บทที่ 21 เกิดเรื่องน่าสลดในตอนที่มีความสุขที่สุด
จนกระทั่งตอนนี้นายท่านฉินถึงจะได้เข้าใจว่าทำไมลั่วปิงถึงได้ส่งสัญญามาก่อน แล้วค่อยมาแจ้งว่าพวกเขาทำผิดสัญญา
ใครจะไปคิดว่าเนื้อหาในสัญญาหนึ่งข้อยังเจาะจงฉินซีเป็นผู้รับผิดชอบอีก
“หัวหน้าหวัง คุณให้ผมได้เข้าพบประธานลั่วสักหน่อย ผมรู้ความผิดแล้ว ขอเพียงประธานลั่วยินยอมปล่อยตระกูลฉินไปสักครั้ง ไม่ว่าเขามีเงื่อนไขอะไรผมก็จะรับปาก เขาชอบฉินซีไม่ใช่เหรอ? ผมสามารถตัดสินใจให้ฉินซีไปเป็นผู้หญิงของเขาด้วยตัวเองได้”
หลังจากมีท่าทางไร้วิญญาณชั่วขณะสั้น ๆ นายท่านฉินก็เดินหน้าเข้าไปจับแขนของหัวหน้าหวังในทันที อารมณ์ฮึกเหิมสุดขีด
“หุบปาก!”
คำพูดของนายท่านฉินเกือบจะทำให้หัวหน้าหวังตกใจจนปัสสาวะเล็ด เขาร้องคำรามขึ้นมาในทันที “คุณอยากตายก็อย่ามาลากผมเข้าไปเกี่ยว ต่อให้ประธานลั่วมาที่นี่เขาก็ต้องด่าคุณอย่างนี้แหละ”
เขารู้ดีเป็นอย่างมากว่าทำไมลั่วปิงจะต้องทำอย่างนี้กับตระกูลฉิน ทั้งหมดเป็นเพราะผู้ชายคนนั้น
นายท่านฉินฟังความหมายลึกซึ้งที่อยู่ในคำพูดของหัวหน้าหวังออก ความตื่นตะลึงในดวงตาของเขาก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น เขาพูดด้วยท่าทางขวัญหนีดีฝ่อว่า “หรือว่าจะเป็นคนจากตระกูลอวี่เหวินที่ถูกใจฉินซี?”
“พอแล้ว เรื่องที่ควรพูดผมพูดไปหมดแล้ว ต่อไปพวกเรามาคุยเรื่องหลักกัน”
หัวหน้าหวังไม่กล้าเปิดเผยความลับไปมากกว่านี้ เขากระแอมในลำคอ “เนื่องจากพวกคุณเป็นฝ่ายผิดสัญญา และได้สร้างความสูญเสียให้กับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเป็นอย่างมาก พวกคุณจำเป็นต้องชดใช้ค่าเสียหายมหาศาล และตอนนี้ผมจะบอกแผนการชดใช้ให้ พวกคุณสามารถพิจารณาว่าจะสามารถยอมรับได้หรือไม่”
“เชิญคุณพูดมา!”
ยกเรื่องชดใช้ขึ้นมา ทุกคนในตระกูลฉินก็หวาดกลัวลนลาน
“มีคนคนหนึ่งสนใจซานเหอกรุ๊ป และได้ฝากฝังกับประธานลั่วของพวกเราไว้ว่าให้ช่วยรับเอามา พวกคุณก็รู้ว่าถ้าหากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปจะกดดันจริง ๆ ตระกูลฉินคงล้มลงไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้เพียงต้องการให้พวกคุณใช้ซานเหอกรุ๊ปเป็นของชดใช้ เป็นแค่การซื้อขายหนึ่งเท่านั้น” หัวหน้าหวังพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ชดใช้คืนได้จริง ๆ เหรอ?” นายท่านฉินยินดีปรีดาขึ้นในฉับพลัน
ถ้าหากทำตามข้อตกลงในสัญญาละก็ พวกเขาจะต้องชดใช้ให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปพันล้าน ซึ่งต่อให้ขายทั้งตระกูลฉินทิ้งไปก็ยังมีเงินไม่ถึงพันล้าน อีกอย่างมูลค่าทางการตลาดของซานเหอกรุ๊ปเต็มที่ก็ได้แค่ร้อยล้านเท่านั้น
“จริงแท้แน่นอน!”
