“พี่ขอไปดูห้องนอนของเอื้องหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะ” เจ้าของห้องยิ้มก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องนอนให้อีกฝ่ายเข้าไปดู
แม่ทัพเดินเข้าไปสำรวจห้องนอนสีฟ้าพาสเทลอ่อนๆ ขนาด 5x5 เมตร หน้าต่างทุกบานในห้องกรุมุ้งลวดพร้อมกับติดเหล็กดัดแน่นหนา ข้าวของเครื่องใช้ในห้องประกอบไปด้วยเตียงขนาด 3.5 ฟุต มีเครื่องรับสัญญาณ Wifi ติดอยู่ใกล้ๆโต๊ะทำงานขนาดเล็กกะทัดรัด ถัดไปเป็นโซฟาหนังสีน้ำตาลอ่อนตัวใหญ่ ทีวี ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน เตาไมโครเวฟ อยู่บนชั้นวางตามมุมต่างๆ อย่างลงตัว และเขายังสังเกตเห็นว่าในห้องนอนยังมีห้องน้ำเล็กๆ อยู่ด้วย
“ทำไมดูแน่นหนาจัง?”
“คุณพ่อห่วงความปลอดภัยของหนูน่ะค่ะ เวลาที่ท่านไม่อยู่บ้านหรือไปทำงาน หนูก็จะหมกตัวอยู่แต่ในห้องนอน” ช่อเอื้องอธิบายเพิ่ม
“ท่านน่ารักมากๆ รอบคอบไปหมดเลย” แม่ทัพเอ่ยชม
“ใช่ค่ะ มีครั้งหนึ่งที่หนูร้องไห้ ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะมันเป็นวันแม่ ซึ่งหนู...ไม่มี พ่อก็เลยแต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้วเดินมาเคาะประตูห้องนอนของหนูพร้อมกับบอกว่า...สวัสดีจ้ะหนูเอื้อง วันนี้แม่จะพาหนูไปเที่ยวจ้ะ” ช่อเอื้องเล่าถึงเรื่องของบิดา
“...” แม่ทัพได้ฟังก็ถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก
ช่อเอื้องยิ้มก่อนจะพูดต่อ “ตลอดทางมีแต่คนหัวเราะ แต่พ่อกลับไม่สนใจสิ่งรอบข้าง พ่อห่วงแต่ความรู้สึกของหนู”
“ท่านเก่งจัง ที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับเอื้อง” แม่ทัพรู้สึกเสียดายที่ไม่ไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับบิดาของสาวเจ้า
“ใช่ค่ะ ตั้งแต่นั้นมา...วันแม่ของทุกปี คุณพ่อจะแต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้วขี่มอเตอร์ไซค์พาหนูออกเที่ยวทั้งวัน ทุกๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้คนที่หันมามอง หนูกับพ่อก็จะพากันหัวเราะกับปฏิกิริยาของพวกเขา”
“อืม...งั้นเราเก็บบ้านหลังนี้เอาไว้ เผื่อวันไหนเอื้องอยากจะกลับมานอนที่นี่ เราก็มานอนด้วยกันอีก” แม่ทัพออกความเห็น พลางคิดไปว่าจะให้คนสนิทติดต่อเจรจาซื้อพื้นที่ในชุมชนแห่งนี้ แล้วพัฒนาใหม่ แต่นั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเสี่ยวินัยไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน
“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องยกมือไหว้อย่างดีใจที่อีกฝ่ายตัดสินใจให้เช่าบ้านหลังนี้ต่อไป
“ไหว้พี่ทำไมครับ เรื่องเล็กน้อยเอง” แม่ทัพบอกพลางดึงสาวเจ้าเข้ามากอด
“แล้วตอนเป็นเด็กของพี่ทัพเป็นยังไงบ้างคะ” ช่อเอื้องอยากรู้ชีวิตในวัยเด็กของอีกฝ่าย ซึ่งแน่นอนว่ามันคงจะแตกต่างจากเธอไปอย่างสิ้นเชิง
“ก็ทั่วๆ ไปของเด็กผู้ชายครับ พี่ไปเรียนที่ไหนก็มีแต่เรื่องชกต่อยที่นั่นเป็นประจำ” แม่ทัพกลอกตาเมื่อนึกย้อนไปถึงวัยเด็กของตน
“เพราะ?”
