ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 311

บทที่ 311 ต้องจ่ายคืนเสมอเมื่อออกมาใช้ชีวิตข้างนอก คุณชายสามเย่ (3)

เธอบอกว่าเขาตาบอด ถึงขนาดบอกว่าเขาแยกแยะไม่ออก เขาจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเธอ แต่เธอดันบอกว่าเขาไร้ประโยชน์?

เขามีประโยชน์หรือไม่ เธอไม่รู้หรอกเหรอ? เธอพูดคำนี้ออกมาไม่ขัดต่อความรู้สึกบ้างหรือไง?

จูบของเย่ซือเฉินนั้นดุเดือดแม้จะหยาบไปหน่อย แต่ก็เป็นการลงโทษที่รุนแรงเล็กน้อย

สาวงามวูบแทบล้มทั้งยืน อัปลักษณ์น่าเกลียดขนาดนั้น ผู้ชายคนนี้จูบลงได้อย่างไร? และยังจูบกันดุเดือดขนาดนี้?!

หรือว่าเขาตาบอดจริงๆ แต่เขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนนี่นา

“คุณผู้หญิง เครื่องบินกำลังจะออกแล้ว กรุณากลับเข้าที่นั่งและคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยนะคะ” แอร์โฮสเตสตะลึงเมื่อเห็นสาวสวยยืนอยู่ที่นั่นจากนั้นก็เตือนเธออย่างสุภาพ

เมื่อแอร์โฮสเตสเห็นบทรักที่รุนแรงของพวกเขาทั้งสองคน ดวงตาของเธอเป็นประกาย แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร บนเครื่องบินไม่ได้มีกฎห้ามจูบ

ในขณะเดียวกันสาวงามก็ไม่ได้รู้สึกยินดีด้วย ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง อาจเป็นยัยอัปลักษณ์ที่วางยาชายคนนั้นก็ได้ ดังนั้นชายคนนั้นจึงรู้สึกว่ายัยอัปลักษณ์ที่น่าเกลียดนั้นสวยงาม และยังจูบยัยอัปลักษณ์ที่น่าเกลียด สาวงามคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชายปกติจะจูบยัยอัปลักษณ์น่าเกลียดคนนั้น

“คุณค่ะ ฉันคิดว่าคุณอาจถูกคนอัปลักษณ์คนนั้นวางยาค่ะ” สาวงามคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้นจริงๆ

แอร์โฮสเตสหันมาสบตาเธอและมองไปที่สาวงามพร้อมกับขมวดคิ้ว คนทั้งสองคนจูบดูดดื่มจนแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้ขนาดนั้น ดูก็รู้ว่าเป็นคู่รักหรือสามีภรรยากัน จู่ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็พูดประโยคแบบนี้ออกมาได้ยังไง? เธอมีอาการหลงผิดหรือไง?

ดวงตาของเย่ซือเฉินหนักอึ้งเล็กน้อย และใบหน้าของเขาก็ดูเย็นลง

เพียงแค่คุณชายสามเย่ยังไม่ได้เปิดปากพูด ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงก็อุทานขึ้นมาด้วยสีหน้าตกใจ “โอ๊ะ คุณรู้ได้อย่างไร? คุณมองออกขนาดนั้นเลย? เก่งจริงนะคะ”

“ฉันจะทำอย่างไรดีล่ะ? โดนคุณจับได้ซะแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้น คุณให้คนมาจับฉันไปเถอะ” เวินลั่วฉิงเดิมทีก็ไม่ต้องการออกไปทำงานนอกสถานที่กับเย่ซือเฉิน ดังนั้นถ้าเธอมีโอกาสลงเครื่องไป เธอก็รู้สึกยินดีจริงๆ

สาวงามเดิมคิดว่านี้อาจจะเป็นเพียงการคาดเดา เมื่อเธอได้ยินเวินลั่วฉิงยอมรับ ตัวเธอเองก็รู้สึกดีมาก เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ผู้ชายคนนั้นจะต้องรู้สึกขอบคุณเธอและเธอก็จะมีโอกาส

แอร์โฮสเตสไม่เชื่อในคำพูดของสาวงาม แต่เมื่อเธอได้ยินเวินลั่วฉิงยอมรับ ใบหน้าของเธอก็ประหลาดใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เธอก็ควรแจ้งกัปตันหรือไม่?

