บทที่ 295 เย่ซือเฉินต้องตั้งใจแน่
“ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ ไม่มีธุระอะไรฉันจะวางสายแล้วนะ” เวินลั่วฉิงรู้ดีถึงความอยากรู้อยากเห็นของมู่หรงดัวหยาง ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอกับเย่ซือเฉิน เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรมาก
“รอเดี๋ยวฉิงฉิง เธอได้ติดต่อกับลูกพี่หรือเปล่า?” มู่หรงดัวหยางนึกถึงลูกพี่ที่น่าสงสารบ้านเขาตอนนี้ยังอยู่เมืองA ยังไม่รู้เลยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ที่นี่เขาสืบไม่เจอข่าวใดๆเลย บางทีฉิงฉิงอาจจะรู้อะไรบ้าง
“ไม่มีนะ มีอะไรหรือเปล่า? รุ่นพี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? พวกเธอไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ?” เวินลั่วฉิงความรู้สึกไวมาโดยตลอด ทันทีที่ได้ยินคำนี้ของเขา ก็รู้ได้ถึงความผิดปกติ
มู่หรงดัวหยางถอนหายใจเงียบๆ ทอดถอนใจเพื่อลูกพี่บ้านเขาอีกครั้งในใจ หัวใจทั้งดวงของลูกพี่บ้านเขาอยู่ที่ฉิงฉิง ให้ความสนใจกับเรื่องของฉิงฉิงตลอดเวลา
แต่ฉิงฉิงปฏิบัติกับลูกพี่......
เขารู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ฉิงฉิงใส่ใจเรื่องของเย่ซือเฉินมากกว่าเรื่องของลูกพี่มากนัก
ฉิงฉิงคิดจะช่วยเย่ซือเฉินจากความอยุติธรรมแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ยอมรับ แต่ว่าน้ำเสียงเมื่อกี้ของฉิงฉิง ท่าทีแบบนั้น สิ่งที่แสดงออกมาล้วนแต่ให้ความรู้สึกแบบนั้น
บางทีฉิงฉิงอาจจะไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ว่าเขารู้ว่า อย่างน้อยจิตใต้สำนึกของฉิงฉิงก็รู้สึกว่าท่าทีของคุณปู่เย่ที่มีต่อเย่ซือเฉินไม่ยุติธรรม
ฉิงฉิงที่เขารู้จักเป็นคนใจดีก็จริง แต่ว่าฉิงฉิงที่เขารู้จักเป็นคนที่มีเหตุผลมากที่สุด ช่วยเย่ซือเฉินที่แข็งแกร่งกว่าเธอไม่รู้ตั้งกี่เท่าจากความอยุติธรรม นี่เป็นเรื่องปกติเหรอ? ปกติเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าไม่ปกติ และไม่ปกติอย่างมาก
เขารู้สึกว่า ฉิงฉิงกำลังจะถูกสุนัขจิ้งจอกอย่างเย่ซือเฉินลักพาตัวไปแล้วจริงๆ
ลักพาตัวคนไปไม่ว่า กลัวก็แต่สุนัขจิ้งจอกอย่างเย่ซือเฉินจะลักหัวใจของฉิงฉิงไปด้วย
เขาอยากเห็นฉิงฉิงมีความสุข หลายปีมานี้ไม่เคยมีใครสามารถเดินเข้าไปในใจฉิงฉิงได้ แต่ว่าเย่ซือเฉินกลับใช้เวลาสั้นๆแค่สองเดือนก็สามารถทำได้แล้ว
นี่เป็นความสามารถของเย่ซือเฉิน และก็เป็นพรหมลิขิตของพวกเขาสองคน
มู่หรงดัวหยางรู้สึกว่าเรื่องบางอย่าง เขาก็ไม่ต้องพูด
“ตกลงรุ่นพี่เป็นอะไรกันแน่?” เวินลั่วฉิงเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไร เธอนึกว่าเรื่องคงร้ายแรงมาก อดไม่ถามอีกครั้งไม่ได้ “มู่หรงดัวหยาง ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ตอนนี้ลูกพี่อยู่เมืองA” เดิมทีมู่หรงดัวหยางไม่อยากพูด แต่ในเมื่อเวินลั่วฉิงถามแล้ว ถ้าหากเขาไม่พูด เขากลัวว่าเวินลั่วฉิงจะเป็นกังวล แต่ว่าเขาพูดแค่ว่าลูกพี่อยู่เมืองA แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เย่ซือเฉินปิดกั้นลูกพี่
เขาไม่สามารถจะให้ฉิงฉิงลำบากใจอยู่ตรงกลางระหว่างเย่ซือเฉินกับลูกพี่
“รุ่นพี่อยู่เมืองA?” ตอนที่เวินลั่วฉิงพูดคำนี้ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แสดงว่าไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ
เย่ซือเฉินที่ออกมาจากห้องหนังสือและเดินถึงหน้าประตูพอดี ได้ยินคำนี้ของเธอพอดี
อีกด้านของโทรศัพท์ มู่หรงดัวหยางได้ยินคำพูดนี้ของเวินลั่วฉิงเขาไว้อาลัยให้ลูกพี่ของเขาสามวินาทีอีกครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกพี่ทำล้วนแต่ทำเพื่อฉิงฉิงทั้งนั้น ลูกพี่อยู่เมืองAนานขนาดนี้แล้ว ฉิงฉิงกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย!
“กำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่?” คุณชายสามเย่ผลักประตูออก เข้าไปในห้องนอน เดินตรงไปข้างตัวของเวินลั่วฉิง รวบเอาเวินลั่วฉิงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอย่างเป็นธรรมชาติ
ตอนที่คุณชายสามเย่พูด คือเข้าใกล้โทรศัพท์ของเงินลั่งฉิงตอนพูด เขาไม่รังเกียจที่จะให้คนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ได้ยิน
หรือควรจะบอกว่า เขาตั้งใจให้คนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ได้ยิน
ได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงเมื่อกี้ เขาเดาได้เลยว่าคนที่กำลังคุยโทรศัพท์กับเวินลั่วฉิวต้องเป็นคนของถังไป๋เชียนแน่นอน
ดวงตาของเวินลั่วฉิ่งเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย อดที่จะขบเม้มมุมปากไม่ได้ อยากจะวางสายโทรศัพท์ แต่ว่าจู่ๆมือของคุณชายสามเย่ก็กุมมือของเธอเอาไว้ หยุดการกระทำที่กำลังจะวางสายของเธอพอดี
“เย่ซือเฉิน คุณอย่าวุ่นวาย......” เวินลั่วฉิงกลอกตาใส่เขาโดยตรง คนฉลาดแบบเธอ ต้องเข้าใจจิตใจที่มุ่งหวังบางอย่างของเขาอยู่แล้ว
คนคนนี้ทำไมยิ่งอยู่ยิ่งทำตัวเป็นเด็กมากขึ้นเรื่อยๆ เธอคิดถึงคุณชายสามเย่คนเดิมที่สุขุมเยือกเย็นและฉลาดจริงๆ ขอคุณชายสามเย่คนเก่าคืนมาได้ไหม?
“ทำไม? ยังอายอีกเหรอ? เราเป็นสามีภรรยากัน นอนด้วยกันทุกคืน ทำไมถึงยังอายขนาดนี้อีก?” คุณชายสามเย่กอดเธอเอาไว้ จูบไปที่ปากของเธออีกครั้ง ยิ้มแบบครุมเครือ(มีความรู้สึกต่อกันแต่ไม่แสดงออกมาให้ชัดเจน)เป็นพิเศษ
คำพูดประโยคนี้ของคุณชายสามเย่ตั้งใจพูดให้คนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ฟัง ทางที่ดีคือให้ผ่านคนที่รับโทรศัพท์ในตอนนี้บอกกับถังไป๋เชียน ให้ถังไป๋เชียนได้เข้าใจว่าเวินลั่วฉิงเป็นผู้หญิงของเขา เป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ตั้งนานแล้ว
“......” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ตาทั้งคู่ของมู่หรงดัวหยางเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น ดูท่าระหว่างฉิงฉิงบ้านเขากับเย่ซือเฉินจะเข้ากันได้ดีมาก!
แน่นอนว่ามู่หรงดัวหยางก็เข้าใจความหมายของเย่ซือเฉิน ดังนั้นเขาจะต้องช่วยเอาคำพูดของเย่ซือเฉินไปบอกลูกพี่เขาแน่
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าลูกพี่คิดอย่างไรกับฉิงฉิง แต่ว่าเรื่องของความรักไม่อาจจะฝืนใจกันได้ บอกกับลูกพี่ ให้ลูกพี่ตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆ
เวินลั่วฉิงวางหูโทรศัพท์ จ้องมองเย่ซือเฉินด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “เย่ซือเฉิน คุณเป็นเด็กน้อยหรืออย่างไร?”
ทำไมเธอรู้สึกว่าเย่ซือเฉินยิ่งอยู่ยิ่งถอยหลังกลับไป ราวกับเด็กสามขวบก็ไม่ปาน
“ที่รัก แบบผมเรียกว่าอรรถรส” คุณชายสามเย่ยิ้มมุมปาก บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเข้าใกล้หูของเธอ กระซิบเบาๆ เสียงนั้นนุ่มนวลเป็นพิเศษ แต่กลับเต็มไปด้วยความคลุมเครือ
เหมือนเด็กเหรอ? เขารู้สึกว่าไม่เด็กเลยสักนิด และเขายังรู้สึกว่าจำเป็นต้องทำเรื่องพวกนี้
“อรรถรส? ฉันว่าคุณน่าจะเรียกฉิงโซ่(สัตว์ร้าย)” เวินลั่วฉิงกลอกตาใส่เขาตรงๆ นึกถึงการกระทำที่เขาทำกับเธอทุกๆคืน เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าคำว่าฉิงโซ่(สัตว์ร้าย)คำนี้เหมาะกับเขาที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...