หัวหน้าหวังร้อง ‘เฮอะ’ ออกมาครั้งหนึ่ง “ถ้าหากไม่ใช่คนคนนั้นที่อยู่เบื้องหลังของประธานลั่วยินดีที่จะปล่อยให้ตระกูลฉินมีหนทางมีชีวิตรอดทางหนึ่ง มันจะง่ายดายขนาดนี้เหรอ?”
“ยินยอม! พวกเรายินยอม!” นายท่านฉินพูดไปด้วยหัวเราะเสียงดังไปด้วย
เมื่อกี้ยังนึกว่าจะต้องชดใช้ตามในข้อตกลงของสัญญา ตอนนี้แม้ว่าจะต้องละทิ้งซานเหอกรุ๊ปไป แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถรักษาตระกูลฉินเอาไว้ได้
อีกอย่าง เดิมซานเหอกรุ๊ปก็แย่งเอามาจากในมือของฉินซี ต่อให้พังในมือไปเขาก็ไม่เจ็บใจ
นายท่านฉินเกิดความหวาดกลัวว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปจะเปลี่ยนใจ รีบเรียกทนายมาจัดการขั้นตอนการส่งมอบซานเหอกรุ๊ปทั้งหมดให้สำเร็จเสร็จสิ้นทันที
อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินส่งฉินซีกลับบ้านแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉินซีหลับไปในอ้อมกอดของเขา
“พี่สาวฉันเป็นอะไร?”
ฉินยีเห็นฉินซีโดนอุ้มก็มีสีหน้าลุกลี้ลุกลน ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอรีบไปจนถึงตระกูลฉิน หยางเฉินก็พาฉินซีออกไปพอดี
“เธอเพียงแค่เหนื่อยเกินไป ก็เลยหลับไปแล้ว”
หยางเฉินตอบออกมาคำหนึ่ง เขานำฉินซีวางลงบนเตียงนอนใหญ่ในห้องนอน พลางมองฉินยีแล้วพูดว่า “ดูแลเธอให้ดี!”
พูดประโยคนี้จบ หยางเฉินก็หันหลังจากไป
ในตอนนี้ ฉินยีรู้สึกราวกับเป็นภาพลวงตา ภายในเวลาเพียงชั่วพริบตา หยางเฉินก็ราวกับเป็นไปเป็นอีกคน
เธอมองส่งหยางเฉินไปตลอดทาง ในตอนที่เขากำลังจะหายไปจากระยะสายตาของเธอ ฉินยีก็พูดขึ้นมาคำหนึ่งในทันที “พี่เขย!”
ได้ยินสองคำนี้หยางเฉินก็สั่นไปทั้งร่าง ฝีเท้าก็เชื่องช้าอย่างไม่อาจควบคุม ยืนฟังเสียงของฉินยีที่ดังมาจากด้านหลังต่อไป “รับปากฉัน ว่าจะไม่ให้พี่สาวของฉันต้องเจ็บปวดอีก ฉันเชื่อว่าคุณทำได้”
“ได้!”
หยางเฉินตอบกลับมาหนึ่งคำแล้วก้าวเท้าจากไป
ฉินมองดูเงาร่างนั้นที่ค่อย ๆ หายในท่ามกลางสายฝน แล้วก็รู้สึกเป็นทุกข์ในใจจนพูดไม่ออก
เธอไม่รู้ว่าหยางเฉินไปที่แบบไหนมา แต่มีความรู้สึกหนึ่งอย่างเบาบางว่าในตอนที่ได้พบเขาอีกครั้ง เขาจะทำให้ทุก ๆ คน ตกตะลึงได้
ชั้นบนสุดของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
“ท่านประธานครับ เมื่อครู่มีข่าวส่งเข้ามาว่าได้ซานเหอกรุ๊ปมาอยู่ในมือแล้วครับ” ลั่วปิงรายงานอย่างระมัดระวัง
หยางเฉินกลับไม่แปลกใจ เขาถามขึ้นทันทีว่า “แหวนเพชรในเจียงโจวที่ไหนดีที่สุด?”
