องมันไม่อาจจะอธิบายได้ แต่ว่า ตระกูลโม่ก็เคยเป็นคนของเกาะซื่อหลีจริง ๆ เพียงแต่ว่าพวกเขาได้เลือกที่จะจากไปแล้ว
ลูกปัดเส้นนี้ เป็นของเกาะซื่อหลี บางทีอาจจะเคยเป็นของเธอจริง ๆ จู่ ๆ หลินฉือก็ยอมรับลักษณะการพูดนี้ขึ้นมา
“เธอพูดอะไร?” อะลี่มองหลินฉือไปด้วยความประหลาดใจ คนที่อยู่โดยรอบก็แสดงสีหน้าช็อกตกใจกันออกมาเหมือนกัน ตระกูลโม่ เป็นคนเกาะซื่อหลี?
“พวกนายไม่ได้ฟังผิดไปหรอก ฉันพูดว่าตระกูลโม่ คนกลุ่มนั้นที่ได้เดินออกไปจากเกาะซื่อหลีเมื่อครั้งที่นานมาแล้ว ถูกเรียกว่าเป็นพวกกบฏ พวกคนที่จะต้องไม่ตายดีพวกนั้นไง” หลินฉือค่อย ๆ พูดอธิบายออกไปช้า ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...