“คุณธรรม?”
จางเหิงหัวเราะเยาะ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็รีบพูดเรื่องคุณธรรมกับผมเลยสิ!”
“ปรมาจารย์หง ต้องลำบากท่านแล้ว!”
จูกว่างจื้อมองไปที่ปรมาจารย์หงที่อยู่ข้างกาย แล้วเอ่ยขึ้น
“ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นใคร จะให้เวลาคุณหนึ่งนาทีที่จะออกไป มิฉะนั้นก็ไม่ต้องออกไปแล้ว!”
ปรมาจารย์หงนั่งลง มองจางเหิงด้วยสีหน้านิ่งเฉยแล้วเอ่ยขึ้น
“ใช่แล้ว พวกเรายังมีปรมาจารย์หง! จะกลัวอะไร?”
“ปรมาจารย์หงเป็นยอดฝีมือที่ต้องรับมือหนิวเกนหุย ตอนนี้มีเพียงลูกศิษย์ของหนิวเกนหุยเท่านั้นที่มา ปรมาจารย์หงฆ่าเขาได้เหมือนฆ่าสุนัข!”
“มีปรมาจารย์หงอยู่ พวกเรายังต้องคิดเรื่องไปเข้าแถวอยู่อีกเหรอ?”
เมื่อเห็นปรมาจารย์หงออกหน้า ทุกคนก็ได้สติกลับมา แม้แต่หนิวเกนหุย ปรมาจารย์หงยังไม่กลัว แล้วนับประสาอะไรกับลูกศิษย์ของหนิวเกนหุย
เสียงชื่นชมเหล่านี้ เข้าหูปรมาจารย์หงทั้งหมด เขาเอนตัวพิงเก้าอี้ไม้โบราณด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ ยิ้มตาหยีจ้องมองจางเหิง
จางเหิงยิ้มเยาะ “คนอ่อนแอจากภูเขา กล้าเรียกว่าปรมาจารย์ด้วยหรือ?”
“ยังให้เวลาผมคิดอีกหนึ่งนาที?”
“คุณเจ๋งขั้นเทพขนาดนี้ อาจารย์ของคุณรู้ไหม?”
“ถือว่าผมขอร้องคุณ อย่าให้เวลาผมไตร่ตรองเลย ถ้าจะลงมือก็รีบมา ผมจะนั่งตรงนี้รอสู้กับคุณ ฆ่าคุณก็เหมือนฆ่าไก่!”
ท่าทีของจางเหิงจองหองจนถึงขีดสุด ไม่ได้เห็นปรมาจารย์หงอยู่ในสายตาเลย
“ไอ้สารเลว! แกนี่รนหาที่ตาย! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะให้คุณได้เห็นความแข็งแกร่งของปรมาจารย์หง!”
ปรมาจารย์หงโกรธจัด ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เท้าเหยียบลงบนพื้นอย่างฉับพลัน
“ปัง!”
พื้นหินอ่อนใต้เท้าของเขาแตกทันที ฝุ่นปลิวตลบ
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของปรมาจารย์หงก็ว่องไวราวกับเสือชีตาห์ กลายเป็นเงาพุ่งเข้าหาจางเหิงที่นั่งนิ่งไม่ขยับอยู่กลางห้องประชุม
“เยี่ยมมาก ในที่สุดปรมาจารย์หงก็จะลงมือแล้ว!”
“ไอ้โง่จากสมาคมบูโดนั้นกลัวจนไม่กล้าขยับเขยื้อนแล้ว!”
“กล้ามาดูถูกปรมาจารย์หง ถ้าไม่เรียกว่ารนหาที่ตายแล้วเรียกว่าอะไร?”
“ผมพนันได้เลยว่าปรมาจารย์หงสามารถฆ่าไอ้โง่นั่นได้ภายในสามกระบวนท่า!”
“พวกคุณประเมินปรมาจารย์หงต่ำไป ผมพนันว่ากระบวนท่าเดียว! ปรมาจารย์หงก็สามารถฆ่าไอ้โง่ตัวนั้นได้แล้ว!”
ภายในห้องโถงเกิดเสียงอื้ออึง ทุกคนมีสีหน้าตื่นเต้น
แม้ว่าจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ แต่จากการสั่นสะเทือนในการปรากฏตัวของปรมาจารย์หง ก็ทำให้พวกเขายอมรับนับถือแล้ว
จูกว่างจื้อมีสีหน้าเย่อหยิ่ง ยิ้มตาหยีมองไปทางหานเซี่ยวเทียนที่อยู่ข้างกาย แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “เจ้าบ้านหาน ตอนนี้ผมจะให้คุณได้เห็นว่าปรมาจารย์หงแข็งแกร่งเพียงใด!”