“เพราะพี่หล่อ ก็เลยถูกหาเรื่องบ่อยๆ น่ะสิ” แม่ทัพบอกพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นนิดๆ เพื่อจะให้สาวเจ้าได้เห็นถึงความหล่อเหลาของตนชัดๆ
“คิกๆๆ” ช่อเอื้องหัวเราะออกมาอย่างเบรกไม่อยู่ กับท่าทีมั่นหน้ามั่นโหนก เอ๊ย! มั่นอกมั่นใจของอีกฝ่าย
คนที่สาวๆ ในประเทศต่างพากันโหวตให้ติด Top 10 ของหนุ่มหล่อรวยที่อยากจะขึ้นเตียงด้วยมากที่สุด ถามกลับอย่างรู้สึกขุ่นเคืองใจ
“อ้าว! หัวเราะแบบนี้แสดงว่าพี่ไม่หล่อหรือไงครับ”
“หล่อสิคะ พี่ทัพน่ะหล่อมาก” ช่อเอื้องตอบตามตรง
“จริงเหรอ? ไหนขอดูมือข้างหลังหน่อยซิ แอบไขว้นิ้วเอาไว้หรือเปล่า” แม่ทัพเอื้อมมือไปจับแขนทั้งสองข้างของสาวเจ้าชูขึ้นอย่างหยอกเย้า
“พี่ทัพอ่าน แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ด้วยเหรอคะ” ช่อเอื้องเลิกคิ้วถามอย่างรู้สึกอึ้งนิดๆ
“อ่านครับ” สาวกตัวยงพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยแขนของสาวเจ้าลง
“หนูก็อ่านค่ะ” ช่อเอื้องบอกอย่างดีใจที่มีคนชอบอะไรเหมือนๆ กัน
“ชอบใครเป็นพิเศษไหม?”
“อืม...หนูชอบแฮกริดค่ะ”
“เพราะ...” แม่ทัพถามพลางหัวเราะอย่างขำๆ นึกว่านางฟ้าคนสวยจะชอบแฮร์รี่ หรือไม่ก็รอน
“เขารักสัตว์ค่ะ แล้วก็เป็นตัวละครที่วิเศษมาก”
“โอเค! งั้นวันนี้เราดูหนังเรื่อง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald (สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์) กันไหม?”
“ว้าว! กับข้าวเยอะจังเลยค่ะ” ช่อเอื้องมองกับข้าวที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะอย่างรู้สึกทึ่ง และแอบเสียใจนิดๆ ที่ไม่ได้มาช่วยทำเพราะดันเผลอหลับไป
“ป้าไม่รู้จะถูกปากคุณทัพหรือเปล่านะคะ” นิลยารีบบอก เพราะแอบเข้าไปส่องเฟซบุ๊กเจ้าของค่ายมวยดังมา แล้วเห็นอีกฝ่ายใช้ชีวิตแบบหรูหรา ก็เลยกลัวว่าจะกินอาหารเมนูที่แสนจะธรรมดาไม่ได้
“ผมทานได้ครับไม่ต้องห่วง” แม่ทัพนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ข้างๆ กับช่อเอื้อง
“คุณทัพครับ ผมเห็นข่าวเมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่ทราบว่า...คุณหิรัญจะขึ้นชกกับคุณไดอิจิจริงๆ เหรอครับ” คงศักดิ์สอบถามเรื่องการขึ้นชกของสองนักธุรกิจชื่อดัง ที่กำลังจะมีขึ้นในอีกสามอาทิตย์ข้างหน้า
“จริงครับ ผมเอาบัตรมาให้ลุงศักดิ์กับป้านิลด้วยนะครับ” แม่ทัพยิ้มก่อนจะล้วงบัตรการเข้าชมให้ผู้ใหญ่ทั้งสอง
“บัตรวีไอพี” คงศักดิ์รับบัตรมาถือมือไม้สั่น ก่อนจะส่งไปให้ภรรยาดูอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“ขอบคุณมากๆ เลยนะคะคุณทัพ” นิลยาฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ เพราะเคยดูแต่การชกผ่านโทรทัศน์ที่บ้าน ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปดูการชกบนสังเวียนสดๆมาก่อน
“ผมจะจุดธูปเรียกชัยไปดูด้วยกันครับ” คงศักดิ์บอกพลางนึกไปถึงเพื่อนที่ชอบนั่งดูมวยด้วยกันเป็นประจำ พออีกฝ่ายเสียไป ก็รู้สึกเหงาและเคว้งอย่างบอกไม่ถูก
“พ่อต้องตามลุงศักดิ์ไปแน่ๆ เลยค่ะ” ช่อเอื้องเอ่ยสมทบตามอย่างเห็นภาพ
“อืม! ถ้าลุงชวน ชัยเขาไม่ยอมพลาดอยู่แล้ว” คงศักดิ์บอกอย่างเห็นด้วย
แม่ทัพหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสริม “วันชกผมจะให้คนสนิทมารับที่บ้านครับ”
“เอ่อ...จะรบกวนคุณทัพมากเกินไปหรือเปล่าคะ” นิลยาถามอย่างเกรงใจ
“รบกงรบกวนอะไรครับป้านิล เราคนกันเองทั้งนั้น หากอยากจะไปดูการชกนัดไหนก็บอกมาได้เลย ผมจะให้เด็กมาดูแลเป็นพิเศษครับ” แม่ทัพส่งยิ้มให้กับผู้ใหญ่ทั้งสอง
“ขอบคุณค่ะ/ ขอบคุณมากๆ ครับ” นิลยากับคงศักดิ์บอกอย่างซาบซึ้งใจ แต่กระนั้นก็คงจะไม่กล้ารบกวนอีก เพราะแค่นี้ก็เกรงใจอีกฝ่ายจะแย่อยู่แล้ว
ช่อเอื้องอมยิ้มที่เห็นเจ้าชายของเธอเอาใจผู้ใหญ่ทั้งสอง นี่ถ้าหากบิดาของเธอยังอยู่ เขาก็คงจะดูแลเอาใจท่านเป็นอย่างดีแน่ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)