“เย่ซือเฉิน……”ดวงตาเวินลั่วฉิงหรี่ขึ้นอีกครั้ง ความโกรธอัดอั้นอยู่ในใจจนเธอรู้สึกทรมาน เธอรู้สึกตัวเองใกล้จะระเบิดอารมณ์ออกมาเต็มที่แล้ว เธอพยายามควบคุมตัวเองสุดความสามารถ บอกให้ตัวเองใจเย็นเข้าไว้“คุณรู้จักฉันดี……”
เธอหยุดพูดราวกับกำลังลังเล คล้ายกับกำลังสับสนและระคนอารมณ์อื่นร่วมด้วย
จากนั้นเธอก็แอบถอนหายใจเบาๆ เอ่ยทีละถ้อยคำช้าๆ:“เย่ซือเฉิน พวกเราจบกันด้วยดีเถอะ”
สิ่งที่เธอทำได้ก็คงมีเพียงเท่านี้ เธอคงด่าเขา ทุบตีเขา ให้เขารับผิดชอบอย่างบ้าคลั่งไม่ได้มั้ง?
เธอทำไม่ลง!
เมื่อเย่ซือเฉินได้ยินร่างกายพลันแข็งค้าง จากนั้นเขาก็ยืนตัวตรง ใบหน้าเขาเคลื่อนออกจากข้างหูเธอ ดวงตาทั้งคู่ของเขาจ้องมองเธอ “เวินลั่วฉิง คุณลองพูดอีกครั้งนี้ดูสิ!”
บัดนี้เขาไม่โทรอีกแล้ว ไม่รู้ว่าคู่สายอย่างถังจื่อซีที่ไม่รับสายกำลังทำอะไรอยู่
ทว่าเวลานี้เย่ซือเฉินไม่มีอารมณ์ไม่ใส่ใจต่อเรื่องนั้น ตอนนี้เขารู้เพียงว่าผู้หญิงของเขาบอกเขาว่า จากกันด้วยดี?
จากกันด้วยดี?
เธอช่างกล้าพูดนัก?!
เมื่อก่อนเธอพูดเช่นนี้ ตอนนั้นเขาก็ยังพอเข้าใจได้ ถึงแม้จะไม่เข้าใจแต่ก็ต้องเข้าใจ ทว่าตอนนี้……
ตอนนี้เขาอยากกัดเธอให้ตายอย่างเดียว
พวกเขาร่วมฟันฝ่าอุปสรรคมาถึงตอนนี้ง่ายหรือเปล่า?อีกทั้งเขากับเธอยังมีลูกสาวอีกหนึ่งคนแล้ว
ตอนนี้เธอจะเลิกกับเขา?
การเลิกที่สมควรตาย?
เวินลั่วฉิงมองเขา จู่ๆก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมและรู้สึกคาดไม่ถึง เขายังมาโกรธอีกหรือ?
เขายังโมโหใส่เธออีกหรือ?
เธอยังไม่ได้โมโหใส่เขาเลย เขากลับเป็นฝ่ายโมโหใส่ซะงั้น?
เธอพูดผิดเหรอ?
เขามีสุดที่รักอะไรนั้นแล้ว แถมยังให้ความสำคัญมากอีกต่างหาก
งั้นเธอเป็นฝ่ายถอยออกมา เพื่อให้พวกเขาได้ครองรักกัน ยังผิดหรือ?
เขายังขู่เธออีก?
เวินลั่วฉิงอย่างเธอเกลียดคนมาข่มขู่เธอที่สุด
“พวกเราจากกันด้วยดีเถอะ”เวินลั่วฉิงเน้นย้ำทีละคำอีกครั้ง เธอจะพูดแบบนี้สักอย่าง จะทำไม?
ทั้งๆที่เขาเป็นคนผิด?ทำไมเธอจะพูดไม่ได้?ยังไม่มีสิทธิ์พูดอีก?
ยังมีความยุติธรรมหลงเหลืออยู่ไหม?
