ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 801

บทที่801 แผนการบำเพ็ญตบะ

เวลานี้ ภายในด้านหลังภูเขาสำนักสวนหยางเตี้ยน

ก่อนหน้านี้เฉินเกอเคยเหมาที่วิลล่าแห่งนี้

ใช้สำหรับเป็นที่อยู่ของครอบครัวตัวเองและมู่หานโดยเฉพาะ

ในปีนี้ เฉินเกอเองก็เคยฝึกต้นกำเนิดพลังทิพย์

อยากจะเอาสระน้ำต้นกำเนิดพลังทิพย์ทั้งสระย้ายไปอยู่บนเกาะตระกูลเฉินที่เมืองหนานหยาง

ถึงตอนนั้น ฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลเฉินแล้ว ประกอบกับสำนักสวนหยางเตี้ยนของตัวเอง ก็สามารถตั้งเป็นฐานปฏิบัติการได้แล้ว

แต่งานใหญ่งานนี้ หากไม่ใช้เวลาถึงสิบปี ก็ไม่สามารถจะทำสำเร็จได้เลย

ดังนั้น จึงได้ก่อตั้งตระกูลเฉินขึ้นที่นี่เป็นการชั่วคราว

ภายในวิลล่า

ชายอ้วนคนหนึ่งกำลังตะเกียกตะกายอยู่บนพื้น เขาไม่มีดวงตาทั้งสองข้าง พูดไม่ได้ อีกทั้งมือและเท้าก็ถูกตัดเส้นเลือดไปจนหมด

ทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้อย่างยากลำบากยิ่งนัก

ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง เป็นบิดาของเฉินเกอ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น

ร้องเรียกให้คนรีบเข้าไปช่วยประคองชายอ้วน

“ช้าๆหน่อย อย่าให้เสี่ยวหาวล้ม!”

เฉินจิ้นตงกล่าวด้วยความกังวล

“คุณปู่ เหมือนกับคุณชายหวงจะเขียนอะไรไว้บนพื้น!”

สาวรับใช้กล่าว

“เขียนอะไร?”

เฉินจิ้นตงเอ่ยถาม

“เขากำลังเขียนว่า เมื่อไหร่พี่ชายจะออกมา? พี่สาวยังมีชีวิตอยู่ไหม?”

สาวรับใช้เอ่ยขึ้นเบาๆ “คุณชายหวงเขียนแบบนี้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว!”

“เฮ้อ!”

เฉินจิ้นตงถอนหายใจออกมา

ด้วยสีหน้าที่ดูแย่

“ให้เขาเขียนเถอะ บางทีแบบนี้ ในใจของหยงหาวจะได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง!”

เฉินจิ้นตงหลับตาลง แล้วน้ำตาก็ไหลลงมา

เวลานี้ แววตาของเฉินจิ้นตงแข็งทื่อขึ้นมาทันใด

มองไปยังด้านนอกประตู อย่างสะอึกสะอื้น

ส่วนเฉินเกอนั้น ขอบตาก็รื้นชื้นขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

เนื่องจากว่าแม้แต่สาวรับใช้ก็ยังไม่เห็นว่าเฉินเกอได้ยืนอยู่ตรงนี้มานานแล้ว

“หยงหาว พ่อ แม่! ผมมาแล้วครับ!”

เฉินเกอเอ่ยขึ้น

เฉินจิ้นตงร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างรุนแรง

แกร๊ก!

ส่วนหวงหยงหาวนั้น ทั้งร่างกายช็อกไป ปากกาในมือนั้นร่วงหล่นลงพื้น

“อา! อา!”

หวงหยงหาวพยายามดิ้นต้องการที่จะปีนป่ายขึ้นมาจากพื้น

ลิ้นของเขาถูกคนตระกูลฉินตัดไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถพูดได้อีก

แต่เฉินเกอสามารถรู้ได้ว่าเขากำลังตะโกนเรียกตัวเอง

ห้าปีก่อน ตัวเองจัดการเฉินเตี๋ยนชาง แล้วนำตัวหยงหาวและคนอื่นๆมาที่ประเทศหนานเยว่

เดิมทีต้องการจะให้เขาดูแลทรัพย์สินบางส่วนของตระกูลเฉิน ให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างไร้ความกังวล

แต่ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะทำให้เขาต้องมาเป็นแบบนี้

“หยงหาว ฉันกลับมาแล้ว!”

กอดหวงหยงหาวขึ้นมาแล้วนั้น ดวงตาของเฉินเกอนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา

..........

ส่วนพี่สาวก็ถูกตระกูลฉินจากโลกยู่จับตัวไปเป็นทาสรับใช้ คนในครอบครัวได้รับการกดขี่ข่มเหง

“อืม ฉันคิดไว้แล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะไม่กล้าขอตี้เซียน แต่กลายเป็นเจินเหริน ถ้าหากฉันมีโอกาสที่เหมาะสม พยายามฝึกฝน ก็ยังคงมีความหวังอยู่บ้าง แน่นอนว่า เงื่อนไขแรกฉันจะสามารถหาหญ้าหยวนซินได้อยู่แล้ว”

เฉินเกอเอ่ยพูดขึ้น

ตอนนี้ กลัวว่าจะมีเพียงแค่ตัวเองเท่านั้นที่กลายเป็นเจินเหริน ถึงได้มีความสามารถในการป้องกันตัวเองได้

ลองถามดูว่าถ้าหากตอนนี้ตัวเองเป็นเจินเหริน ตระกูลฉินนั่น จะยังกล้ากำเริบเสิบสานแบบนี้อีกหรือเปล่า?

ถึงแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับตระกูลฉินจากโลกยู่ อย่างน้อยที่สุดตัวเองก็จะมีแรงที่จะปกป้องตัวเองได้

ไม่ถึงกับต้องถูกเคลื่อนย้ายไปเสียทุกที่แบบนั้น

“ตอนนี้ นี่เป็นวิธีที่จะรับมือกับตระกูลฉินได้ก็จริง แต่คุณต้องหาหญ้าหยวนซิน แม้ว่าจะมีแผนที่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากเสียยิ่งกว่ายากที่จะกลายเป็นเจินเหรินได้ นั่นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เพราะฉะนั้นความหมายของฉันก็คือ คุณสามารถอยู่ต่อแล้วแยกตัวอยู่แบบสันโดษไปด้วยกัน!”

นึกถึงความยากของการที่จะได้เป็นเจินเหรินนั้น ท่านซินแสกุ่ยเอ่ยขึ้นมา

แม้แต่พวกเสี้ยวชางเซิงเองก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน

จริงๆแล้ว แม้แต่หลินจิ่ว เสี้ยวชางเซิงและคนอื่นๆก็มองออก

หลุนหวางชั้นแปด เกรงว่าคุณเฉินได้แตะไปถึงเพดานของการฝึกฝนไปแล้ว

ชีวิตนี้ สามารถทะลุถึงชั้นเก้าได้ ถือว่าเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่มากเรื่องหนึ่ง ส่วนการตามหาสมุนไพรโบราณหญ้าหยวนซิน ต่อให้เป็นการงมเข็มในมหาสมุทร แม้จะสามารถหาได้จริงๆ แต่เกรงว่าก็คงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถบรรลุเจินเหรินได้

ถึงอย่างไร หญ้าหยวนซินก็เป็นเพียงหนึ่งในเงื่อนไขที่จะไปถึงเจินเหรินเพียงเท่านั้น

พูดเช่นนี้ ทุกคนล้วนแต่ไม่ได้มองว่าเป็นแนวโน้มที่ดีนัก

ส่วนเฉินเกอนั้นก็ไม่เข้าใจความพยายามของบุคคลเหล่านี้เท่าไหร่นัก

ปัญหานี้ เฉินเกอได้ครุ่นคิดพิจารณามาเป็นเวลาเจ็ดวันแล้ว เขาคิดอย่างชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เอาล่ะ ทุกคนไม่จำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมแล้ว คืนนี้ พวกเราย้ายกันไปให้หมด นับจากนี้ไป จะไม่มีราชาเป่ยจิ้ง ไม่มีสำนักสวนหยางเตี้ยนอีก และหลังจากนี้อีกสามวัน เป็นวันแต่งงานของฉันกับมู่หาน ถึงตอนนั้นทุกๆคนก็จะได้ดื่มฉลองกันด้วย!”

เฉินเกอยิ้มพลางเอ่ยขึ้น

เห็นว่าเฉินเกอได้ตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทุกคนยังจะพูดอะไรออกมาได้อีกกัน

ขณะนั้นเองทุกคนจึงพากันยิ้มออกมา : “ได้ ต่อไปพวกเราก็สนใจงานแต่งงานของคุณกับคุณซูก็แล้วกัน!”

“จะไปสนใจอะไรกับตระกูลฉินที่ไร้สาระ ตระกูลฉินจากโลกยู่ สำนักจ้งโล๋ ไสหัวกันไปซะ จากนี้พวกเราก็ตั้งใจฝึกซ้อมรอคุณได้ชัยชนะกลับมา!”

เสี้ยวชางเซิงเองก็ยิ้มกว้างออกมาเช่นกัน.......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!