เวลา 11:45 น.
“ให้ตายสิ! หยุดทำหน้าแบบนั้นได้แล้วเอื้อง” แม่ทัพบอกก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปในชุมชนที่สาวเจ้าเคยอยู่
“...”คนที่เอาแต่นั่งหน้าบึ้งมาตลอดทาง หันไปมองค้อนอย่างขุ่นเคืองใจ หลังถูกคนหื่นเสิร์ฟบทรักในห้องน้ำนานนับชั่วโมง จัดสารพัดท่า จนเธอทรุดลงนั่งบนพื้นอย่างหมดแรง แม้ว่าเขาจะเข้ามาช่วยอาบน้ำ สระผม แล้วอุ้มพาไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแต่งตัว แต่เธอก็ไม่ชอบใจอยู่ดี
“โธ่! มันเรื่องธรรมดาของผัวเมียนะที่รัก” แม่ทัพบอกเสียงอ่อนเมื่อเห็นนางฟ้าคนสวยยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม
“...” ช่อเอื้องเบือนหน้าหนีไปมองข้างทางอย่างไม่อยากจะพูดด้วย
“กี่โมงแล้วครับ” แม่ทัพถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าสาวเจ้ายังไม่หายงอน
เธอก้มลงมองนาฬิกาที่มือถือก่อนจะบอกโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย “11:46 นาทีค่ะ”
“อ้าว! พูดได้แล้วเหรอ นึกว่าเมียพี่เป็นใบ้ไปแล้วซะอีก” แม่ทัพหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจที่สามารถทำให้นางฟ้าคนสวยยอมพูดด้วย
“คุณทัพ!” ช่อเอื้องถลึงตาใส่คนหื่นทันใด
“ค้าบบบ” แม่ทัพขานรับเสียงหวานอย่างยั่วยวน
ช่อเอื้องได้ฟังก็รีบเอ่ยเตือนอย่างใจคอไม่ดี “อย่าเรียกแบบนั้นต่อหน้าป้าอรกับลุงศักดิ์นะคะ เอื้อง...”
“เอื้องอะไร?” แม่ทัพเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ
“เอื้องอายเขาค่ะ” เธอกัดฟันตอบอย่างรู้สึกกังวล กลัวว่าอีกฝ่ายจะเผลอหลุดปากเรียกต่อหน้าคนอื่นๆ
“อายทำไมก็เราเป็นผัวเมียกันแล้วนี่”
“พี่ทัพ! ห้ามเรียกแบบนี้” ช่อเอื้องบอกพร้อมกับเขย่าแขนของคนหื่นเบาๆ เพื่อขอคำมั่น
“อืม...ขอคิดดูก่อนนะ” คนที่ถือไพ่เหนือกว่าขยิบตาส่งให้อย่างเจ้าเล่ห์
“โธ่! อย่าแกล้งหนูสิคะ”
“ถ้าหอมแก้มพี่ นั่นอาจจะช่วยได้” แม่ทัพยื่นข้อเสนอ
ช่อเอื้องรีบขยับเข้าไปหอมที่แก้มของอีกฝ่ายเบาๆ อย่างไม่มีทางเลือก เพราะใกล้จะถึงที่พักของตนเองแล้ว
จุ๊บ!
“พี่จะไม่เรียกต่อหน้าคนอื่น ยกเว้นตอนที่เราอยู่ด้วยกันบนเตียงสองคนครับ” แม่ทัพฉีกยิ้มหวานอย่างชื่นใจหลังริมฝีปากบางแตะลงยังแก้มของตน
“เฮ้อ...ขอบคุณนะคะ” ช่อเอื้องถอนหายใจอย่างเพลียๆ
“ฮ่าๆๆ ประชดเก่งนะเรา” แม่ทัพหัวเราะอย่างขำๆ กับสีหน้าท่าทางของนางฟ้าคนสวย ที่ดูจะเศร้าสลดลงไปทันทีทันใด
“ขอบคุณค่ะที่รู้ว่าหนูประชด” เธอส่งค้อนวงใหญ่ไปให้อีกครั้ง
“หึหึ! ตั้งแต่นี้ไปเราต้องเรียกพี่ทัพแทนคุณทัพนะรู้ไหม”
“ทำไมคะ?”
“ก็เรียกคุณมันฟังดูเหินห่างน่ะสิ” แม่ทัพบอกก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดข้างๆ บ้านเช่าของสาวเจ้า
“ได้ค่ะ...พี่ทัพ” ช่อเอื้องพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันไปปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยออก
“เมียพี่น่ารักจัง” แม่ทัพบอกพร้อมกับก้มลงหอมที่แก้มนวลเบาๆ อย่างอดใจไม่ไหว
“เดี๋ยวคนอื่นเห็นค่ะ” ช่อเอื้องถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ ที่อีกฝ่ายขยันเอ่ยคำต้องห้ามออกมาบ่อยๆ
“รถพี่ติดฟิล์มทึบคนข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นหรอก” แม่ทัพบอกแม่สาวขี้กังวล
“เราจะไปกันหรือยังคะ”
“ครับ เชิญเจ้าของบ้านนำทางได้เลยครับ”
คนที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถ รีบหันไปบอกอย่างรู้สึกเขินๆ “เอ่อ...คือว่าบ้านของหนูเป็นบ้านหลังเล็กๆ นะคะ ไม่ได้...”