ดวงตาที่เย่ซือเฉินมองเธอหรี่ขึ้นอย่างอันตราย:“เวินลั่วฉิง ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้ายในการพูดจาดีๆ”
เมื่อสักครู่เห็นเธอโกรธเพราะความหึง เขายังดีใจอยู่เลย แต่ผลสุดท้ายก็คือ เธอดันพูดกับเขาว่า จากกันด้วยดี
จากกันด้วยดี?
พวกเขาผ่านเรื่องราวต่างๆนาๆมาด้วยกัน ในหัวใจเธอเขาไม่ใช่อะไรเลยหรือ หรือบอกจะเลิกก็เลิกได้อย่างง่ายดาย?
ทำไมเธอถึง?
ทำไมเธอถึงกล้าเอ่ยคำนี้ออกมาง่ายๆ?
ข้อเรียกร้องของเธอต่อความรักอาจจะบริสุทธิ์กว่าคนอื่นก็เป็นได้
เธอสามารถมองข้ามปัจจัยภายนอกอย่างอื่นได้ แต่สำหรับความรัก เธอต้องการรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีการปรุงแต่ง ไม่มีผู้อื่นมาเกี่ยวข้อง
เย่ซือเฉินมองเธอ พลางถอนหายใจเบาๆ เอาเธอไม่อยู่จริงๆเลย
เวลานี้เย่ซือเฉินทับเธอไว้อย่างแน่นหนึบ ร่างกายทั้งสองแนบติดกันเป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นเธอได้ยินเสียงถอนหายใจของเย่ซือเฉิน
เขาไม่ได้อธิบายอะไรสักคำตั้งแต่ต้น แล้วมาถอนหายใจอะไร?
ลำบากใจมากหรือ?เบื่อมากหรือ?!
อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องลำบากใจอะไรเลย!
เวินลั่วฉิงรอคอยคำอธิบายมาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีเลย เธอคิดว่าตัวเองอดทนสูงแล้วนะ แต่เวลานี้เธอกลับรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีความอดทนสูงเช่นนั้น เธอมาถึงขีดความอดทนสูงสุดแล้ว
ทว่าเวินลั่วฉิงยังคงระงับอารมณ์สุดความสามารถ และควบคุมตัวเองเต็มที่ เธอมองเขา เธอยังอยากได้ยินคำอธิบายจากปากของเขา
ขอเพียงเขาอธิบาย……
แต่เย่ซือเฉินกลับเอามือถือขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็โทรไปยังเบอร์เมื่อสักครู่นี้
สิ่งที่เย่ซือเฉินคิดก็คือ สถานการณ์อย่างนี้ เขาคงอธิบายไม่ง่าย แน่นอนเขายังรู้ว่าหากเรื่องวันนี้ไม่สะสางก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้
ดังนั้นเขาจำเป็นต้องโทรหาเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีของเขา เขาจำเป็นต้องให้เจ้าหญิงน้อยของเขาอธิบายทุกอย่างนี้
เวินลั่วฉิงเห็นการกระทำของเย่ซือเฉิน ดวงตาของเธอก็หรี่ขึ้นเล็กน้อย หัวใจรู้สึกหนาวเย็น เธอหัวเราะออกมา จากนั้นก็พูดช้าๆว่า “เย่ซือเฉิน ฉันไม่อยากโวยวาย ฉันยิ่งไม่อยากด่าคุณ ไม่อยากตีคุณ ฉันรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำเรื่องราวให้ใหญ่โตจนดูไม่ได้ ไม่สู้ทำให้เด็ดขาดจะดีกว่า ดังนั้นพวกเราเลิกกันเถอะ”
ครั้งนี้น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงสงบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความบุ่มบ่ามที่เกิดจากความโกรธลดน้อยลง และมีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นหลายส่วน
เข้มงวดก็แสดงว่าจริงจัง แสดงความการบอกเลิกครั้งนี้จริงจังมาก!ซึ่งครั้งแรกไม่ได้จริงจังเท่านี้มาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...