“ผัวะ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงที่ชัดเจนก็ดังก้องไปทั่วห้องโถง
หานเซี่ยวเทียนยิ้มเยาะ “เจ้าบ้านจู คุณดูปรมาจารย์หงของคุณก่อน แล้วค่อยมาโอ้อวดกับผม!”
“อะไร?”
“เป็นไปได้ยังไง?”
“ไอ้โง่ตัวนั้นต้านทานการโจมตีของปรมาจารย์หงได้จริงเหรอ?”
เสียงวิพากย์วิจารณ์ดังเข้าหูไม่หยุด จูกว่างจื้อก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบมองไปที่ใจกลางห้องโถง
เห็นเพียงปรมาจารย์หงที่เขาภาคภูมิใจ ในเวลานี้หมัดอยู่ห่างจากศีรษะของจางเหิงเพียงระยะกำปั้นเดียว แต่เขากลับไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อีก
เพราะมือของจางเหิง กำลังจับข้อมือของปรมาจารย์หงอยู่
ที่สำคัญก็คือ จางเหิงนั่งอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา เขาแค่กางแขนออกอย่างสบายๆ และสีหน้าดูผ่อนคลายอยู่ในเวลานี้
ส่วนใบหน้าของปรมาจารย์หงนั้นแดงก่ำ ท่อนแขนที่ถูกจางเหิงคว้าจับไว้กำลังสั่นเทา
“ให้เวลาผมออกไปหนึ่งนาทีเหรอ?”
“ผมรนหาที่ตาย?”
“ฆ่าผมเหมือนฆ่าสุนัข?”
เตะครั้งเดียวกำหนดความเป็นความตายของปรมาจารย์หง!
ยอดฝีมือผู้ถูกสังหารในทันที คือปรมาจารย์หงที่มีศักยภาพสุดยอดในสายตาของเขาจริงหรือ?
“นี่ คือยอดฝีมือระดับสุดยอดแห่งสองมณฑลของพวกคุณ ที่เตรียมจะรับมืออาจารย์ของผมงั้นหรือ?”
เสียงจางเหิงที่เต็มไปด้วยการเสียดสีได้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนตื่นจากความฝัน
ใช่แล้ว!
ปรมาจารย์หงเป็นคนที่พวกเขาหามา เพื่อเตรียมไว้รับมือยอดฝีมือหนิวเกนหุย
แต่ว่า เมื่อเผชิญหน้ากับลูกศิษย์ของหนิวเกนหุย เขาไม่อาจต้านทานการโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว
ตระกูลมั่งคั่งชั้นนำของสองมณฑลหนันยังและเจียงผิง จะยังมีโอกาสชนะในงานต่อสู้วันที่ 15 สิงหาคมนี้จริงหรือ?
“ผมให้เวลาพวกคุณไตร่ตรองห้านาที ซึ่งครบแล้ว ตอนนี้พวกคุณบอกผมได้ไหมว่า จะยืนอยู่ข้างสมาคมบูโดหรือไม่?”
จางเหิงกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วตะโกนถาม
“สมาคมบูโด สง่าน่าเกรงขามมาก!”
ขณะที่มีคนกำลังจะเลือกสมาคมบูโด ทันใดนั้นก็มีเสียงประชดประชันดังขึ้นที่ทางเข้าห้องโถงใหญ่
“คุณหยาง!”
เมื่อหานเซี่ยวเทียนและเฉินซิงไห่เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยที่ประตู พวกเขาก็ดีใจมาก
รอมานานแสนนาน ในที่สุดคุณหยางก็มาถึงแล้ว!
การปรากฏตัวของหยางเฉินดึงดูดสายตาของทุกคน
โดยเฉพาะ “คุณหยาง” ที่หานเซี่ยวเทียนและเฉินซิงไห่พูดถึง ยิ่งทำให้ผู้คนตกตะลึงมากกว่าเดิม
แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินว่า ราชาเจียงผิงเป็นวัยรุ่นอายุเพียงยี่สิบต้นๆ เท่านั้น แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นหยางเฉินกับตาตัวเองว่ายังอายุน้อยเช่นนี้จริงๆ ก็ยังตกใจมาก
แม้ว่าในใจจูกว่างจื้อจะรู้สึกทึ่ง แต่ยอดฝีมือที่ตนเองเตรียมมาถูกจางเหิงสังหารอย่างง่ายดายภายในไม่กี่วินาที เขาจึงไม่อยากยอมรับว่าหยางเฉินที่ยังเด็กมากเช่นนี้ จะคู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของจางเหิง
“ผมคิดว่าราชาเจียงผิงเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่น่าสรรเสริญ ที่แท้ก็เป็นแค่วัยรุ่นปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
จูกว่างจื้อพูดอย่างประชดประชัน “แม้แต่ปรมาจารย์หงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ แล้วเขาจะเป็นอะไรได้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...