พี่เลย์เดินหายเข้าไปในห้องนอน ส่วนฉันก็นั่งรอเขาตรงโซฟาที่เดิม ไม่รู้ว่าเฮียจะทำหน้ายังไงถ้ารู้ว่าฉันกับพี่เลย์จะถอนหมั้นกัน ไหนจะป้ารสรินอีก
เฮ้อ!
ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับความคิดของตัวเอง มันเหนื่อยเอามากๆ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ยอมถูกเฮียบังคับให้หมั้นกับพี่เลย์ตั้งแต่แรก ถึงมันจะเป็นแค่การหมั้นหลอกตาคุณพ่อก็เถอะ
ตั้งแต่ตอนนั้นชีวิตของฉันมันก็มีอะไรให้คิดเยอะแยะไปหมด มันแทบจะไม่มีความสุขเลย แถมความสัมพันธ์ของฉันกับพี่เลย์มันก็แย่ลงเรื่อยๆ
ฉันแอบโทรไปบอกเฮียไว้ตั้งแต่เช้าแล้วแหละว่าอย่าเพิ่งออกไปทำงาน ฉันกับพี่เลย์มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย
ในขณะที่ฉันกำลังวุ่นวายกับความคิดของตัวเอง เสียงประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก จึงทำให้ฉันสะดุ้งต้องใจเล็กน้อย
พี่เลย์มองหน้าฉัน เขาไม่พูดอะไรก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วเดินตรงไปที่ประตูห้อง
“จะไปไหนคะ” ฉันรีบท้วงถาม เขาจะมาทำเงียบแล้วเดินออกไปแบบนี้ไม่ได้นะ ไหนบอกจะไปคุยกับเฮียเรื่องถอนหมั้นไง
“ไปคุยกับเฮีย” พี่เลย์หยุดพูดแล้วหันมามองหน้าฉัน “หรือเปลี่ยนใจ ?”
“ปะ ไปสิคะ ไอริสไม่เปลี่ยนใจหรอก” สายตาของพี่เลย์มันทำให้ฉันรู้สึกวูบไหวแปลกๆ จนถึงกับตอบไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักแบบเมื่อครู่
คนตัวโตไม่ได้พูดคำใดออกมาอีก เขาเอื้อมมือไปเปิดประตู จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องแบบไม่รอฉันเลย ทำให้ฉันต้องรีบเดินตามพี่เลย์ออกไป
พี่เลย์เดินนำหน้าฉันไปนู่นแล้ว ส่วนฉันยังอยู่หน้าประตูห้องอยู่เลย จะรีบเดินไปไหนของเขา
“ไอริส”
“อ๊ะ!” ฉันสะดุ้งตกใจเพราะจู่ๆ ก็ถูกใครไม่รู้ตะเบ็งเสียงเรียกชื่อ ก่อนที่ฉันจะหมุนตัวมามองว่าใครกัน “อ้าวกร ^_^”
เป็นกรที่เรียกชื่อฉัน นึกว่าใครซะอีก ทำเอาตกใจหมดเลย
กรมองซ้ายขวา แล้วถามอย่างเป็นกังวล “แฟนเธอจะดุเราไหม ?”
“แฟนอะไรกัน ไม่ใช่สักหน่อย”
“ไม่ใช่ได้ยังไงก็เธอ…”
“ไอริสบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ ว่าแต่กรมีอะไรหรือเปล่า ?”
“คือเราอยากไปเที่ยวเล่นรอบๆ เมืองน่ะ แต่ไม่รู้จะชวนใคร”
“จะชวนเราเหรอ ?”
“อื้ม เราไม่รู้จักใครเลยจริงๆ ก็มีแต่เธอนี่แหละ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร”
“ได้สิ แต่วันหลังนะ”
“จริง?” กรทำหน้าเหลือเชื่อ “ไปได้จริงดิ”
“ทำไมทำหน้าตกใจแบบนั้น”
“เราคิดว่าเธอกับผู้ชายคนนั้นเป็น…” กรทำเหมือนหนักใจที่จะพูดเรื่องของฉันกับพี่เลย์ที่เขาสงสัย
“หลังจากวันนี้ไป เรากับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว กรไม่ต้องคิดมากหรอก ^_^” ฉันบอกกร จากนั้นก็ยิ้มให้เขา ฉันรู้ว่ากรคงกลัวจะถูกพี่เลย์เขม็งแบบตอนนั้น
“อื้ม! ถ้าอย่างนั้นเราขอไลน์ไว้ได้ไหม เอาไว้นัดกันอีกที”
“ได้สิ”
ฉันหยิบโทรศัพท์มาจากกรแล้วกดไลน์ตัวเองให้เขา ยังไงกรก็เคยเป็นเพื่อน ถึงเขาจะเคยแกล้งฉัน แต่ยังไงเราก็เรียนห้องเดียวกันมาตั้งหลายปี แถมตอนนี้ดูท่าเขาก็จะนิสัยดีขึ้นเยอะเลยด้วย
“เดี๋ยวเราขอตัวก่อนนะ ^_^” ฉันบอกกร พอกรพยักหน้าก็รีบเดินออกมาจากตรงนั้นทันที
ตอนนี้สายตาของฉันมองไม่เห็นพี่เลย์แล้ว คิดว่าเขาคงไปที่รถแล้วแหละ
#ภายในรถ
มาถึงที่รถฉันก็เห็นว่าพี่เลย์กำลังนั่งรอด้านในอยู่แล้ว จึงรีบเปิดประตูเข้าไปนั่ง
“ทำไมเพิ่งมา ?” พี่เลย์หันมาถามฉัน ถามแบบนี้แปลว่าไม่เห็นฉันคุยกับกร ฉันจะตอบยังไงดี ตอบตามความจริงหรือจะโกหก
“คุยอะไรกับมัน” ในขณะที่กำลังตักอาหารใส่จานพี่เลย์ก็ถามฉันขึ้นมา “ฉันหมายถึงเพื่อนที่เธอบอก”
ฉันขมวดคิ้ว ในตอนแรกเขาใช้คำว่ามันซึ่งหมายความว่าต้องเห็นฉันกับกรคุยกันแน่ๆ
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”
พอฉันตอบไปแบบนั้นพี่เลย์ก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ เขากินข้าวเงียบๆ ส่วนฉันก็นั่งรอ
ถึงจะบอกว่าฉันรอวันนี้ รอวันที่จะได้ถอนหมั้น แต่พอเวลามันเริ่มใกล้เข้ามา เมื่อทุกอย่างมันจะต้องจบลงจริงๆ ฉันกลับไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิด
เฮ้อ! ทำไมต้องรู้สึกมากขนาดนี้ด้วย เมื่อก่อนไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย
หลังจากที่พี่เลย์กินข้าวเสร็จเราก็กลับมาที่รถ พอรถแล่นเข้าสู่ถนนใหญ่บรรยากาศมันก็กลับมาอึดอัดอีกครั้ง
“ฉันไม่อยากให้ทุกอย่างมันจบแค่นี้” เงียบไปนานพอสมควร พี่เลย์ก็พูดขึ้นมา
“คะ ?”
จู่ๆ รถที่แล่นอยู่ก็ตีไฟแล้วเข้าข้างทาง ฉันจึงรีบหันขวับมาถามผู้ชายที่นั่งข้างๆ “จอดรถทำไมคะ ?”
พี่เลย์หันมามองฉัน ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ฉันเดาอะไรจากสายตาคู่นั้นไม่ได้เลย
ใบหน้าคมคายค่อยๆ ขยับมาใกล้จนฉันต้องเอนตัวหนี
“พะ พี่เลย์ คิดจะทำบ้าอะไรเนี่ย!!”
พี่เลย์ถอนหายใจออกมาหนักๆ เขาค่อยๆ ก้มหน้าลงหลบสายตาของฉัน แล้วพูด “ถ้าตอนนี้ฉันอยากจะจริงจังกับเธอล่ะ”
“…..”
ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ พะ พี่เลย์รู้ตัวเองหรือเปล่าว่าเขาพูดอะไรออกมา
ตอนนี้ทุกอย่างมันตกอยู่ในความเงียบ ก่อนที่พี่เลย์จะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อตั้งคำถามกับฉัน “เธอยังยืนยันจะถอนหมั้นอยู่ไหม ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ว่าที่ 'เมีย' | Hate love Nc20+