เฮียลูบหัวของฉันเบาๆ แล้วกำชับกอด มันยิ่งทำให้ฉันร้องไห้หนักขึ้น
“พอแล้วนะ ไม่ต้องร้องไห้เพราะมันอีก”
“อึก หนูจะตัดเขาออกไปจากใจได้ยังไงเฮีย” มันเป็นคำถามที่ฟังดูโง่มากเลยใช่ไหม เพราะฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำยังไง
“เฮียรู้ว่ามันยาก แต่เฮียมั่นใจว่าน้องสาวเฮียทำได้” พูดจบเฮียก็ดันกอดออก แล้วเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน
“แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าพร้อมจะไปอังกฤษกับเฮีย”
“ค่ะ หนูแน่ใจแล้ว”
“หวังว่าพรุ่งนี้เธอจะไม่เปลี่ยนใจ”
“…พะ พรุ่งนี้หนูขอไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องพี่เลย์ก่อนได้ไหม”
“เดี๋ยวเฮียให้ไอ้โจ้ไปเก็บให้”
“แต่….”
“ถ้าคิดจะตัดมันออกไป สิ่งแรกที่ควรทำคืออย่าไปเจอหน้ามันอีก” เฮียบอกฉันเสียงดุ
“ก็ได้ค่ะ ไอริสจะทำตามที่เฮียบอก”
“ขึ้นห้องไปเก็บของเถอะ พรุ่งนี้เฮียจะพาไปอังกฤษตอนเช้า”
“คุณพ่อรู้หรือเปล่าคะว่าเราจะไปหา”
“รู้”
“ละ แล้วรู้หรือเปล่าคะว่าไอริสกับพี่เลย์….”
“รู้” เฮียตอบอย่างรู้ทันว่าฉันจะถามอะไร
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก็ดีแล้วแหละที่คุณพ่อรู้ฉันจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรอีก และพ่อคงจะไม่ถามอะไรกับฉัน เพราะไม่ได้อยากให้งานหมั้นของฉันกับพี่เลย์เกิดขึ้นตั้งแต่แรก
ฉันแยกตัวกับเฮียขึ้นมาบนห้องเพื่อมาเก็บของ จริงๆ ก็เอาไปไม่เยอะหรอก เสื้อผ้าค่อยไปหาซื้อเอาใหม่ที่นู่นก็ได้ พวกของใช้ก็เหมือนกัน
หลังจากเก็บของเสร็จฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเข้าไปในแชตข้อความที่เคยคุยกับพี่เลย์ ก่อนจะเลื่อนอ่านข้อความเก่าๆ ที่เราเคยคุยกันทั้งน้ำตา
ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลืมความสัมพันธ์ของเราได้ยังไง ไม่รู้ว่าจะเข้มแข็งได้มากแค่ไหน เพราะในตอนนี้ฉันอ่อนแอมากจริงๆ
มันแย่ไปหมดเลยความรู้สึกของฉันในตอนนี้ ฉันรักพี่เลย์ แต่ไม่สามารถทำให้ความรักของเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เพราะในตอนนี้พี่เลย์ไม่ได้ต้องการความรักจากฉันอีกแล้ว…
‘พรุ่งนี้ไอริสจะไปอังกฤษแล้วนะคะ….’
ฉันกดพิมพ์ข้อความทั้งน้ำตา แต่นิ้วที่มันสั่นเทาไม่ยอมกดส่งเพราะความลังเล คิดว่าพี่เลย์คงจะบล็อกฉันไปแล้วก็ได้
ฉันตัดสินใจลบข้อความที่พิมพ์ทิ้งจากนั้นก็กดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ฉันพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าให้ตัวเองหยุดอ่อนแอ หยุดร้องไห้ แต่เมื่อคิดถึงสายตาของพี่เลย์ในวันนี้ สายตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกคู่นั้น มันก็ยิ่งทำให้ฉันเจ็บปวด
“พอได้แล้ว หยุดร้องไห้สักที อึก~”
ฉันก้มหน้าลงปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา แล้วอาบน้ำต่อ
ไปอังกฤษครั้งนี้ฉันจะลืม ต้องลืมให้ได้ความเจ็บในวันนี้ ฉันต้องลืมมันไปให้หมด
#ช่วงเช้าของวันใหม่
ฉันพยายามทำตัวเองให้สดใสทั้งที่ในใจมันยังเจ็บปวด แต่ไม่อยากให้เฮียต้องมาเห็นว่าฉันเอาแต่ร้องไห้ ฉันจึงต้องเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้
“ต้องอยู่ที่อังกฤษจนกว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดเทอม รู้ใช่ไหม” เฮียถาม
“…ค่ะ”
อีกประมาณสี่เดือนมหาวิทยาลัยเปิดเทอม หวังว่าถึงวันนั้นฉันจะเป็นคนใหม่
เฮียเช่าเครื่องบินแบบเหมาลำเพื่อบินไปอังกฤษ เพราะฉะนั้นบนเที่ยวบินนี้จะมีแค่ฉันกับเฮียและลูกน้องของเฮียอีกห้าคนรวมทั้งพี่โจ้ด้วย
“เป็นเพราะเฮีย ถ้าเฮียไม่บังคับเธอให้หมั้นกับไอเลย์ตั้งแต่แรก เธอก็คงไม่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้”
“เฮีย” ฉันเอื้อมมือมาจับมือของเฮีย “ที่เฮียทำเพราะช่วยหนูนะคะ”
“เพราะเฮียเป็นคนเริ่ม…”
“อย่าโทษตัวเองเลยเฮีย หนูเองก็ผิด ผิดที่ใจง่ายไปรักเขาแบบนั้น”
“เฮียไม่คิดว่าไอ้เลย์มันจะกล้าทำถึงขนาดนั้น มันไม่ไว้หน้ากันเลย!!” เฮียพูดอย่างแค้นเคืองกับสิ่งที่พี่เลย์ทำลงไป
ฉันก้มหน้าลง ทั้งที่พยายามเข้มแข็งมาได้ตั้งหลายชั่วโมง แต่ตอนนี้กลับจะมาอ่อนแออีกแล้วหรือไง
“…ไม่ต้องพูดถึงเขาแล้วเฮีย”
เฮียพยักหน้า แล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวฉัน
ฉันพยายามบอกกับตัวเองว่าจะไม่เอาแต่จมปักกับความเสียใจ ถึงแม้วันนี้ฉันจะยังไม่สามารถทำใจได้ แต่ก็ใช่ว่าฉันจะต้องร้องไห้และคิดถึงพี่เลย์ไปตลอด
ใช้เวลาเดินทางข้ามวันข้ามคืน ฉันใช้เวลาส่วนมากไปกับการนอน เพราะหากว่าตื่นมาแล้วจะคิดอะไรฟุ้งซ่าน สิ่งเดียวที่จะทำให้ฉันหยุดความคิดฟุ้งซ่านได้ก็คือการพยายามบังคับตัวเองให้หลับ
#กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ผมถึงเลือกที่จะจบทุกอย่าง เพราะถ้าเธอให้อภัย คิดหรือไงว่าผมจะไม่ทำอีกครั้งที่สองและครั้งที่สาม
“มึงแม่ง!! กูเคยเตือนมึงแล้วใช่ไหมไอ้เลย์ว่าถ้ามึงยังไม่พร้อม อย่าดึงน้องมันมาเจ็บ”
“ทำไงได้วะ ตอนนั้นกูไม่อยากเสียไอริสไป”
“แล้วตอนนี้ล่ะวะ มึงทิ้งไอริสเพราะมึงยังอยากสนุก กูแม่งโครตสงสารไอริสเลยว่ะที่มาเจอคนแบบมึง”
“กูตามให้มาเป็นเพื่อนแดกเหล้า ไม่ได้ตามให้มึงมาด่ากู”
“เลย์!!” เสียงผู้หญิงท้วงขึ้นเป็นเสียงที่คุ้นหู เมื่อได้ยินเสียงไม่ต้องหันไปมองผมก็รู้ว่าเธอเป็นใคร และนั่นทำให้ผมถึงกับต้องถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายทันที
“ทำไมเลย์มาดื่มถึงไม่ชวนฝ้ายเลยคะ แล้วนี่ฝ้ายโทรหาก็ไม่ยอมรับสาย” เธอเดินมากระชากแขนผมอย่างแรง พร้อมกับมองหน้าผมอย่างโกรธเคือง
จะบอกว่าผมเบื่อเธอแล้วมันก็ใช่! เพราะเธอมันงี่เง่ามากกว่าที่เคยคิดเอาไว้ แถมยังเอาแต่โทรตามผมแทบจะตลอดเวลา
“ฉันอยากมาดื่มกับเพื่อน” ผมพูดพร้อมกับแกะมือของเธอออกไปให้พ้นแขนของผม
“เลย์ยังอาลัยอาวรณ์อีอดีตคู่หมั้นใช่ไหม”
“เธอไม่มีสิทธิ์เอ่ยถึงไอริสแบบนั้นนะฝ้าย” ผมขบกรามแน่น ชักจะทนไม่ไหวกับนิสัยของผู้หญิงตรงหน้า
“ทำไมคะ ยังรักมันอยู่หรือไง!!”
“กลับไปก่อน” ผมจ้องหน้าเจออย่างจริงจัง “อย่าลืมสิว่าเธอกับฉันไม่ได้เป็นอะไรกัน และฉันไม่ชอบให้เธอมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของฉันแบบนี้”
“เลย์!!”
“กลับ ไป ซะ!!” ผมพูดเน้นเสียง ทำให้ฝ้ายเธอเดินกระทืบเท้าออกไปทันที
เมื่อฝ้ายเธอเดินไปแล้วผมก็ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายอีกครั้ง
“นี่เหรอวะผู้หญิงที่ทำให้มึงทิ้งไอริสได้ เทียบกันแทบไม่ติดเลยว่ะ มึงแม่งโครตตาต่ำ รู้ตัวไหมไอ้เลย์”
“กูแค่สนุก!” ผมพูดย้ำ ไอ้เหี้ยเตเอาแต่พูดถึงไอริส มันจะพูดให้ได้อะไรขึ้นมาวะ
“ถ้าวันหนึ่งไอริสทำแบบมึง ถ้าเธอแค่สนุกกับผู้ชายไปเรื่อยๆ มึงจะไม่หึง ไม่หวง ?”
ผมคิดตามคำพูดของไอ้เต คำพูดของมันทำให้หัวใจของผมกระตุกวูบ มันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาว่าผมคงไม่มีทางยืนมองเธอกับผู้ชายอื่นได้แน่ๆ แต่ก็ต้องยับยั้งความคิดเอาไว้ เพราะตัวผมเองเลือกที่จะจบทุกอย่างแล้ว
“ไอริสไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น”
“มันก็ไม่แน่ ถ้าเธอเสียใจมากๆ แล้วอยากเปลี่ยนตัวเอง จากผู้หญิงที่แสนจะซื่อบื้อของมึง อาจจะกลายเป็นสาวแซ่บก็ได้ ใครจะไปรู้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ว่าที่ 'เมีย' | Hate love Nc20+