แต่เมื่อเธอมองไปที่เวินลั่วฉิง เธอก็ตะลึงทันที

“ที่รัก เล่นพอได้แล้วยัง?” คุณชายสามเย่แอบถอนหายใจเล็กน้อย ภรรยาของเขาซุกซนจริง ๆ จนเขาไม่สามารถเอาอยู่ได้

ยามเมื่อคุณชายสามเย่พูดคำพูดนี่นั้นเต็มไปด้วยความเอ็นดูและยอมรับเต็มใจ หลังจากนั้นก็จูบเบาๆ บนแก้มของเวินลั่วฉิง

คุณชายสามเย่หวานออกสื่อขนาดนี้ สามารถฆ่าสาวงามผู้นั้นได้โดยตรง

ณ เวลานี้ น้ำเสียงของคุณชายสามเย่ ลักษณะท่าทางอย่างนี้ ควบคู่ไปกับเสียงที่เรียกภรรยาของเขา ก็ไม่มีใครสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเขาอีกต่อไป

เวินลั่วฉิงก็รู้ด้วยว่า ในขณะนี้สิ่งที่เธอพูดออกไปนั้นไร้ประโยชน์ ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ

เพียงแค่คำพูดเดียวก็สามารถปิดกั้นหนทางของเธออย่างสมบูรณ์

เธอไม่เข้าใจ ทำไมเขาต้องลากเธอไปทำงานนอกสถานที่ด้วย? แถมยังใช้ทุกวิถีทางเพื่อบังคับเธออีกด้วย

เธอยิ่งไม่เข้าใจ สิ่งที่เวินลั่วฉิงต้องการที่จะทำ เมื่อก่อนไม่เคยทำไม่สำเร็จ แต่ทำไมกลับแพ้ให้เขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แอร์โฮสเตสเป็นคนฉลาด เข้าใจว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ากำลังโกรธ แต่ก็รู้ด้วยว่าผู้ชายคนนั้นกำลังพยายามทำให้สาวงามตกใจกลัว

นี่คือเครื่องบินโดยสาร แม้ว่าสาวงามจะอยากลองกระโดดร่มจริงๆ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเสนอเงื่อนไขนั้นได้

แต่สาวงามกลับคิดว่าเป็นเรื่องจริง เห็นได้ชัดว่าสวยแต่ไม่มีสมอง

“ฉันไม่ ฉันไม่ได้” สาวงามตกใจจนใบหน้าเปลี่ยนสีไปหมด เธอยังคงจำสายตาคู่นั้นที่เย่ซือเฉินมองมาที่เธอได้ ตัวสั่นและเย็นขึ้นทันที ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นต้องการฆ่าเธอ

พูดอะไรนะ ให้กระโดดร่ม? เธอรู้สึกว่าที่บอกว่าจะผลักเธอลงไปนั้นคงเป็นความจริง เขาต้องอยากจะฆ่าเธอแน่

ในขณะนี้ดวงตาของเขาน่ากลัวยิ่งขึ้น จนไม่สามารถบดบังรังสีอยากฆ่าได้

“ไม่ ฉันต้องการจะลง ฉันจะลงจากเครื่องบิน” สาวงามไม่รอแอร์โฮสเตสและหันหลังวิ่งจากไปทันที

มุมปากของแอร์โฮสเตสเม้มอย่างหนัก ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะป่วยจริงๆ

“คุณผู้ชายและคุณผู้หญิง ต้องขอโทษจริงๆ ที่รบกวนพวกคุณ ตอนนี้ฉันจะอยู่ให้บริการของพวกคุณตลอดระยะเวลาในการเดินทางใน ...” แอร์โฮสเตสหันไปหาเย่ซือเฉินและเวินลั่วฉิงอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มที่สุภาพบนใบหน้า แต่เมื่อเธอมองที่เวินลั่วฉิง ดวงตาของเธอก็สว่างขึ้นเล็กน้อย

“เธอ เธอคือหลิวหยิง” เวินลั่วฉิงก็มองกลับไปที่เธอ ดวงตาของเธอเป็นประกายและก็อุทานออกมา

“ใช่ ใช่เวินลั่วฉิง ไม่ได้เจอกันนานเลย” ในความเป็นจริง ยามเมื่อหลิวหยิงเห็นเวินลั่วฉิงครั้งแรกเธอก็จำได้แล้ว อย่างไรเสียขี้แมลงวันบนใบหน้าของเวินลั่วฉิงก็สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจน

“เป็นเธอจริงๆ ด้วย” เห็นความประหลาดใจเล็กน้อยบนใบหน้าของเวินลั่วฉิง ตอนที่เวินลั่วฉิงยังเด็ก เวินลั่วฉิงมีเพื่อนเพียงคนเดียวคือหลิวหยิง มีเพียงหลิวหยิงเท่านั้นที่ไม่รังเกียจว่าเธอโง่และไม่รังเกียจว่าเธอ “น่าเกลียด”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน