“จากพิกัดของระดับสายตา ผมว่าใช่นะครับ” เมธีบอกอย่างมั่นใจ
“ถ้าใช่ก็ดีน่ะสิครับ วันหลังผมจะได้ชวนคุณเมธีมานั่งทานที่ร้านนี้บ่อยๆ” แม่ทัพหัวเราะขึ้นเบาๆ ที่มีคนเดาทางถูก
“อ้าว! ก็ไหนบอกว่าเจอคนที่ใช่แล้วไม่ใช่เหรอครับ” เมธีขมวดคิ้วถาม อย่างสับสน
“หึๆ คนเราย่อมมีแผนสำรองให้กับตัวเองเสมอครับ” แม่ทัพตอบอย่างไว้เชิง
“ฮ่าๆๆ” เมธีหัวเราะอย่างขำๆ กับคำรมของผู้เป็นนาย ซึ่งถูกขนานนามว่า...เพลย์บอยตัวพ่อของวงการที่มีข่าวฉาวบนเตียงกับดารา-นางแบบ มานับไม่ถ้วน ‘เฮ้อ...ยังไงเสือก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำสินะ’
เวลา 22:03 น. หลังจากที่ช่อเอื้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเสร็จ ก็นั่งพูดคุยกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าเรียนในเช้าของวันรุ่งขึ้น จากนั้นก็ขยับขึ้นไปนอนบนชั้นสองของเตียง ในขณะที่ดรีมนอนอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนสองสาวแฮปปี้กับเอ็นจอยนอนอีกเตียงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ช่อเอื้องหยิบมือถือมาเปิดอ่านข้อความแชตไลน์ก็ถึงกับอมยิ้มเมื่อเห็นเจ้าชายจอมหื่นของเธอส่งที่รูปถ่ายขณะกำลังนอนอยู่บนเตียงมาให้พร้อมกับข้อความเลี่ยนๆ
แม่ทัพ : พี่จะพยายามข่มตานอนให้หลับครับ
ช่อเอื้อง : หมูกระทะอร่อยไหมคะ
แม่ทัพ : อร่อยครับ แต่คงจะอร่อยกว่านี้หากพี่ได้นั่งกินกับเอื้อง
ช่อเอื้อง : วันศุกร์เจอกันค่ะ
แม่ทัพ : เฮ้อ...พี่อยากให้ทุกวันเป็นวันศุกร์จัง
ช่อเอื้อง : อีกสี่วันเอง ?
แม่ทัพ : รู้สึกเหมือนใจพี่จะขาดเลยรู้ไหม
ช่อเอื้อง : ฝันดีนะคะ
แม่ทัพ : ฝันดีครับ ❤️❤️❤️
“เอื้อง! แชตกับใครอะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” เอ็ยจอยที่นอนอยู่บนชั้นสองเหมือนกัน เอ่ยแซวเพื่อนใหม่คนสวย หลังเห็นอีกฝ่ายวางมือถือลงที่ข้างๆหมอน
“อ๋อ! คนที่บ้านน่ะ ฝันดีนะ” ช่อเอื้องรีบกดปิดไฟที่หัวเตียงอย่างรู้สึกเขินๆ
“ฝันดีจ้าทุกคน” เอ็นจอยหัวเราะเบาๆ แล้วเอื้อมไปกดปิดไฟที่หัวเตียงตาม
“ฝันดีจ้า / ฝันดี” แฮปปี้กับดรีมที่นอนอยู่ชั้นล่างเหมือนกันขานตอบ แล้วพากันเข้าสู่ห้วงนิทราไปด้วยความอ่อนเพลีย
เช้าวันต่อมา...ช่อเอื้องและสามสาวเตรียมตัวเข้าเรียนวันแรกอย่างรู้สึกตื่นเต้น กับการเป็นนักศึกษาปีหนึ่งภายใต้รั้วมหา’ลัย ที่กว้างใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยความรู้และสิ่งแปลกใหม่ให้ได้ค้นหา เพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่ดี
“มีแต่คนหันมามองแน่ะ” เอ็นจอยบอกหลังเห็นสายตาของรุ่นพี่และรุ่นเดียวกัน หันมามองตลอดทางที่เดินไปยังห้องเรียน
“ก็เรามีทั้งเน็ตไอดอลและนางฟ้าแสนสวยอยู่ด้วยนี่ คนก็ต้องมองเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ทำใจให้ชินได้เลย” แฮปปี้หันไปตอบคู่แฝดยิ้มๆ เพราะเพิ่งจะทราบเมื่อคืนว่าดรีมเป็นเน็ตไอดอล ส่วนช่อเอื้องนั้นแม้จะไม่ได้เป็นอะไรเลย? แต่ก็มีหน้าตาและหุ่นที่สวยโดดเด่นยิ่งกว่าดารา-นางแบบ จึงไม่แปลกที่จะถูกมอง
“โอเค จะทำใจแล้วกัน” เอ็นจอยหันไปพยักหน้ารับเบาๆ