“พี่รู้ครับ” แม่ทัพยิ้มก่อนจะเปิดประตูก้าวลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าที่ท้ายรถอย่างไม่รอช้า
“ให้ช่วยไหมคะ” ช่อเอื้องเดินตามไปถาม
“ไม่ต้องครับ แค่นี้จิ๊บๆ ขนาดหนูพี่ยังอุ้มได้สบายๆ เลย” คนออกกำลังกายเป็นประจำบอกพร้อมกับขยิบตาให้สาวเจ้า
“ชิ!” ช่อเอื้องมองค้อน ก่อนจะออกเดินนำไปยังบ้านเช่าของตัวเอง
ด้านนิลยาที่กำลังจะเดินไปซื้อของในตลาดสด แต่พอเดินออกจากบ้านมาก็เห็นหนุ่มสาวเดินตามกันมาจึงเอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
‘มีเยอะเลยค่ะ’ ช่อเอื้องแอบตอบในใจก่อนจะหันไปมองทางอื่น
“พี่หิวข้าวจัง แถวนี้มีร้านไหนอร่อยบ้าง” แม่ทัพเปลี่ยนเรื่องคุย
“มีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นค่ะ เดี๋ยวหนูเดินไปซื้อให้” ช่อเอื้องรีบขันอาสา
“ไม่เอา! พี่จะไปนั่งกินที่ร้านครับ” แม่ทัพส่ายหน้าปฏิเสธ พลางจ้องมองใบหน้างามอย่างจับสังเกต
“แต่ว่าอากาศมันร้อนนะคะ”
“เอื้องเคยไปนั่งกินหรือยัง?”
“เคยค่ะ”
“งั้นก็ไม่มีปัญหา” แม่ทัพฉีกยิ้มพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ
‘ใครบอก! นั่นแหละปัญหาใหญ่เลยล่ะ หากเขาไปนั่งกินที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของป้าทอง ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของแหล่งข่าวในชุมชน พรุ่งนี้จะต้องมีคนเดินผ่านหน้าบ้านของเธอเป็นร้อยๆ รอบแน่’
“เอื้อง! สรุปจะพาพี่ไปกินก๋วยเตี๋ยวไหม ถ้าไม่ไปพี่จะโทรสั่งอาหารมากิน ที่บ้านแทน” แม่ทัพถามย้ำเมื่อเห็นสาวเจ้าเงียบไป ‘อะไรวะ! แค่ชวนไปกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน ทำไมถึงทำหน้าเหมือนกับว่าเราชวนไปฆ่าใครอย่างงั้นแหละ’
“ค่ะ” เธอขานรับอย่างโล่งใจที่อีกฝ่ายจะโทร. สั่งอาหารมากินที่บ้าน
“ทำไมทำหน้าเหมือนกลัวใครจะรู้ว่ามีผัว” แม่ทัพเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ เมื่อเห็นอาการที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากจะไปไหนมาไหนกับตนให้คนในชุมชนแห่งนี้เห็น
“พี่ทัพ” ช่อเอื้องมองค้อนคนที่เอ่ยคำต้องห้ามออกมาอย่างเคืองๆ
“ก็มันจริงนี่” คนหล่อเริ่มจะโมโหขึ้นมานิดๆ ไม่เข้าใจว่าสาวเจ้าจะอายทำไม เพราะคนในชุมชนต่างก็รู้สถานะของตนในงานศพของบิดากันหมดแล้ว
“หนูเพิ่งจะเรียนจบมัธยมปลายนะคะ แล้วพ่อก็เพิ่งจะเสียได้ไม่กี่วัน”
“โอเคๆ งั้นเดี๋ยวพี่โทรสั่งอาหารมากินที่บ้านครับ” แม่ทัพรีบตัดบทอย่างเข้าใจสถานการณ์
“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจหนู” ช่อเอื้องโล่งใจที่อีกฝ่ายยอมจบง่ายๆ
“พี่ประชดครับ” แม่ทัพกลอกตาเมื่อเห็นสาวตรงหน้าคลี่ยิ้มบางๆ
“หนูก็ขอบคุณอยู่ดีค่ะ” ช่อเอื้องตอบอย่างรู้สึกขำนิดๆ ที่อีกฝ่ายย้อนศรด้วยประโยคที่เธอเคยเอ่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)