“สองทุ่มคืนนี้ ที่เนเวอร์ไนต์คลับมีสมาคมการประมูลแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีเครื่องประดับหายากล็อตหนึ่งอยู่พอดีเลยครับ รายการท้ายสุดคือแหวนเพชรหนึ่งวง ถูกเรียกว่าดวงดาวชมพู ผู้หญิงชั้นสูงมากมายในเจียงโจวก็ไปที่นั่นเพราะแหวนเพชรวงนี้แหละครับ” ลั่วปิงพูดขึ้นทันที
“ดี คืนนี้ไปกับผมหน่อย” หยางเฉินพูด
ลั่วปิงยินดีขึ้นฉับพลัน รีบตอบตกลงทันที หยางเฉินจะพาเขาไปสมาคมการประมูล นั่นก็แสดงว่าหยางเฉินมองเห็นเขาเป็นคนกันเองแล้ว
ตอนเกือบจะสองทุ่ม มายบัคสีดำหนึ่งคันจอดอยู่ที่ประตูเนเวอร์ไนต์คลับอย่างช้า ๆ นี่คือสถานบันเทิงที่ระดับสูงที่สุดในเจียงโจว
“ท่านปู่ เมื่อคืนเกิดเรื่องขึ้นที่สมาคมการประมูลที่เนเวอร์ไนต์คลับ ท่านน่าจะรู้?” ฉินเฟยถามด้วยรอยยิ้มโดยพลัน
นายท่านฉินพยักหน้า “ประมูลของไปครั้งหนึ่ง ใช้จ่ายเงินไปมหาศาล คนคนเดียวประมูลของสะสมหายากไปกว่าครึ่ง แถมทุกครั้งที่สู้ราคาก็สู้เป็นเท่าตัว เรื่องใหญ่ขนาดนี้เป็นเรื่องจริงแน่นอน”
ท่านปู่ คนที่จะอาจหาญขนาดนี้ ภูมิหลังต้องไม่ใช่เล็ก ๆ แน่ ตามที่เล่ากัน แม้แต่ซูเฉิงอู่ก็ยังต้องระมัดระวังต่อหน้าคนคนนี้ ถ้าหากพวกเราสามารถติดต่อกับคนคนนี้ได้ จะต้องกำจัดวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้แน่” ฉินเฟยพูดด้วยสีหน้าตั้งอกตั้งใจ
ในดวงตาของนายท่านฉินมีแสงสว่างโชติช่วงส่องประกายวาบผ่านเล็กน้อย เขาพูดขึ้นทันทีว่า “ตกลง ทำตามที่เจ้าว่า หาวิธีที่จะรู้ฐานะของคนคนนั้นให้ได้ จ่ายไม่อั้น ที่สำคัญคือต้องสร้างความสัมพันธ์กับเขาให้ได้”
“ท่านปู่โปรดวางใจ ผมกำลังตรวจสอบ เริ่มมีเค้าโครงขึ้นมาบ้างแล้วครับ จากที่รปภ. เนเวอร์ไนต์คลับบรรยายมา เมื่อคืนมีวัยรุ่นชายที่เสียงต่ำมากคนหนึ่ง ซูเฉิงอู่มาต้อนรับด้วยตัวเอง รอยืนยันฐานะของเขาแล้ว ผมจะรีบไปตีสนิททันที” ฉินเฟยพูดยิ้ม ๆ
“ดี ขอเพียงเจ้าสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาได้ ตระกูลฉินก็มีทางรอดแล้ว” นายท่านฉินพูดอย่างพออกพอใจ
ในตอนนี้เอง ตระกูลฉินได้รับบัตรเชิญที่ประดับด้วยไหมทองฉบับหนึ่ง
“ท่านปู่ ไหมทองที่ประดับลงบนจดหมายเชิญนี้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นทองคำแท้!” หลังจากฉินเฟยวินิจฉัยเสร็จก็พูดขึ้นอย่างตกตะลึง
“อะไรนะ? ไหมทองคำแท้?” สีหน้าของคนอื่น ๆ ล้วนต่างช็อก
นายท่านฉินรับมาดูอย่างละเอียดทันที หัวเราะขึ้นมาทันใด “จดหมายเชิญที่สามารถใช้วัสดุคุณภาพระดับนี้ได้ ภูมิหลังต้องไม่ใช่เล็ก ๆ แน่ แถมยังกล้าเชิญพวกเราไปร่วมงานเลี้ยง เขาจะต้องไม่กลัวเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแน่นอน ฮ่า ๆ สวรรค์คุ้มครองตระกูลฉินของข้าจริง ๆ!”
“จดหมายเชิญฉบับนี้ แค่ไหมทองคำก็มีมูลค่านับพันหยวนแล้ว ต่อให้เป็นตระกูลซูก็คงไม่อาจหาญขนาดนี้? ดู ๆ แล้วเจ้าของจดหมายเชิญฉบับนี้ก็คือคนลึกลับเมื่อคืน ท่านปู่ ตระกูลฉินมีทางรอดแล้วครับ!” ฉินเฟยพูดอย่างตื่นเต้น
“ตระกูลฉินมีทางรอดแล้ว!”
ทุกคนในตระกูลฉินล้วนยินดีปรีดา ตั้งแต่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปยกเลิกสัญญากับตระกูลฉินไป สถานการณ์ของตระกูลฉินนับวันยิ่งแย่ ทุกคนต่างเกรงว่าจะหลบก็หลบไม่พ้น
ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถมองเห็นตระกูลฟื้นความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน ตระกูลร่ำรวยมากมายในเจียงโจวล้วนแต่ได้รับจดหมายเชิญ ทั้งหมดล้วนเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงของเจียงโจวโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนแปลกใจก็คือ นึกไม่ถึงว่าตระกูลฉินที่ค่อย ๆ พังลงไปทุกวัน ๆ นั้นจะถูกเชิญมาด้วย
ในตอนที่บรรดาตระกูลที่เป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาเพียงฝ่ายเดียวได้รู้ว่าตระกูลฉินได้รับเชิญ ทั้งยังได้รับการส่งสัญญาไปถึงที่ด้วยตัวเอง นี่ทำให้นายท่านฉินหัวเราะปากไม่หุบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ช่วงเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ผู้นำของตระกูลที่สูงศักดิ์ ร่ำรวยและเปี่ยมไปด้วยอำนาจมากมายในเจียงโจว ล้วนแต่นำผู้ที่มีความสัมพันธ์สายตรงของตระกูลด้วยตนเองมุ่งหน้าไปยังโรงแรมสตาร์ไลท์ โรงแรมที่มีมาตรฐานสูงสุดของทั้งเจียงโจว
“ท่านปู่ ผมเชื่อว่าหลังจากวันนี้ไปจะไม่มีใครหน้าไหนในเจียงโจวกล้าดูถูกพวกเราตระกูลฉินอีกแน่นอนครับ” ฉินเฟยพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น
นายท่านฉินหัวเราะเสียงดังครั้งหนึ่ง อารมณ์ดีมากอย่างเห็นได้ชัด เดินขึ้นหน้ามาจัดระเบียบปกเสื้อให้ฉินเฟยแล้วพูดว่า “พวกเราไปกันเถอะ!”
ตระกูลฉินกลุ่มหนึ่งภายใต้การนำของนายท่านฉินก็มาถึงโรงแรมสตาร์ไลท์แล้วเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...