ดรีมหน้าเสียนิดๆ หลังได้ยินเพื่อนบอกว่าการที่ทุกคนหันมามองนั้นไม่ได้มีแค่เธอเพียงคนเดียวที่เป็นจุดเด่น ยังมีช่อเอื้องอีกคนที่เป็นจุดสนใจ
“เราต้องเรียนตึกนี้ใช่ไหม?” ช่อเอื้องที่มัวแต่มองหาตึกที่จะเข้าเรียนหันมาถามเพื่อน ๆ อย่างมึนๆ งงๆ
“น่าจะใช่นะ” เอ็นจอยตอบพลางหันไปมองรอบๆ
‘ภีมรภัทร’ หนุ่มหล่อดีกรีเดือนมหา’ลัยที่กำลังเดินผ่านมา หยุดชะงัก! แล้วหันกลับไปถามสาวๆ ซึ่งน่าจะเป็นนักศึกษาปีหนึ่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ...ตึกนี้ใช่ตึก---หรือเปล่าคะ?” ช่อเอื้องรีบถามอย่างร้อนใจเพราะนี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว และเธอไม่อยากจะสายในวันแรก
“ใช่ครับ พวกน้องๆ อยู่ปีหนึ่งเหรอ?” ภีมรภัทรแกล้งถามต่อ เพื่อจะดึงเวลาให้ได้ยลโฉมสาวตรงหน้านานขึ้นอีกนิด
“ค่ะ แล้ว...” ช่อเอื้องขานรับ ก่อนจะถามค้างไว้ ไม่แน่ใจว่าหนุ่มหล่อที่น่าจะสูงร้อยแปดสิบกว่าๆ คนนี้เรียนอยู่ปีไหน
“พี่ชื่อภีมครับ อยู่ปีสอง” ภีมรภัทรพลางส่งยิ้มหวานไปให้สาวตรงหน้า ก่อนจะเลยไปยังสามสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“ขอบคุณพี่ภีมมากๆ ค่ะ พวกเราขอตัวก่อนนะคะ” ช่อเอื้องยิ้มตอบพร้อมกับเอ่ยขอตัว
“กูจะทำป้ายไฟ” เซบาสเตียนเกทับทันใด
“ขอบใจพวกมึงมากที่สนับสนุนแฟนกู” ภีมรภัทรบอกก่อนจะออกวิ่งไปเข้าห้องเรียน เพราะเหลือเวลาไม่มาก
“ไอ้เชี่ย!!” เคนกับเซบาสเตียนสบถด่า ก่อนจะวิ่งตามไปติดๆ
สี่วันต่อมา...(วันศุกร์) เวลา 12:37 น.
แม่ทัพออกมายืนรอรับที่ด้านนอก หลังให้คนขับรถของมารดาขับไปรับสาวเจ้าที่หน้าหอพักในมหา’ลัย เพราะรู้ว่าวันนี้เธอมีเรียนแค่ครึ่งวัน
“สวัสดีค่ะพี่ทัพ” ช่อเอื้องลงจากรถเสร็จก็รีบยกมือไหว้เจ้าชายสุดหล่อที่ยืนส่งยิ้มหวานมาให้ พลัน! หัวใจของเธอก็สั่นไหวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“สวัสดีครับ” แม่ทัพดึงสาวเจ้าเข้ามากอด ก่อนจะก้มลงหอมที่แก้มนวลทั้งสองข้างอย่างคิดถึง จุ๊บ! จุ๊บ!
“อื้อ...หอมแรงจัง” ช่อเอื้องแกล้งต่อว่า
“อย่างอื่นพี่ก็อยากทำแรงๆ ครับ” แม่ทัพบอกด้วยสายตาแวววาว
“บ้า! หนูเหนื่อยค่ะ หิวข้าวแล้วก็อยากจะอาบน้ำสุดๆ เลย” ช่อเอื้องผลักร่างสูงออกแล้วรีบเดินเข้าไปในบ้านอย่างรู้สึกเขินอาย
“พี่สั่งอาหารจากรีสอร์ตมารอแล้วครับ” แม่ทัพรีบเดินตามเข้าไปทันที
“พี่ทัพน่ารักที่สุดเลย” ช่อเอื้องมองอาหารที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะ ก็หันไปเขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มเจ้าชายเถื่อนมาดเซอร์ ที่นับวันจะดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก
“เรียนเป็นไงบ้างครับ พอไปได้ไหม?” แม่ทัพยิ้มก่อนจะขยับเก้าอี้ออกให้สาวเจ้าเข้าไปนั่ง จากนั้นตนก็เดินอ้อมไปนั่งที่อีกฝั่ง
“โอเคค่ะ ว่าแต่...กับข้าวเยอะจังเลย” คนที่ยังไม่กินข้าวเที่ยงมองอาหารหลากหลายเมนูที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างรู้สึกทึ่ง
“ทานกันเถอะครับ” แม่ทัพบอกพลางหัวเราะในลำคอเบาๆ
“ค่ะ” ช่อเอื้องหยิบช้อนกับส้อมขึ้นมาตักอาหารทานอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีเจ้าชายสุดหล่อ คอยตักเมนูนั้นเมนูนี้ให้อยู่ตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)