Virgin Blue ซ่อนเสน่หา นิยาย บท 90

พอออกจากโรงพยาบาลเพื่อนก็ขอบคุณเธอยกใหญ่ แถมช่วยแนะนำเพื่อนคนอื่นมาซื้อประกันสุขภาพกับเธออีก

เพื่อนคนนั้นบอกเธอว่า ถ้าวันนั้นบุรฉัตรไม่เสนอความคุ้มครองให้และพูดให้คิดว่าควรจะมีตรงนี้ไว้ เพื่อเป็นความคุ้มครองให้ชีวิต เพราะขนาดรถยังต้องมีประกันเลย ทำไมชีวิตตัวเองถึงไม่หาความคุ้มครองไว้บ้าง คำพูดของเธอกระทบใจเพื่อนมาก เพื่อนเลยซื้อความคุ้มครองไว้แล้วก็ได้ใช้จริงๆ

เพื่อนยังบอกอีกว่านี่ถ้าไม่ซื้อเอาไว้คงต้องจ่ายค่ารักษาเองแน่ๆ เป็นเงินตั้งเกือบสองหมื่น หรือไม่ก็ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐบาลซึ่งอาจจะไม่ได้อยู่ห้องพิเศษแบบนี้

ตอนนี้บุรฉัตรเข้าใจและซาบซึ้งในซึ่งที่แนทตี้เคยบอกแล้วว่า การขายคือการไปให้ไม่ใช่การไปเอา และเธอมีความสุขกับการไปให้มากๆอยากจะออกไปหาลูกค้าทุกวัน

เธอมีเจ๊พราวเป็นแรงบันดาลใจสิบปีในอาชีพตัวแทนประกันชีวิต เจ๊พราวไต่ระดับจากเด็กจบใหม่ธรรมดากลายเป็นเจ้าของสำนักงานประกันชีวิตใหญ่โต

เธอมีเจ๊พราวเป็นแรงบันดาลใจสิบปีในอาชีพตัวแทนประกันชีวิต เจ๊พราวไต่ระดับจากเด็กจบใหม่ธรรมดากลายเป็นเจ้าของสำนักงานประกันชีวิตใหญ่โต

ถือยอดขายของสำนักงานปีละหลายร้อยล้าน มีตัวแทนในสังกัดที่รหัสตัวแทนยังแอคทีฟอยู่เป็นร้อยคน

เธอคิดว่ารายได้ของเจ๊พราวต่อปีน่าจะหลายสิบล้าน เจ๊พราวเปลี่ยนตัวเองจากเด็กสาวธรรมดากลายเป็นพราวตาเจ้าของสำนักงานเป็นผู้หญิงเก่งมาดนักธุรกิจที่ขับรถคันละหลายล้าน

มีตึกสำนักงานของตัวเอง มีบ้านราคาสิบล้านอยู่ มีเงินส่งลูกเรียนโรงเรียนดีดี

และที่สำคัญเจ๊พราวเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวแทนใหม่หลายๆคน เป็นคนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยสองมือของตนเองจริงๆ

เพราะเจ๊พราวมาจากครอบครัวคนธรรมดาออกจะยากจนด้วยซ้ำ เธอประทับใจที่เจ๊พราวกลับไปมอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนทุกปี

บุรฉัตรวาดฝันว่าจะเป็นเหมือนเจ๊พราวให้ได้ เธอเลยตั้งใจมากๆกับการเป็น Star Talent เธอรอผลด้วยใจจดจ่อ

ผลการคัดเลือกจะออกอาทิตย์หน้าแล้ว ขอให้เธอได้เถอะ เธออยากเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองและอยากจะพิสูจน์ตัวเองให้ติณห์เห็นว่าเธอเก่งแค่ไหน เธออยากเก่งไม่ให้น้อยกว่าผู้หญิงคนนั้นในใจเขา

คุณศศินาคนที่เคยเป็นผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดของบริษัทคู่แข่ง

แม้เรื่องของเธอกับเขาจะเป็นไปได้ยาก แต่ก็ขอเธอฝันเถอะ

เพราะอย่างน้อยความฝันก็ทำให้คนอย่างอีบลูพาตัวเองไปข้างหน้าได้

เสียงข้อความเข้า บุรฉัตรหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ภาวนาว่าขอให้เป็นคุณติณห์ แต่ก็ไม่ใช่เป็นเฮียมิกซ์ที่ส่งข้อความเข้ามา

Mix : บลูทำอะไรอยู่ นอนหรือยังครับ

บุรฉัตรมองโทรศัพท์ในมืออย่างลำบากใจ รู้สึกผิดต่อเฮียมิกซ์ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เฮียมิกซ์สม่ำเสมอมากเพราะเขาก็ส่งข้อความมาหาเธอแทบทุกวัน โทรมาหาตลอด แต่ส่วนใหญ่ก็จะคุยเรื่องประกันที่เธอดูแลให้เขาอยู่

บุรฉัตรรู้ว่าเฮียมิกซ์อยากคุยกับเธอ แต่เอาเรื่องประกันมาบังหน้า นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเธอวางตัวค่อนข้างชัดเจนกับเขา พยายามเป็นตัวแทนกับลูกค้าที่ต้องดูแลกัน เฮียมิกซ์เลยไม่กล้ารุกเร็ว

Mix : บ้านเขาอยู่ในซอยที่ค่อนข้างหายาก เอาแบบนี้ดีไหมเดี๋ยวเรานัดกันที่หน้าห้างเดอะมูนพระรามเก้า ตอนเที่ยงบลูสะดวกไหมครับ

Blue : โอเคค่ะ เจอกันนะเฮีย

Mix : ฝันดีครับ

นัดเฮียมิกซ์วันเสาร์ คุณติณห์กลับถึงไทยวันศุกร์ตอนดึกๆ วันเสาร์เขาคงไม่มาหาเธอหรอกมั้ง เพราะปกติเขาจะเข้าบ้านทุกวันเสาร์

วันอาทิตย์เย็นๆโน้นแหละเขาถึงจะมา

ติณห์ลงจากเครื่องได้ก็หอบข้าวของใส่รถเข็นตรงดิ่งไปที่รถ เขามีของฝากมาให้หม่าม๊าและน้องสาวอย่างตวงพร ของฝากเลขาและผู้ช่วยเลขา รวมไปถึงผู้จัดการฝ่ายต่างๆที่เขาซื้อมาพอให้เอาไปแจกเด็กๆในแผนก

และมีของฝากของบุรฉัตร คือกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อที่เด็กสาวๆนิยมราคาหกหลัก รุ่นนี้สีนี้เพิ่งออกมาใหม่ เขาให้ตัวแทนคนหนึ่งที่รูปร่างใกล้เคียงกับบุรฉัตรลองสะพายดูแล้ว ดูดีมากทีเดียว คิดว่าถ้าบุรฉัตรสะพายก็น่าจะสวยมาก

นี่คือเวลานานที่สุดที่ไม่ได้เจอหน้าเธอเจ็ดวันเต็ม เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ต่อกันนานที่สุดที่ไม่ได้เจอคือห้าวัน

ติณห์เก็บของใส่รถที่เขาฝากไว้ที่ลานจอดของสนามบิน เขาขับรถออกจากสนามบินมุ่งตรงไปยังคอนโดของบุรฉัตร แต่พอถึงทางแยกระหว่างเพนท์เฮาส์ของเขากับคอนโดของเธอ เขาก็ตัดสินใจเลี้ยวรถกลับ

‘กลับห้องดีกว่า เพิ่งมาถึงแล้วไปหาเลยเดี๋ยวได้ใจ พรุ่งนี้แวะเข้าบ้านก่อนแล้วค่อยเข้าไปก็ได้’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา